สงครามที่ตำราไทย ตั้งชื่อว่า โจโฉแตกทัพเรือ...คนไทยตื่นเต้นว่าเป็นผลงานของขงเบ้ง ของจิวยี่ แต่เท่าที่ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ ยกให้เป็นของอุยกาย เขาถูกยกย่องเป็นหนึ่งในวีรบุรุษสามก๊ก
วันจันทร์ที่ 17 กรกฎาคม 2560 หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ คอลัมน์ชักธงรบ ของสื่อมวลชนอาวุโส "กิเลน ประลองเชิง" ลงบทความเกี่ยวกับเรื่องสามก๊กอีกครั้ง กับเรื่อง "อุยกาย ผู้ชนะศึกผาแดง""จิวยี่โบยอุยกาย คนหนึ่งเต็มใจโบย คนหนึ่งเต็มใจเจ็บ"
เนื้อหาของบทความจะกล่าวถึงยอดขุนพลเฒ่า "อุยกาย" ผู้ยอมถูกเฆี่ยนตีจากฝ่ายเดียวกัน ทำอุบายลวงให้โจโฉหลงเชื่อ แกล้งยอมสวามิภักดิ์แต่กลับนำเรือไฟบุกเผาทัพเรือโจโฉจนวอดวายพ่ายแพ้ แล้วเปรียบเปรยว่าอุยกายคือผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จทั้งหมด เหมือนกับตำรวจไทย
ถูกเฆี่ยนถูกโบย เป็นจำเลยสังคม แต่ก็ยังคงทำหน้าที่พิทักษ์ราษฎร ได้อย่างหนักแน่นมั่นคง ....
อ่านแล้วเห็นว่าเป็นบทความดี เกี่ยวกับสามก๊ก และแฝงด้วยข้อคิด จึงขอบันทึกไว้ในความทรงจำ
อุยกาย ผู้ชนะศึกผาแดง
โดย กิเลน ประลองเชิง, 17 ก.ค. 2560ศึกเซ็กเพ็กหนึ่งในสามศึกใหญ่...ในยุคสามก๊ก โจโฉนำทัพนับแสนบุกประชิดง่อก๊ก จิวยี่แม่ทัพใหญ่ของซุนกวนมีทหารสู้อยู่แค่สามหมื่น ตั้งประจัญหน้าใกล้ผาแดง โอกาสชนะของง่อก๊ก มีน้อยนิด
เล่าด้วยลีลานิยาย ฉบับหลอกว้านจง งิ้วเอามาเล่น หรือเป็นภาพยนตร์ ตัวเอกที่คนฝังใจหนีไม่พ้นโจโฉ จิวยี่ ขงเบ้ง แต่เอาเรื่องจริง...ไม่แต่งเติมสีสันประวัติศาสตร์จีนบันทึกให้พระเอกเป็นแม่ทัพแก่ของซุนกวน ชื่อ “อุยกาย”
ถ้อยคำติดปากผู้คน จิวยี่โบยอุยกาย คนหนึ่งเต็มใจโบย คนหนึ่งเต็มใจเจ็บ มีที่มาเร้าใจ
รู้จักอุยกายกันก่อนเป็นชาวเมืองอิเหลง แคว้นเกงจิ๋ว กำพร้ามาตั้งแต่เล็กชีวิตยากลำบาก แต่ใจเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ มีปณิธานแน่วแน่ ว่างจากงานเก็บฟืนศึกษาวิชาด้านการทหารโตขึ้นเป็นขุนนาง
เมื่อซุนเกี๋ยนเริ่มยกทัพจับศึก อุยกายสละตำแหน่งขุนนาง ติดตามซุนเกี๋ยนไปตีโจรป่าและปราบตั๋งโต๊ะซุนเกี๋ยนตาย ก็ตามซุนเซ็ก ซุนกวน รบไปทั่วสารทิศเป็นที่มาของฉายา แม่ทัพสามแผ่นดิน
รูปลักษณ์น่าเกรงขาม กล้าตัดสินใจ เขตแดนง่อก๊ก มีชาวซานเย่ว์เป็นหนามยอกอกก่อกวน อุยกายถูกวางตัวมือปราบ เลือกมือดีสองคน ไปทำงาน ตอนแรกก็เรียบร้อยดี ต่อมาเริ่มหละหลวม อุยกายเคยสั่ง “ถ้าทำงานผิดพลาด ไม่ได้มีโทษแค่เฆี่ยนตี” สอบสวนจนแน่ใจแล้ว สั่งประหาร
![]() |
อุยกาย (Huang Gai) |
ความเด็ดเดี่ยวนี้เอง การปกครองชายแดนเรียบร้อย ชาวซานเย่ว์ที่กระด้างกระเดื่องก็ยอมสวามิภักดิ์
ขณะโจโฉยกทัพมาประชิด...กำลังหลักใช้ทหารจากภาคเหนือ เมื่อลงใต้ไม่คุ้นเคยอากาศก็ล้มป่วย ทหารที่เคยรบบนหลังม้า เมื่อต้องอยู่ในเรือเจอคลื่นโคลงเคลงก็เมาคลื่นทำท่าจะรบไม่ไหว
โจโฉแก้ปัญหาเรือโคลงใช้โซ่เหล็กยึดกองเรือไว้ด้วยกัน แก้ปัญหาทหารเมาคลื่น แต่โจโฉก็ลืมเรือรบทุกลำสูญเสียอิสระในการเคลื่อนไหว
สถานการณ์นี้อยู่ในสายตาอุยกายเสนอจิวยี่แม่ทัพใหญ่ว่า น่าจะฉวยโอกาสนี้โจมตีกองเรือโจโฉด้วยไฟ
จิวยี่ฟังแล้วก็เริ่มแผนแต่ยังติดขัดกลยุทธ์ อุยกายเสนออุบาย แสร้งว่าทะนงตนในความเป็นแม่ทัพอาวุโสไม่พอใจการนำทัพของ จิวยี่ทะเลาะกันถึงขั้นแตกหัก
จิวยี่เล่นบทโกรธสั่งประหารอุยกาย แต่ขุนนางหลายคนช่วยกันเกลี้ยกล่อมโทษของอุยกายจึงแค่ถูกโบย
แผนนี้เดินไปแนบเนียน โจโฉที่ฉลาดแค่ไหนยังตามไม่ทัน
วันเวลาที่อุยกายนัดหมายไปสวามิภักดิ์โจโฉ ขบวนเรืออุยกายแล่นฉิวเข้าหา ทหารโจโฉยืนดูอย่างย่ามใจไม่รู้ว่าในเรืออุยกายปรี่ไปด้วยหญ้าแห้งราดน้ำมัน...กว่าจะรู้ก็สายไปแล้ว กองเรือโจโฉก็ถูกไฟเผา
ทหารโจโฉแตกตื่น ขึ้นบกก็เจอทัพจิวยี่ตีกระหนาบ
ผลก็คือ ทัพทหารนับแสนของโจโฉแตกพ่าย โจโฉเอาชีวิตรอดไปได้กับทหารไม่กี่ร้อยคน
สงครามที่ตำราไทย ตั้งชื่อว่า โจโฉแตกทัพเรือ...คนไทยตื่นเต้นว่าเป็นผลงานของขงเบ้ง ของจิวยี่ แต่เท่าที่ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ ยกให้เป็นของอุยกาย เขาถูกยกย่องเป็นหนึ่งในวีรบุรุษสามก๊ก
ไม่ว่าในยุคสามก๊ก หรือยุคไหนๆ หากนักรบรบชนะ อย่างตอนนี้ตำรวจไทยกำลังสะสางคดีฆ่ายกครัว 8 ศพ ที่อ่าวลึก กระบี่ ถ้าจับผู้ร้ายใจทมิฬมาให้ดูหน้าได้
ก็จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ตำรวจไม่ว่ายุคเก่า หรือยุคที่กำลังจะปฏิรูปกันใหม่นั้นไม่สำคัญ
ช่วงเวลาที่เติ้งเสี่ยวผิงจะเปลี่ยนแปลงวิธีการปกครองจีน เคยพูด แมวขาวหรือแมวดำไม่สำคัญจับหนูได้ก็พอ ตำรวจก็ เหมือนกัน ขอให้จับผู้ร้ายให้ได้จะเป็นตำรวจแบบไหน ชาวบ้านคงไม่ติดใจ.
กรุณาแสดงความคิดเห็น