กิเลน ประลองเชิง คอลัมนิสต์อาวุโสของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ได้เขียนบทความเปรียบเทียบเหตุการณ์ในวรรณกรรมจีนเรื่องสามก๊กกับสถานการณ์บ้านเมืองไทย ในคอลัมน์ชักธงรบ ในตอนที่ชื่อว่า 'กวนอูตัดหัวฮัวหยง'
วีรบุรุษตัวจริง เสียงจริง...ทำงานด้วยฝีมือและหัวใจ ถ้าจะได้ยินเสียงพูดออกมาบ้าง ก็คงไม่กี่คำ
12 ก.พ.63, กิเลน ประลองเชิง คอลัมนิสต์อาวุโสของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ได้เขียนบทความเปรียบเทียบเหตุการณ์ในวรรณกรรมจีนเรื่องสามก๊กกับสถานการณ์บ้านเมืองไทย ในคอลัมน์ชักธงรบ ในตอนที่ชื่อว่า 'กวนอูตัดหัวฮัวหยง'
เนื้อหาของบทความได้กล่าวถึงสามก๊กตอนที่กวนอูอาสาออกรบไปตัดหัวฮัวหยง และสำเร็จได้ในชั่วพริบตา สุรายังมิทันหายอุ่น แล้วเปรียบเทียบกับโศกนาฏกรรม 'กราดยิงโคราช'
อ่านแล้วได้ข้อคิด ได้แง่มุมสำคัญทางการเมือง จึงขอบันทึกไว้และแบ่งปันให้ทุกท่านได้อ่านกัน
กวนอูตัดหัวฮัวหยง
การสงครามในสมัยสามก๊ก ยังมีการให้ทหารเอกต่อทหารเอก จับคู่รบวัดฝีมือ ใครดีใครอยู่ คู่เอกที่ “ล่อกวนตง” แต่งให้คนติดใจนักหนา คือคู่ กวนอู กับฮัวหยง
(สามก๊ก สำนวนเจ้าพระยาพระคลัง (หน) ราชบัณฑิตยสภาชำระ ซีพีออลล์ สำนักพิมพ์สุขภาพใจ พิมพ์เผยแพร่ พ.ศ.2554)
ตอนนั้น เล่าปี่ กวนอู เตียวหุย สังกัดอยู่กับกองซุนจ้าน...รวมถึงโจโฉ ร่วมรบอยู่กับฝ่ายอ้วนเสี้ยว ทำศึกกับฝ่ายตั๋งโต๊ะ อ้วนเสี้ยวกำลังเจอปัญหา ทหารฝีมือดีถูก “ฮัวหยง” ฆ่าไปแล้วหลายคน
เวลานั้น งันเหลียง บุนทิว สองทหารเอกคู่ใจอ้วนเสี้ยวไม่อยู่ อ้วนเสี้ยวบ่นว่า ครั้งนี้จะได้ใครอาสาออกไป
กวนอูจึงว่าแก่อ้วนเสี้ยวว่า ข้าพเจ้าจะขออาสาไปตัดศีรษะฮัวหยงมาให้ท่าน
อ้วนเสี้ยวได้ยินดังนั้นจึงถามว่า ซึ่งรับอาสานั้นเป็นทหารที่ตำแหน่งใด
กองซุนจ้านจึงบอกว่า คนนี้ชื่อกวนอู ผู้น้องเล่าปี่ เป็นทหารม้าถือเกาทัณฑ์ ฝ่ายอ้วนเสี้ยวได้ยินกองซุนจ้านว่าดังนั้นก็โกรธ จึงร้องตวาดว่ากวนอูเป็นแต่ทหารเลว มาดูหมิ่นนายทัพนายกองหัวเมืองทั้งปวง บังอาจเข้ารับอาสา
และทหารหัวเมืองทั้งปวงยังมีอยู่เป็นอันมาก พอจะทำการศึกสืบไป จึงให้ทหารขับกวนอูออกไปเสีย
โจโฉจึงห้ามอ้วนเสี้ยวว่า ท่านอย่าเพ่อโกรธก่อน ท่วงทีกวนอูนี้จะมีฝีมือกล้าหาญอยู่จึงขันอาสา ถ้าไม่สมดังปากว่าจึงจะเอาโทษถึงตาย
อ้วนเสี้ยวจึงว่ากวนอูเป็นทหารเลว ครั้นจะให้ออกไปรบกับฮัวหยง ฮัวหยงก็จะหัวเราะเย้ยเล่น ว่าในกองทัพเรานี้ไม่มีทหารเอกแล้ว
โจโฉจึงว่าข้าพเจ้าเห็นรูปร่างกวนอูนี้โตใหญ่คมสันอยู่ เห็นสมเป็นทหารเอก ฮัวหยงจะไม่รู้ว่าเป็นทหารเลว กวนอูจึงว่า จะอาสาออกไป ครั้งนี้ ถ้าไม่ได้ศีรษะฮัวหยงเข้ามา ท่านจงเอาศีรษะข้าพเจ้าไว้แทนเถิด
อ้วนเสี้ยวได้ยินดังนั้น ก็มีความยินดี จึงเกณฑ์ทหารให้กวนอู
โจโฉจึงให้อุ่นสุรา แล้วจึงรินใส่จอกยื่นให้กวนอู กวนอูคำนับแล้วว่า ข้าพเจ้าเป็นแค่ทหารเลว ซึ่งท่านจะให้สุรากินนั้น ขอให้ท่านงดไว้ก่อน เมื่อใดข้าพเจ้าออกไปได้ศีรษะฮัวหยงมาแล้ว ข้าพเจ้าจึงจะรับเอาสุราของท่านกิน
แล้วกวนอูขี่ม้าถือง้าวออกไปรบด้วยฮัวหยง
ฝ่ายหัวเมืองทั้งปวงซึ่งอยู่ในค่ายนั้น ได้ยินเสียงกลองแลม้าฬ่ออื้ออึง ก็ชวนกันออกไปดูกวนอูจะรบกับฮัวหยง ครั้นออกไปถึงประตูค่าย ก็เห็นกวนอูหิ้วศีรษะฮัวหยงกลับเข้ามาทิ้งไว้ตรงหน้าค่าย
นายทัพนายกองทั้งปวงเห็นก็ดีใจ จึงพากวนอูเข้ามาในค่าย โจโฉจึงเอาจอกสุรานั้นมาคำนับ แล้วใส่ให้กวนอู กวนอูคำนับตอบ แล้วรับเอาจอกสุรานั้นมากิน
จอกสุรานั้นยังอุ่นอยู่
การสู้รบวัดฝีมือ ระหว่างทหารกับทหารในสามก๊ก ที่ล่อกวนตงแต่งเป็นนิยาย...มีนับครั้งไม่ถ้วน แต่ตอนกวนอูตัดหัวฮัวหยง...ชั่วเวลาสุรายังอุ่น...คนอ่านชอบใจกันมากกว่าตอนอื่นๆ งิ้วเอาเล่นคนดูก็ล้นหลาม
สงครามย่อยที่โคราชจบ...นับศพตำรวจทหารกันไปแล้ว...มีวีรบุรุษเกิดขึ้นมากมาย...ตำรวจทหารที่ตาย...รปภ.ห้างที่ช่วยพาคนหนีออกมาได้ คนขับรถรับจ้างอาสาส่งฟรี ฯลฯ
รวมไปถึงท่านผู้ใหญ่หลายท่าน ที่ก็ไปแสดงตัวทำงานตามหน้าที่ ก็เล่นบทได้พอดีๆ แต่กับแฟนๆที่จดจ่อติดตามสถานการณ์ ตลอด 17-18 ชั่วโมง หันหน้าไปซุบซิบประเด็นเดียวตรงกัน
ประทับใจที่สุด คู่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ในบทนักรบหลังศึกจบ...คู่กับลูกชาย
ผมได้ยินแล้ว ไม่แปลกใจ วีรบุรุษตัวจริง เสียงจริง...ทำงานด้วยฝีมือและหัวใจ ถ้าจะได้ยินเสียงพูดออกมาบ้าง ก็คงไม่กี่คำ.
กิเลน ประลองเชิง
กรุณาแสดงความคิดเห็น