เรียนรู้วิธีการที่โจโฉใช้อบรมสั่งสอนลูก 4 เรื่อง อันเป็นการส่งต่อความยิ่งใหญ่ จากรุ่นสู่รุ่น ใน "พ่อรวยสอนลูก ฉบับ โจโฉ"
"พ่อรวยสอนเรื่องเงิน โจโฉสอนให้ลูกคิดแบบผู้นำ"โจโฉ จอมคนแห่งยุคสามก๊ก ผู้ปกครองอาณาจักรวุย เป็นอัจฉริยบุคคล เชี่ยวชาญความรู้ทั้งบุ๋นและบู๊ ในวรรณกรรมสามก๊ก โจโฉถูกมองเป็นตัวร้าย ขุนนางเจ้าเล่ห์ ผู้แอบอ้างราชโองการ เป็นทรราชผู้อยู่เบื้องหลังราชบัลลังก์
ถึงแม้ว่าในวรรณกรรม จะเขียนให้โจโฉเป็นผู้ร้าย แต่ในแง่ของความเป็นผู้นำ ไม่ว่าจะเป็นด้านการทหาร การเมือง การปกครอง ไม่มีใครปฏิเสธเลยว่า โจโฉคือสุดยอดผู้นำแห่งยุค
ในด้านครอบครัว โจโฉก็ทำได้ดีมาก เขามีวิธีการสอนลูก ๆ อย่าง โจผี โจเจียง โจสิด โจหิม ที่น่าสนใจ เป็นการส่งต่อความยิ่งใหญ่ จากรุ่นสู่รุ่น หากเป็นสมัยนี้ก็คงเป็นแนวตำรา พ่อรวยสอนลูก ที่คนในวงการธุรกิจรู้จักกันดี
โจโฉ มีวิธีการอบรม สั่งสอน และทดสอบลูก ๆ ตามแนวทาง "พ่อรวยสอนลูก ฉบับ โจโฉ" ดังนี้
1. แสดงออกอย่างเหมาะสม
โจผี |
ต่อมาเมื่อถึงคราวต้องเลือกผู้สืบทอดอำนาจ โจโฉเห็นว่า โจสิดมีสติปัญญา แต่น้ำใจกำเริบ แสดงออกมากเกินไป ดูไม่จริงใจ โจเจียงกับโจหิมก็ไม่รู้จักการวางตน ไม่อาจเป็นผู้นำ ส่วนโจผีนั้นแสดงออกถึงความสัมพันธ์ พ่อ - ลูก ได้อย่างเหมาะสม จึงคิดตั้งโจผี ลูกคนโตเป็นผู้สืบทอด แม้จะรักโจสิดมากกว่าก็ตาม
ความตั้งใจนี้ยังเด่นชัดขึ้น เมื่อโจโฉปรึกษากับกาเซี่ยง กาเซี่ยงเห็นพ้องกับโจโฉ แต่ตอบเพียงว่า ไม่ขอออกความเห็น แต่ขอให้ท่านพิเคราะห์ดูอย่างอ้วนเสียวกับเล่าเปียวเถิด โจโฉได้ฟังก็หัวเราะชอบใจ แล้วตั้งโจผีให้เป็นผู้สืบทอด
ข้อนี้โจโฉได้ลองใจลูกแล้วว่า ผู้นำที่ดีย่อมรู้จักวิธีการแสดงออกอย่างเหมาะสม ในการเอาชนะใจคน วางตนอย่างถูกกาลเทศะ ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป
2. สนใจผลลัพธ์มากกว่าวิธีการ
โจสิด |
โจผีลูกคนโต เดินมาถึงประตูวัง ทหารยามห้ามไม่ให้ผ่าน โจผีก็ไม่กล้าเดินผ่าน ส่วนโจสิดห้าวหาญ ทหารยามห้ามไม่ให้ผ่าน โจสิดก็ตวาดใส่ว่าได้รับคำสั่ง แล้วฆ่าทหารยาม เดินผ่านประตูไป
โจโฉ เห็นความเด็ดขาดของลูกทั้งสอง ในใจก็นับถือโจสิด ที่มีความเด็ดขาดมากกว่าโจผี สามารถทำภารกิจอย่างได้ลุล่วง สนใจผลลัพธ์มากกว่าวิธีการ
บางครั้งผู้นำจำต้องตัดสินใจ เพราะผลลัพธ์สำคัญกว่าวิธีการเสมอ
3. ยังประโยชน์ให้แก่คนหมู่มาก
โจเจียง |
“เจ้าไม่พอใจอ่านหนังสือ พอใจแต่ขี่ม้ายิงเกาทัณฑ์ ศิลปะศาสตร์นี้เป็นประโยชน์มีกำลังแต่ผู้เดียว ไม่มีเกียรติยศเลื่องลือ”
โจเจียงจึงตอบว่า อันศิลปะศาสตร์สิ่งนี้ก็เป็นการทหารสำหรับลูกผู้ชาย อาจสามารถจะคุมทหารได้ถึงแสนหนึ่ง จะหาความชอบรักษาแผ่นดินก็จะดีกว่าเรียนหนังสืออีก
แน่นอนว่าคำตอบของโจเจียง ไม่ค่อยจะถูกใจโจโฉนัก แต่เมื่อเห็นลูกคนนี้รักในการทหารมากกว่าจะเป็นผู้นำทัพ โจโฉก็ได้แต่เลยตามเลย
ความตั้งใจของโจโฉ นั้นเด่นชัดแล้วว่า เขาให้ความสำคัญของวิชาความรู้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่คนหมู่มาก
เก่งคนเดียว ได้ประโยชน์คนเดียว ไม่อาจเป็นผู้นำที่ดี
4. บทบาทตามหัวโขน
โจโฉ สอนลูกอยู่เสมอให้สนใจในบทบาทและหน้าที่และหน้าที่ของตน อย่าให้ความสัมพันธ์ส่วนตัวมาปะปนกับเรื่องงานครั้งหนึ่ง โจโฉสั่งให้โจเจียง ยกกองทัพไปปราบกบฏ ก่อนไปโจโฉได้สั่งสอนว่า
“เมื่อเราอยู่บ้านอยู่เรือนนั้นเป็นพ่อลูกกัน บัดนี้เจ้าจะไปทำการศึก ก็เหมือนข้ากับเจ้า อย่าได้คิดประมาท ถ้าผิดก็จะเอาโทษตามผิด เราสั่งสอนเจ้าจงควรจำเถิด”
คำกล่าวของโจโฉนี้ เป็นการสอนลูกให้รู้จักรับผิดชอบหน้าที่ของตน อยู่บ้านคือพ่อกับลูก แต่เมื่ออยู่ในสนามรบ มีเพียงนายกับบ่าว ทำการสิ่งใดก็อย่าประมาท อย่าถือตนว่าเป็นลูกของนายแล้วจะทำอะไรก็ได้
ในหน้าที่การงาน บทบาทต้องว่ากันตามตำแหน่งของหัวโขนที่สวมอยู่เท่านั้น
.................
พ่อรวยสอนลูก ฉบับ โจโฉ ทั้ง 4 ข้อ |
พ่อรวยสอนลูกต้นฉบับ สอนเรื่อง เงินสี่ด้าน คนสี่ประเภท (ESBI) แต่พ่อรวยสอนลูกฉบับโจโฉ คัดวิธีการที่โจโฉใช้อบรมสั่งสอนลูก 4 เรื่อง ซึ่งปรากฏอยู่ในวรรณกรรมสามก๊กมาบอกกล่าวเล่าขานใหม่ เป็นวิธีสอนให้ลูกคิดแบบผู้นำ
สามก๊กวิทยา จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อท่านผู้อ่าน ในการนำไปประยุกติ์ใช้อย่างเหมาะสมต่อไปนะครับ
กรุณาแสดงความคิดเห็น