ภาระหน้าที่สำคัญที่สุดของประเทศ คือการเตรียมกำลังให้พร้อมรบอยู่เสมอ หากปล่อยปละละเลยไม่สนใจเรื่องการเตรียมกำลังรบแล้ว ประเทศชาติจะต้องประสบภัยนินาศในไม่ช้า
ประเทศไทยในเวลานี้ โหมกระพือกันด้วยข่าว คณะรัฐมนตรี อนุมัติโครงการจัดซื้อ เรือดำน้ำ จากสาธารณรัฐประชาชนจีนให้กองทัพเรือ จำนวน 3 ลำ โดยใช้งบประมาณการจัดซื้อเป็นเงินกว่า 36,000 ล้านบาท"แม้หวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ์"
ด้วยความที่เป็นรัฐบาลทหาร เสียงต่อต้านจึงมีมากมาย บ้างก็ว่าประเทศของเรามิได้อยู่ในภาวะสงคราม บ้างก็ว่าประเทศชาติยากจน บ้างก็ว่าประชาชนไม่มีอันจะกิน เงินงบประมาณจำนวนนี้ควรจะนำไปใช้ในการพัฒนาปากท้องและความเป็นอยู่ของประชาชนเสียมากกว่า
ผมเองนั้นไม่มีความรู้ด้านการบริหารประเทศ แต่ก็ไม่เคยคิดว่าประเทศไทยเราเป็นประเทศยากจน ดูออกไปทางกลาง ๆ ค่อนข้างดี เพราะเมื่อมองไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เรานั้นยังอยู่ในแนวหน้า ประชาชนคนไทยมีอยู่มีกิน ชาวต่างชาติล้วนชื่นชมในวิถีชิวิตคนบ้านเรา อยากมาอยู่เมืองไทย
ส่วนเรื่องเรือดำน้ำ ถ้าหากมองเรื่องภาวะสงครามคงไม่จำเป็น เพราะสงครามไม่รู้ว่าจะเกิดเมื่อไหร่ ข้อพิพาทของเกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ สหรัฐ รัสเซีย ฯลฯ ก็ไม่รู้ว่าประเทศไทยจะได้เข้าร่วมรบกับเขาหรือไม่
แต่หากมองในแง่ของ "การเตรียมพร้อม" แล้วนั้น "กำลังทางทหาร" คือสิ่งที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งยวด
พิชัยสงครามขงเบ้ง
พิชัยสงครามซุนวู บทที่ 1 เปิดมาก็กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า "อันสงครามนั้น เป็นเรื่องสำคัญของประเทศชาติ เป็นแหล่งความเป็นความตาย เป็นเหตุแห่งการดำรงอยู่ดับสูญ จักไม่พินิจพิเคราะห์มิได้"“ภาระหน้าที่สำคัญที่สุดของประเทศ คือการเตรียมกำลังให้พร้อมรบอยู่เสมอ”- ขงเบ้ง
ขงเบ้ง ยอดนักการทหารยุคสามก๊กก็เห็นพ้องต้องกันกับซุนวู และเขียนไว้ชัดเจนใน "ตำราพิชัยสงครามขงเบ้ง" บทที่ 17 "การเตรียมพร้อม" มีเนื้อหาดังนี้
ภาระหน้าที่สำคัญที่สุดของประเทศ คือการเตรียมกำลังให้พร้อมรบอยู่เสมอ หากปล่อยปละละเลยไม่สนใจเรื่องการเตรียมกำลังรบแล้ว ประเทศชาติจะต้องประสบภัยนินาศในไม่ช้า
ในการเข้าทำสงครามกับข้าศึก จะรู้ผลแพ้ชนะก็เพียงชั่วพริบตาเดียว กองทัพจะล่มสลาย ชาติจะมอดมลาย ฉะนั้นจึงไม่อาจมองข้าม
ยามประเทศชาติมีเคราะห์ภัย ประมุขและขุนนางพึงร่วมกันวางแผนอย่างหามรุ่งหามค่ำ มอบหมายงานให้แม่ทัพผู้ปรีชาสามารถเข้าทำการประยุทธ์
หากหวังเพียงจะอยู่อย่างสุขสบาย ไม่ตระหนักถึงภยันตราย ไม่เตรียมพร้อมแต่เนิ่น ครั้นข้าศึกศัตรูมาถึงแล้วก็ยังไม่วิตก เปรียบดังนกนางแอ่นทำรังในผ้ากระโจม ปลาว่ายหม้อต้ม จวนเจียนจะพินาศย่อยยับ
คัมภีร์โบราณจั่วจ้วนได้กล่าวไว้ว่า "หากไม่เตรียมพร้อม ก็อย่าหมายรับศึก" และ "เตรียมไว้พร้อมสรรพ ใยต้องหวาดหวั่น"
ผึ้งตัวน้อยยังมีเหล็กใน แมลงตัวจ้อยยังมีพิษ แล้วนับประสาอะไรกับประเทศชาติ จะไม่ให้มีกำลังเตรียมไว้ป้องกันเลยหรือ
แม้ว่าจะมีไพร่พลมาก แต่หากไร้การเตรียมพร้อมไว้ ไพร่พลอันมากนั้นก็จะใช้การมิได้ ทหารสามเหล่าจึงต้องเตรียมพร้อมไว้อยู่เสมอ
.........................................
สามก๊กเป็นตัวอย่าง
ทั้งซุนวูและขงเบ้ง ตระหนักดีถึงความสำคัญของการเตรียมพร้อม จึงเขียนเป็นตำราไว้เตือนสตินักปกครอง นักการทหารรุ่นหลัง
ส่วนเรื่องสามก๊ก มีตัวละคร มีเหตุการณ์สำคัญที่สามารถหยิบยกมาเป็นตัวอย่างได้หลายเหตุการณ์ เมืองเกงจิ๋วของเล่าเปียวไม่เคยพร้อมรบ โจโฉก็ยกมายึดไปอย่างง่ายดาย เมืองเสฉวนของเล่าเจี้ยงใหญ่โตแต่กลับถูกเล่าปี่กลืนโดยมิทันรู้ตัว ทั้งสองเมืองเป็นเมืองใหญ่ อุดมสมบูรณ์ ประชากรและพลเมืองมีมากมาย แต่ไร้ซึ่งการเตรียมพร้อม
การศึกการสงคราม ต้องใช้เวลาเตรียมการเนิ่นนาน เพียงเพื่อหวังป้องกันประเทศในชั่วพริบตา เรื่องบางเรื่องนั้นไม่อาจคาดคิด หากไม่เตรียมพร้อมไว้ ภัยอาจจะมาถึงโดยมิทันตั้งตัว
สุมาอี้ ศัตรูตัวฉกาจของขงเบ้ง ก็รู้ซึ้งดีถึงความสำคัญข้อนี้ และกล่าวเป็นวาจาสุภาษิต ตักเตือนทหารหาญใต้บังคับบัญชา ให้เห็นความสำคัญของการเตรียมพร้อมว่า
"เรามาทำการทั้งนี้ใช่จะปราถนาเอาความสุขแต่ตัวก็หามิได้ คิดจะให้เปนสุขแก่บุตรภรรยาท่านทั้งปวง เหตุใดมาเจรจาฉนี้มิได้มีความภักดีต่อเจ้า กินเบี้ยหวัดมาร้อยวันพันวันจะเอาการแต่วันเดียวก็มิได้"
จึงเห็นเป็นอันชัดเจนว่า...
ทหารเลี้ยงไว้ ใช้รบ ตกตาย ในวันเดียว... ก็เพื่อหวังให้ชาติดำรง ยืนยงอยู่ ตลอดไป
กรุณาแสดงความคิดเห็น