นักรบผู้เกรียงไกรเจนสมรภูมิอย่าง “ลิโป้” ตายด้วยน้ำมือใคร ระหว่าง “โจโฉ” กับ “เล่าปี่”
ชวนคิดเล่นๆ นักรบผู้เกรียงไกรเจนสมรภูมิอย่าง “ลิโป้” ตายด้วยน้ำมือใคร ระหว่าง “โจโฉ” กับ “เล่าปี่”
ตั้งคำถามเล่นๆตั้งแต่ต้นทางให้ท่านได้คิดตามอย่างสนุกๆไปพร้อมๆกัน
“ลิโป้” ถือเป็นตัวละครหนึ่งที่โลดแล่นอย่างมีสีสันไม่น้อยในวรรณกรรมสามก๊ก เปิดตัวด้วยการเป็นขุนทหารหัวเมืองที่ร่วมโค่นอำนาจสิบขันที ที่ทำให้ราชสำนักปั่นป่วน “ลิโป้” มีความสัมพันธ์ในเชิงเพื่อนร่วมงาน ร่วมรบ กับทั้ง “โจโฉ” และ “เล่าปี่”
กับ “โจโฉ” เคยร่วมทำงานในฐานะคนสนิทของ “ตั๋งโต๊ะ”
กับ “เล่าปี่” นั้นก็เคยได้รับความเมตตาให้อาศัยอยู่ด้วยเมื่อพ่ายรบจนหาที่ไปไม่ได้
.....
“ลิโป้” เดิมเป็นทหารของ “เต๊กหงวน” เจ้าเมืองเต๊งจิ๋ว เป็นหนึ่งในกองทัพหัวเมืองที่เข้าร่วมปราบกบฏสิบขันที “เต๊กหงวน” รักใคร่เอ็นดูและรับไว้เป็นบุตรบุญธรรม “ลิโป้” เรียก “เต๊กหงวน”ว่าพ่อ
เมื่อปราบสิบขันทีได้ราบคาบแล้ว แต่เหตุบ้านการเมืองยังไม่สงบ เหล่าทหารหัวเมืองยังไม่ยกทัพกลับ “ตั๋งโต๊ะ” ในฐานะที่มีอาวุโสได้รับความเกรงใจจากทหารหัวเมือง กลับมีท่าทีกำเริบเสิบสาน ลืมเกรงใจทุกคนไป
“ตั๋งโต๊ะ” เรียกประชุมทหารหัวเมืองเพื่อหารือราชการ ซึ่ง ณ ขณะนั้นเป็นที่รู้กันว่าไม่มีใครกล้าขวางแนวคิดของ “ตั๋งโต๊ะ” ดีครับท่าน ถูกต้องครับพี่ ดีครับท่าน เหมาะสมครับนาย สุดยอดมากครับ ทุกๆคนจะยอวาทีในทำนองนี้ แต่ “เต๊กหงวน” ไม่เห็นด้วยจึงลุกออกจากที่ประชุม “ตั๋งโต๊ะ” รู้สึกเหมือนถูกเหยียบหน้าจึงสั่งให้ทหารทำอะไรสักอย่างเพื่อสั่งสอน แต่ก็ไม่มีใครกล้าหือกับ “เต๊กหงวน” เพราะ “ลิโป้”ยืนอยู่เคียงข้างพร้อมที่จะปกป้องนาย
หลังเหตุการณ์นั้น “ตั๋งโต๊ะ” จึงอยากได้ “ลิโป้” มาเป็นคนของตนบ้าง จึงเรียกลูกน้องคนสนิทมาหารือ คนสนิทบอกกับ “ตั๋งโต๊ะ”ว่าอยากได้ “ลิโป้”นั้นง่ายนิดเดียว เพียงแค่ติดสินบนหนักๆ ให้ข้าวของเงินทองเป็นตัวล่อเพราะ “ลิโป้” เป็นคนกระหายเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว
“ตั๋งโต๊ะ” ทุ่มไม่อั้นและก็ได้ตัว “ลิโป้” มาอยู่ด้วยจริงๆ
“ลิโป้” ฆ่า!!! “เต๊กหงวน”
......
ลิโป้ |
“ลิโป้”มาอยู่กับ “ตั๋งโต๊ะ” เรียก “ตั๋งโต๊ะ”ว่าพ่ออีก เป็นที่มาของคำด่าแบบแสบๆคันๆที่ “เตียวหุย”ชอบประเคนให้ว่า “ไอ้ลูกสามพ่อ”
อยู่กันได้ไม่เท่าไร “ลิโป้” ก็ฆ่า “ตั๋งโต๊ะ” ด้วยสาเหตุที่ไม่ลงรอยกันเพราะแย่งนาง “เตียวเสี้ยน” บุตรบุญธรรมของ อ้องอุ้น (เขียนไว้ในตอน “มักสาวคนเดียวกัน เป็นเหตุให้แตกคอ”)
หลังจากที่ฆ่า “ตั๊งโต๊ะ” แล้ว วิถีแห่งนักรบพเนจรก็ตกอยู่กับ “ลิโป้”ทำให้ต้องท่องยุทธ์ไปหลายที่ขออาศัยไปหลายคน จนที่สุดได้มาซุกปีก “เล่าปี่” ณ เมืองซีจิ๋ว
“เล่าปี่” ให้ “ลิโป้”ไปอยู่ที่เมืองเสียวพ่าย อันเป็นเมืองรองในอาณาจักรของ “เล่าปี่” เพราะ “ลิโป้” เป็นไม้เบื่อไม้เมากับ “เตียวหุย” จะอยู่ด้วยกันก็เกรงจะมีเหตุขบเหลี่ยมกัน
วันดีคืนดี “ลิโป้” ก็กลับมาชิงเอาเมืองซีจิ๋ว ทำให้ “เล่าปี่” ต้องหนีไปซุกปีก “โจโฉ”
เห็นไหมครับเรื่องมันก็อลวน อลเวงกันอยู่อย่างนี้แล
……
“โจโฉ” ยกทัพไปปราบ “ลิโป้”
“ลิโป้” อยู่ ณ เมืองแห้ฝือ อันเป็นฐานที่มั่นสุดท้าย เลือกใช้ยุทธวิธีรบยืดเยื้อต่อสู้กับ “โจโฉ” เนื่องจากมั่นใจว่ามีเสบียงอาหารอย่างเหลือเฟือ “โจโฉ”คงจะถอยร่นไปเองเมื่อเสบียงใกล้หมด แต่ทุกอย่างกลับผิดคาด
“โจโฉ” ใช้วิธีนำกำลังทหารทำฝ่ายทดน้ำ เบี่ยงทางน้ำในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้น้องน้ำไหล่บ่าเข้าท่วมเมือง
น้ำไหลเข้าท่วมเมืองราษฎรได้รับความรำบากทุกหย่อมหญ้า “ลิโป้” ยิ่งคิดยิ่งกลุ้มหาทางออกไม่ได้ จึงหันไปพึ่งสุรา วันๆไม่เป็นอันทำราชการ ก๊กแต่สุราล้วงแต่นารี จนใบหน้าซูบโทรม มองตนเองในกระจกเห็นแค่ราคี ไร้ราศี จึงออกคำสั่งห้ามทุกคนดื่มสุรา หรือแม้แต่เอ่ยคำว่าสุราให้ได้ยิน ก็ไม่ได้
คุ้นๆไหมเอ่ย คำสั่งนี้ เคยเขียนเล่าให้ฟังแล้ว (ตอน : สุราไม่พาเพลิน)
อยู่มาวันหนึ่ง “เฮาเสง” นายทหารผู้ดูแลม้าศึก จับได้ว่าลูกน้องแอบลักลอบนำม้าไปขาย และจับขบวนการมาลงโทษได้ เพื่อนๆจึงแวะมาร่วมแสดงความยินดีที่บ้าน “เฮาเสง”อยากเลี้ยงข้าวเลี้ยงเหล้าเพื่อนๆ อันเป็นธรรมเนียมแขกมาเยือนต้องต้อนรับขับสู้เป็นธรรมดา จึงไปขออนุญาต “ลิโป้”
แต่กลับยิ่งเหมือนเอาน้ำมันไปราดไฟ “ลิโป้” สั่งให้เอาตัว “เฮาเสง” ไปฆ่าเสียฐานขัดคำสั่ง สุดท้ายเพื่อนขุนนางผู้ใหญ่ได้ขอร้องเอาไว้ โทษตายจึงเว้นเหลือเพียงโทษโบย สร้างความเจ็บช้ำระกำใจยิ่ง
เจ็บนี้ต้องเอาคืน
“เฮาเสง” ปรึกษากับเพื่อนว่า ขืนอยู่ไปอย่างนี้มีแต่ตายกับตาย จึงวางแผนกันจับตัว “ลิโป้” ไปให้ “โจโฉ”
สุดท้าย “ลิโป้” สิ้นฤทธิ์ให้กับลูกน้องตัวเอง
จะไม่ให้สิ้นฤทธิ์ได้อย่างไรในเมื่อถูกถอดเขี้ยวเล็บด้วยการ ลักเอาอาวุธคู่กายแล “ม้าเช็กเธาว์”คู่ใจ ไปจาก “ลิโป้” นักรบไร้อาวุธไร้ม้าก็จบเห่ซิ
.....
ลิโป้ ถูกจับ |
“ลิโป้” เมื่อถูกจับได้ และกำลังจะถูกสำเร็จโทษ กลับกลายเป็นคนละคน แววแห่งนักรบผู้เกรียงไกรหล่นหายไปแต่เมื่อไรไม่รู้
“มหาอุปราชช่วยข้าด้วย”
นี่คือคำพูดเกือบจะสุดท้ายของลมหายใจของ “ลิโป้” ที่ออกปากกับ “โจโฉ”แต่กลับไม่เป็นผล
“โจโฉ” ตอบกลับนิ่มๆว่า
“อันธรรมดาเสือจำจะผูกไว้ให้มั่นคง ซึ่งจะคลายอย่างนั้นไม่ได้”
เมื่อขอกับ “โจโฉ” ไม่เป็นผล จึงหันไปทาง “เล่าปี่” แล้วออกปากออกไปว่า
“มหาอุปราชนับถือท่านอยู่ครั้งนี้ข้าพเจ้าไม่พ้นตาย ท่านจงคิดอ่านว่ากล่าวขอชีวิตให้รอดด้วยเถิด คุณท่านจะมีสืบไป”
“เล่าปี่” ก็ทำเป็นนิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยิ่งทำให้ “ลิโป้” ลืมซึ่งศักดิ์ศรีแห่งนักรบผู้เกรียงไกร หวังเพียงเหลือลมหายใจไว้เท่านั้นพอแล้ว จึงหันไปอ้อนวอนกับกับ “โจโฉ”อีกครั้งว่า
“ทุกวันนี้มหาอุปราชคิดการใหญ่อยู่ เสี้ยนหนามก็มีแต่ข้าพเจ้า วันนี้จับข้าพเจ้าได้แล้ว ข้าพเจ้าขอชีวิตไว้ทำการสนองคุณท่าน นานไปราชสมบัติจะเป็นสิทธิ์แก่ท่าน”
“โจโฉ” ไม่ตอบประการใด เพียงแต่หันหน้ามามองตา “เล่าปี่” เพื่อขอความเห็นเท่านั้น และ “เล่าปี่”ก็ตอบออกไปสั้นๆ แต่เจ็บ!!!ว่า
“ครั้งเต๊กหงวน กับตั๋งโต๊ะ ตายนั้นท่านรู้แจ้งอยู่ ไฉนจึงกลับมาย้อนถามหารือข้าพเจ้าอีกเล่า”
แล้วทุกอย่างก็จบลง
“ลิโป้” นักรบผู้เกรียงไกรจึงถูกประหาร ในนาทีต่อมา
คงมีคำตอบในใจแล้วนะ “ลิโป้” ตายด้วยน้ำมือใคร…?
ปรีชา นาฬิกุล
๒๕ ก.ย.๒๕๖๒
หมายเหตุ : บทความนี้เป็นผลงานของคุณ ปรีชา นาฬิกุล จากเพจ "หยิบสามก๊ก มาถกเล่น" ที่แบ่งปันมาให้อ่านเล่นกัน หากนักอ่านท่านใดสนใจบทความสามก๊กดี ๆ เพิ่มเติม สามารถแวะไปเยี่ยมชมได้ ทั้งนี้ต้องขอขอบพระคุณท่านมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ
ตายด้วยนิสัยของตัวลิโป้เอง ที่ต่อให้ใครเลี้ยงไว้ดีแค่ไหนก็มีความแต่จิตใจที่คิดว่าตนเองเก่ง ไม่คิดมาก อยากได้แค่สิ่งต้องการ พร้อมฆ่าใครก็ได้ ที่ยืนขวาง ผลคือใครเลี้ยงไว้ต่อก็ไม่มีผลดี เล่าปี่คิดเร็าเอาตัวรอดถ้าโจโฉเลี้ยงลิโป้ไว้ เลาาปี่ก็อาจจะตายเป็นรายต่อไปก่อนโจโฉ เลยพูดเรื่องในอดีต ให้โจโฉคิดตาม ว่าภัยนี้ควรระวัง
ตอบลบ