เงื่อนไขเหมือนไผ่ลู่ลม จัดการเป็น ปิดจ็อบง่าย

เงื่อนไขแม้จะยิ่งใหญ่แค่ไหน สุดท้ายก็คงคล้ายไผ่ลู่ลม แรงลมโหมพัดไปฝ่ายไหน กิ่งไผ่ย่อมโน้มไปอยู่ฝ่ายนั้น นั่นหมายความถึงฝ่ายไหนจัดการเงื่อนไขได้ดีกว่า ฝ่ายนั้นย่อมเป็นเข้าวิน ปิดจ็อบได้ง่าย เช่นเดียวกับเมื่อคราวที่ “โจโฉ” รู้จักจัดการเงื่อนไขที่ “กวนอู” ยื่นมา

ในทางการเมืองทุกครั้งไปเมื่อไม่มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดได้สิทธิ์ขาดในการจัดตั้งรัฐบาล ก็จำต้องเกิดรัฐบาลผสม แม้โดยประเพณีที่เคยถือปฏิบัติ ย้ำ!!! ที่เคยถือปฏิบัติ

พรรคที่ได้จำนวนสมาชิกเข้าสภาเป็นอันดับที่หนึ่ง จะเป็นผู้รวมเสียงก่อน แต่บังเอิญประเพณีนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่ยุคอนาล็อค พอก้าวสู่ยุคดิจิตอล จึงมีอาการคล้ายๆกับเรากำลังจ้องจอมอร์นิเตอร์ที่กำลังเออเล่อตัวเลขดิจิตอลพลิกไปพลิกมา ไม่รู้เลขไหนเป็นเลขไหน

แล้วจะถามถึงมารยาทกะใครล่ะ เมื่อมารยาทรับทานไม่ได้ “ด้านได้อายอด” 
พ.ศ.นี้จึงไม่มีอาการเหนียมให้เห็น แม่นบ่

....

วันนี้ (๑๗ พ.ค.๒๕๖๒) นักการเมืองใหญ่พรรคสีฟ้าออกมาแสดงทัศนะในนามส่วนตัว ซึ่งมองลึกๆเสมือนเป็นหน่วยกล้าตาย ออกมาแสดงเงื่อนไขในการที่จะเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับฝ่ายพรรคพลังประชารัฐ ไว้ ๕ ข้อ

๑. นายกฯต้องไม่ใช่ลุง
๒. ต้องเคารพคะแนนเสียงของคนที่เลือกพรรคสีฟ้าสามล้านเก้าแสนคะแนน
๓. ต้องเป็นไปตามปณิธานของพรรคที่ดำรงมากว่าเจ็ดสิบปี นั่นคือต่อต้านเผด็จการทหาร
๔. รับไม่ได้ที่ลุงเปลี่ยนสถานะจากผู้จัดการความขัดแย้ง กลายเป็นผู้สร้างเงื่อนไขใหม่ในความขัดแย้ง เพราะรับปากเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคการเมืองไปแล้ว
๕. ต้องตั้งรัฐบาลแห่งชาติ หานายกฯคนกลางมาทำงานในเวลา ๒ ปีแล้วคืนอำนาจประชาชน

เงื่อนไขทั้ง ๕ ที่ทิ้งบอมป์มานี้ สื่อให้เห็นถึงความไม่เสถียรในการจัดการ ฝุ่นตลบยิ่งกว่า PM2.5 ถล่มกรุงฯเมื่อต้นปี

……

กวนอู

พูดถึงเรื่องเงื่อนไข นึกถึงเมื่อตอนที่ “กวนอู” จนมุมจนต้องเข้าด้วยกับ “โจโฉ” แต่ใช่ว่าจะเข้าด้วยง่ายๆ “กวนอู” มีเงื่อนไขสูงพอสมควร แต่ “โจโฉ”ชั่งน้ำหนักถึงความคุ้มค่าแล้วจึงพร้อมยอมรับทุกเงื่อนไข

เรื่องมีอยู่ว่า “โจโฉ” นำทัพล้อมปราบ “กวนอู” ณ “เมืองแห้ฝือ” ซึ่งเป็นหัวเมืองที่ “เล่าปี่” ส่งครอบครัวลูกเมียไปอยู่ จึงต้องให้ “กวนอู” อันเป็นที่ไว้วางใจที่สุดมาดูแล

ซึ่งขณะนั้น “เล่าปี่” กับ “เตียวหุย” ก็เพลี่ยงพล้ำแตกกระสานซ่านเซ็นไปคนละทิศละทาง

“กวนอู” ต้องกลศึกของฝ่าย “โจโฉ” จนถูกต้อนเข้ามุมอับ ถูกกดดันอย่างหนักให้เข้ามอบตัว นาทีนั้น “กวนอู” คิดจะสู้ตายอย่างเดียว จนลืมนึกถึงภาระใหญ่หลวงที่ตนรับปาก “เล่าปี่” ไว้ โดยเฉพาะการปกป้องครอบครัวลูกเมียของ “เล่าปี่”

“เตียวเลี้ยว” คนสนิทของ “โจโฉ” จึงเตือนสติให้ “กวนอู” รู้จักรักษาลมหายใจเพื่อวันข้างหน้า

“เตียวเลี้ยว” ดึงสติ “กวนอู” กลับมาได้ด้วยการให้แง่คิด ๓ ประการ

๑. ถ้าตัดสินใจตาย ณ ตอนนี้เท่ากับผิดคำสาบานที่ให้ไว้กับ “เล่าปี่” และ “เตียวหุย” ในข้อที่ว่าแม้ไม่เกิดวันเดือนปีเดียวกันแต่ขอตายวันเดือนปีเดียวกัน
๒. ถ้าตัดสินใจตายก็ผิดคำสัญญาข้อที่ว่าจะร่วมหัวจมท้ายปราบกบฎและรวมแผ่นดินให้เป็นหนึ่ง
๓. ถ้าตัดสินใจตายเท่ากับบกพร่องในหน้าที่ โดยเฉพาะการไม่ดูแลครอบครัวลูกเมียของ “เล่าปี่” ให้ดี

“เตียวเลี้ยว” เชือด “กวนอู” นิ่มๆ

เมื่อ “กวนอู” รับฟังและพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง เห็นว่าทั้ง ๓ ข้อนั้นมีเหตุผลสมควรแก่เหตุ จึงให้ “เตียวเลี้ยว” นำเงื่อนไขของตนไปบอกกับ “โจโฉ” บ้าง หากรับได้จึงจะเข้าร่วมด้วย

.....

เตียวเลี้ยว เกลี้ยกล่อม กวนอู

“กวนอู” ตั้งเงื่อนไขในการเข้าร่วมกับ “โจโฉ” ไว้ ๓ ข้อ

๑. ขอเป็นข้ารับใช้ขึ้นตรงต่อ “พระเจ้าเหี้ยนเต้” (บ่แม่นเจ้าเด๊อ “โจโฉ”)
๒. ขอให้จัดเบี้ยหวัดเงินทองข้าวของเครื่องใช้แก่ครอบครัวของ “เล่าปี่” เทียบเท่ากับที่ “เล่าปี่”เคยได้ ง่าย ๆ คือยกเงินเดือนและสวัสดิการต่างๆของ “เล่าปี่” ให้ “เมียเล่าปี่” เสีย
๓. เมื่อทราบข่าวว่า “เล่าปี่” อยู่แห่งหนตำบลใด แม้ไม่ได้ลาก็จะรีบไปหา โดยอย่าให้ “โจโฉ” ถือโทษโกรธเคือง

แว๊บแรกเลย “โจโฉ” เมื่อได้เห็นเงื่อนไขทั้ง ๓ ข้อ ถึงกับอึ้งและส่ายหัวทันที “ข่อยรับบ่ได้” 
โดยเฉพาะข้อที่ ๓ เพราะหมายความว่าจะเลี้ยงดูปูเสื่อดีอย่างไรสุดท้ายก็ต้องจากไปอยู่ดี

“เตียวเลี้ยว” อีกนั่นล่ะที่เป็นฝ่ายเรียกสติ “โจโฉ” กลับคืน พยายามหว่านล้อมให้รู้ประมาณว่า คิดการใหญ่หมายการข้างหน้าเหตุไฉนต้องคิดเล็กคิดน้อยด้วย

เมื่อได้สติกลับคืนมา “โจโฉ” จึงคลายลงยอมรับทุกเงื่อนไขที่ “กวนอู” เสนอ จึงได้ “กวนอู” มาไว้ใช้งานเยี่ยงทหารเสืออย่างภักดีอยู่ช่วงใหญ่ ๆ ออกทัพมีความชอบอยู่หลายครั้ง

แม้ว่า “โจโฉ” จะเลี้ยงดูเป็นอย่างดี หาสิ่งบันเทิงที่เป็นการยั่วกิเลสให้แก่ “กวนอู” มากมายเพียงใดก็ไม่อาจเปลี่ยนใจได้ เมื่อถึงคราวที่ทราบข่าวว่า “เล่าปี่” อยู่ที่ไหนก็รีบตามไปหาจนถึงขั้นแหกด่านฆ่าทหารเอกของ “โจโฉ” ตั้งหลายนาย

นั้นคือความจงรักภักดีที่มีต่ออุดมการณ์ที่ “กวนอู” มีต่อ “เล่าปี่” มั่นคงยิ่งกว่า

....

กวนอูเข้ารับราชการกับโจโฉ

เงื่อนไขแม้จะยิ่งใหญ่แค่ไหน สุดท้ายก็คงคล้ายไผ่ลู่ลม แรงลมโหมพัดไปฝ่ายไหน กิ่งไผ่ย่อมโน้มไปอยู่ฝ่ายนั้น นั่นหมายความถึงฝ่ายไหนจัดการเงื่อนไขได้ดีกว่า ฝ่ายนั้นย่อมเป็นเข้าวิน ปิดจ็อบได้ง่าย

เช่นเดียวกับเมื่อคราวที่ “โจโฉ” รู้จักจัดการเงื่อนไขที่ “กวนอู” ยื่นมา

ปรีชา นาฬิกุล

๑๗ เม.ย.๒๕๖๒

หมายเหตุ : บทความนี้เป็นผลงานของคุณ ปรีชา นาฬิกุล จากเพจ "หยิบสามก๊ก มาถกเล่น" ที่แบ่งปันมาให้อ่านเล่นกัน หากนักอ่านท่านใดสนใจบทความสามก๊กดี ๆ เพิ่มเติม สามารถแวะไปเยี่ยมชมได้ ทั้งนี้ต้องขอขอบพระคุณท่านมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ