“การรู้คุณท่านเป็นทางแห่งความเจริญ ผู้ไม่รู้คุณท่านก็เท่ากับตัดมือตัดตีนตนเอง”
เล่าอั๋นมิได้เป็นตัวสำคัญในเรื่องสามก๊ก เรื่องของเขาจบลงเพียงหนังสือหน้าเดียว แต่พฤติการณ์ของเล่าอั๋นนั้นน่าสรรเสริญ แม้จะกล่าวชมเชยให้ยืดยาวยิ่งกว่าหนังสือสามก๊กก็ยังไม่เพียงพอ
คนสมัยนี้อาจเห็นว่า เล่าอั๋นเป็นบ้า หรืออย่างน้อยก็บอ เล่าอั๋นจึงกระทำการเช่นนั้น แต่ความเห็นเช่นนี้เป็น วิสัยของผู้ที่เห็นแก่ตัวฝ่ายเดียว เราควรจะยึดถือเล่าอั๋นเป็นตัวอย่างในเรื่องความกตัญญูกตเวที ซึ่งเป็นยอดธรรมอันอุดม
เล่าอั๋นเป็นคนแก่เข็ญใจ อยู่สองคนกับภรรยา เมื่อซุนเขียนกับเล่าปี่แตกหนีลิโป้มานั้น ได้เซซังมาขออาศัยบ้านเล่าอั๋น เล่าอั๋นระลึกถึงคุณของเล่าปี่ก็จัดที่ให้อาศัย แต่ไม่มีสิ่งใดจะรับประทาน จึงได้ฆ่าเมียแล้วเชือดเนื้อที่ลำแขนมาผัดคั่ว เป็นเครื่องกับข้าว เล่าปี่ซุนเขียนไม่ทราบเรื่องก็รับประทานไปจนอิ่ม
เล่าอั๋นฆ่าเมียเพื่อทดแทนคุณเล่าปี่ |
ขอผู้อ่านอย่าได้นึกว่า เล่าอั๋นเป็นคนป่าเข็ญใจ หรือเป็นคนเสียจริตอย่างหนึ่งอย่างใดเลย การเสียสละอันประเสริฐสุด เพื่อกระทำปฏิการแก่ผู้มีคุณเช่นนี้ เป็นสิ่งควรเคารพควรเทอดไว้ในที่สูง เราจะมีความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีคุณเพียงหนึ่งในร้อยของเล่าอั๋นก็เหลือพอ
การกระทำปฏิการแก่กันเป็นวิสัยของโลก สัตว์ และพืชก็รวมอยู่ในกฎนี้ด้วยมิได้ยกเว้น คำที่ท่านกล่าวไว้ก็มีอยู่ว่า
“ดินดีเพราะหญ้าปก ป่ารกเพราะเสือยัง เสือมีเพราะหญ้าบัง หญ้ายังเพราะดินดี”
ผู้ไม่รู้จักความกตัญญูก็เท่ากับตัดความสัมพันธ์แห่งโลก ซึ่งไม่ใช่อะไรอื่น นอกจากตัดตัวเองและ ทำลายตนเองโดยไม่ทันรู้สึก เหมือนเนื้อที่ไม่รู้จักคุณของเถาวัลย์อันเป็นที่กำบังตน ถูกนายพรานยิงตายฉะนั้นแล
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของ "บุคคลภาษิตในสามก๊ก" ผลงานของอาจารย์เปลื้อง ณ นคร หรือนามปากกา ตำรา ณ เมืองใต้
กรุณาแสดงความคิดเห็น