“ผู้มีความริษยาย่อมทำลายตนเอง ย่อมดูหมิ่นตนเองว่าด้อยกว่าผู้อื่น เพราะใครเลยจะริษยาผู้ที่ด้อยกว่าตน”
จิวยี่ เก่งทั้งปัญญาและฝีมือ กำลังทหารก็เข้มแข็งพอที่จะทำลายศัตรูที่มีตัวตนให้ย่อยยับไปได้ แต่น่าอนาถใจอย่างยิ่ง ที่จิวยี่ต้องตายโดยข้าศึก ซึ่งแม้ทหารเลวก็อาจปราบปรามได้ นั่นคือความริษยา
ถ้าจิวยี่จะทำการอย่างใจนักเลงสักหน่อย ขับไล่ความริษยาซึ่งมีแก่ขงเบ้งเสียให้สิ้นก็คงจะคบขงเบ้งไว้เป็นมิตร หาผลประโยชน์จากขงเบ้งได้บ้าง แล้วคงจะไม่รากเลือดตายเพราะความตรอมใจเป็นแน่ แต่ความริษยาเข้าครอบงำหัวใจจิวยี่เสียมืดมิด เมื่อรู้ว่าขงเบ้งมีปัญญามากกว่าตนคราวใด เป็นคิดแต่จะฆ่าเสียทุกครั้ง แต่ผลที่ได้คือความไม่สำเร็จและความกังวลใจ
จิวยี่พบความไม่สำเร็จในการทำลายขงเบ้ง มาทุกคราว และความริษยาก็คอยกระตุ้นเดือนหัวใจให้ชอกช้ำอยู่เสมอ ในที่สุดเพียงได้อ่านจดหมายเยาะเย้ยจากขงเบ้ง จิวยี่ก็อาเจียนออกมาเป็นเลือด-แค้นใจตาย ก่อนจะตายจิวยี่ได้กล่าวว่า
" เทพดาองค์ใดหนอ ซึ่งได้ให้เราเกิดมาแล้ว เหตุใดจึงให้ขงเบ้งมาเกิดด้วยเล่า ? "
ความริษยาเข้าครอบงำหัวใจจิวยี่เสียมืดมิด |
เหล่านี้เป็นคำพูดของตัวริษยาแท้ แต่อย่างไรก็ดี คำพูดประโยคนี้ทำให้เราเวทนาจิวยี่ได้บ้าง เพราะเป็นคำพูดที่แสดงน้ำใจของผู้ทะเยอทะยาน ผู้ปลุกปล้ากับชีวิต ผู้อยากเป็นที่หนึ่ง แต่ขอให้เราเข้าใจว่า ความ ต้องการเป็นที่หนึ่งไม่จำเป็นต้องเที่ยวริษยาผู้อื่น ซึ่งเขามีคุณสามารถเสมอหรือยิ่งกว่าตน
การริษยาผู้อื่นไม่ทำให้ตนสูงขึ้น โดยประการใด และไม่ทำให้ผู้ถูกริษยานั้นเสียประโยชน์ที่เขาควรได้ เขากลับจะภูมิใจเสียอีกว่า เขามีคุณความดีจนผู้อื่น ต้องริษยา
คนมีกำลังใจน้อยเท่านั้นที่กลัวคนริษยา คนใจเข้มแข็งย่อมไม่หวั่นไหว เพราะรู้ดีว่าแม้ความริษยาสำแดงตน คุกคามเป็นปรปักษ์ต่อเขาก็ดี แต่ความริษยานั้นย่อมไม่ทำลายใคร นอกจากนายของมัน
ความริษยาเป็นความชั่วชนิดต่ำที่สุด เพราะไม่ได้สนองผลดีประการใดให้แก่ผู้ประพฤติ ดังจะเห็นตัว อย่างได้ในเรื่องจิวยี่
------------
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของ "บุคคลภาษิตในสามก๊ก" ผลงานของอาจารย์เปลื้อง ณ นคร หรือนามปากกา ตำรา ณ เมืองใต้
กรุณาแสดงความคิดเห็น