ยีเอ๋ง นักปราชญ์หนุ่มยุคสามก๊ก มีความรู้ในวิชาการ และดนตรี แต่สิ่งหนึ่งที่ยีเอ๋งขาดไป คือความตระหนักรู้ในเรื่องความชั่วทางวาจา หรือ วจีทุจริต
สํโวหาเรน โสเจยฺยํ เวทิตพฺพํ
ความเป็นผู้สะอาด พึงทราบได้ด้วยถ้อยคำสำนวน
(พุทธศาสนสุภาษิต : วาจา)
- [message]
- มนุษย์
- มนุษย์เรามีความสามารถอย่างหนึ่งที่เหนือกว่าสิ่งมีชีวิตใด ๆ บนโลก คือการแสดงความรู้สึก สื่อสารกันด้วยภาษา เราสามารถเขียนมันออกมาเป็นตัวหนังสือ พูดมันออกมา ขับขานให้ไพเราะเป็นบทกวีและบทเพลง
แต่ก็ด้วยภาษาอีกนั่นแหละครับ ที่มักจะนำเภทภัยมาให้ผู้สื่อมันออกมา ดังคำที่ว่า "โรคเข้าทางปาก ภัยออกจากปาก"
ในยุคสามก๊ก ผู้ทรงภูมิมากมายจบชีวิตเพราะปาก บ้างก็เพราะเถียงสู้เขาไม่ได้ บ้างก็เพราะปากเปราะไม่รู้จักรักษาความลับ บ้างก็เพราะปากพล่อยไปวิจารณ์คนมีอำนาจ...
เรื่องของยีเอ๋งนั้น เริ่มต้นขึ้นเมื่อโจโฉให้หาคนไปเกลี้ยกล่อมเล่าเปียว ณ เมืองเกงจิ๋ว ขงหยงจึงพายีเอ๋งมาเสนอ โจโฉเห็นยีเอ๋งเป็นเด็ก ก็เลยทำไม่สนใจ ยีเอ๋งเลยพูดไปว่า "แผ่นดินนี้กว้างใหญ่นัก ขาดคนดีสักคนก็คงไม่มีปัญหา"
โจโฉได้ยินเข้า ก็นึกสงสัย คนดีคนเก่งในราชสำนักมีมากมาย เหตุใดเจ้าจึงกล่าวเช่นนี้
ยีเอ๋งเห็นเป็นโอกาส จึงร่ายเพลง Rap ด่าบรรดาข้าราชการของโจโฉเรียงตัวว่า
"ท่านว่านี้เราไม่เห็นด้วย คนทั้งปวงนั้นเรารู้จักความคิดเห็นฝีมืออยู่ทุกคน
อันซุนฮกนั้นหน้าเหมือนหนึ่งจะร้องไห้ ชอบแต่ให้เยี่ยมไข้ส่งสักการศพ
ซุนฮิวนั้นชอบแต่ให้เปนสัปเหร่อรักษาศพ
เทียหยกนั้นชอบแต่ใช้ให้เฝ้าจำหล่อ
กุยแกนั้นชอบแต่ให้แต่งโคลงแลอ่านบัตรหมาย
เตียวเลี้ยวนั้นชอบแต่ให้ตีกลองแลระฆัง
เคาทูนั้นชอบแต่ให้เลี้ยงวัวแลม้า
ลิเตียนนั้นชอบแต่ให้อ่านฟ้อง
งักจิ้นนั้นชอบแต่ให้เดินหมาย
ลิยอยนั้นชอบแต่ใช้ให้ชำระอาวุธ
หมันทองนั้นชอบแต่ให้เสพย์สุรากับกระดูกสุกร
อิกิ๋มนั้นชอบแต่ให้แบกกระดานไปทำค่าย
ซีหลงนั้นชอบแต่ให้ฆ่าสุกรขาย
แฮหัวตุ้นนั้นชอบแต่ให้คอยรักษาตัว อย่าให้ข้าศึกตัดเอาศีรษะแลแขนซ้ายแขนขวาไปได้
อันที่ปรึกษาแลทหารนอกนั้น ชอบแต่ให้หาบสะเบียงส่งกองทัพ ซึ่งท่านนับถือว่ามีสติปัญญากล้าหาญนั้นไม่เห็นด้วย"
โจโฉโกรธมาก จึงลงโทษยีเอ๋งให้ไปเป็นคนตีกลองรับแขกในทำเนียบ แต่ปรากฏว่านอกจากยีเอ๋งจะร่ายกวี Rap ด่าคนเก่งแล้ว เขายังมีความสามารถในการดนตรี ตีกลองได้ไพเราะ มีจังหวะและท่วงทำนองเร่าร้อน สะกดแขกในงานให้หันมามองอย่างตั้งใจ
การแสดงงิ้ว ยีเอ๋งตีกลอง
《CCTV空中剧院》 20180509 京剧折子戏专场《击鼓骂曹》《三娘教子》《青石山》(2018港澳行) 1/2 | CCTV戏曲
ยีเอ๋งเห็นว่าสายตาทุกคู่จับจ้องที่เขา จึงถอดเสื้อผ้าออก แล้วเปลือยกายตีกลองให้แขกฟัง ทุกคนในงานร้องไอ้หยา ปิดหูปิดตา ทนความอุจาดไม่ไหว โจโฉอับอายขายหน้ามาก ร้องขึ้นว่า "มึงทำหยาบช้าทั้งนี้แกล้งจะให้กูขายหน้าหรือ"
ยีเอ๋ง เห็นช่องให้ใช้คารมจึง Rap ให้โจโฉและแขกในงานฟังว่า
"ตัวไม่เข้าใจหรือ เราจะพรรณนาการโสโครกของตัวให้ฟัง
ประการหนึ่งตัวไม่รู้จักคนดีแลชั่ว จักษุของตัวนั้นเป็นที่โสโครก
ประการหนึ่งซึ่งผู้ใดมีใจสัตย์ซื่อ เห็นว่าตัวทำการหยาบช้า ห้ามปรามตัวโดยสุจริตตัวมิได้ฟัง หูของตัวเป็นที่โสโครก
ประการหนึ่งตัวมิได้โอบอ้อมอารีต่อขุนนางแลหัวเมืองทั้งปวง แล้วตัวคิดอ่านทำการหยาบช้า ให้พระเจ้าเหี้ยนเต้ได้ความเดือดร้อน ใจของตัวก็เป็นการโสโครก
ทุกวันนี้คนทั้งแผ่นดินนับถือว่าเรามีสติปัญญา แลตัวมาดูหมิ่นให้เราเป็นคนตีกลอง เพราะมิได้รู้จักคนดีแลชั่ว ครั้งนี้ตัวก็คิดการใหญ่หลวง ซึ่งจะไม่นับถือเราผู้มีสติปัญญานั้นไม่ควร"
โจโฉไม่อยากฆ่ายีเอ๋งเอง เพราะเกรงใจขงหยงและไม่อยากให้คนติฉินนินทา จึงส่งยีเอ๋งไปเจรจากับเล่าเปียว หวังจะให้เล่าเปียวฆ่าเสีย ยีเอ๋งพูดจายกตน อวดรู้ แต่เล่าเปียวก็ไม่ฆ่าเองเพราะเกรงจะเสียชื่อ จึงส่งยีเอ๋งไปเจรจากับหองจอ เจ้าเมืองกังแฮ แต่ยีเอ๋งก็ไปด่าหองจอและขุนนางอีก คราวนี้หองจอโมโหร้าย ความอดทนต่ำ ทนฟังไม่ได้ ก็เลยฟันยีเอ๋งถึงแก่ความตาย
ในทางพุทธศาสนา เรียกการกระทำของยีเอ๋งว่าเป็น วจีทุจริต คือ การประพฤติชั่วทางวาจา อันประกอบไปด้วย
- พูดเท็จ คือ พูดไม่จริง พูดตรงกันข้ามกับความจริง เพื่อให้เข้าใจผิด
- พูดคำหยาบ คือ พูดคำระคายหู คำหยาบโลน ไม่น่าฟัง ไม่เป็นคำผู้ดี
- พูดส่อเสียด คือ พูดยุยงให้คนอื่นแตกกัน ทะเลาะกัน พูดให้เขาเจ็บใจ
- พูดเพ้อเจ้อ คือ พูดพล่าม พูดเหลวไหล ไม่มีสาระ วกวนไม่รู้จบ ทำให้เสียเวลาและประโยชน์
ฝนตกคนก็แช่ง ฝนแล้งคนก็ด่า มนุษย์นี้หนอ ด่าทอเทวดา
เพลง Rap บางประเทศ เถียงกันว่าจริง-ไม่จริง มีประโยชน์-ไร้ประโยชน์ สร้างสรรค์-ทำลาย เถียงไปก็ไม่จบ แต่ผลประจักษ์ชัดคือ สร้างความขัดแย้ง แตกสามัคคี
เพลง Rap บางประเทศ เถียงกันว่าจริง-ไม่จริง มีประโยชน์-ไร้ประโยชน์ สร้างสรรค์-ทำลาย เถียงไปก็ไม่จบ แต่ผลประจักษ์ชัดคือ สร้างความขัดแย้ง แตกสามัคคี
กรุณาแสดงความคิดเห็น