Loading ...

$show=home

จุดเริ่มต้นของการศึกษาสามก๊ก

แหล่งศึกษาเรียนรู้ ทุกเรื่องราวของวรรณกรรมเพชรน้ำเอกของโลก

สามก๊กวิทยา : THREE KINGDOMS ACADEMY

ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่อาณาจักร
"สามก๊กวิทยา"
THREE KINGDOMS ACADEMY

สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 82

สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 82
สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 82

สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 82

เนื้อหา

• สุมาเจียวคิดการจะกำเริบ 
• จูกัดเอี๋ยนยกไปรบสุมาเจียว 
• ซุนหลิมยกทัพกังตั๋งไปสมทบกับจูกัดเอี๋ยน 
• จูกัดเอี๋ยนตาย


ฝ่ายสุมาเจียวได้ว่าราชการเมืองวุยก๊กทั้งแผ่นดิน การทั้งปวงสิทธิ์ขาดอยู่แต่ผู้เดียวมิได้ทูลพระเจ้าโจมอเลย จะเข้าออกในพระราชวังก็ให้ทหารสามพันถือศัสตราวุธแห่หน้าหลังสำหรับรักษาตัว ครั้นเห็นไม่มีผู้เสมอถึงสองแล้วก็มัวเมาด้วยยศฐาศักดิ์ ใจคิดเอื้อมขึ้นไปจะเอาราชสมบัติ มีคนสนิธคนหนึ่งชื่อแกฉงเปนลูกแกกุ๋ยเปนที่ไว้ใจสุมาเจียว จึงไปพูดแก่สุมาเจียวที่สงัดว่า ท่านมียศฐาศักดิ์สูงใหญ่ในทืศทั้งสี่ ราชสมบัติทั้งนี้เห็นจะอยู่ในมือท่าน ถ้าจะทำการบัดนี้เกรงคนทั้งปวงจะมิสมัคพร้อมใจกัน จำจะฟังระคายดูนํ้าใจคนทั้งปวงก่อน จึงจะได้คิดการใหญ่สืบไป

สุมาเจียวจึงว่าข้าคิดอยู่นานแล้ว แต่ว่าหารู้ที่จะออกปากแก่ผู้ใดไม่ เจ้ารักเราคิดอ่านดังนี้เปนความชอบหนักหนา ถ้ากระนั้นเจ้าช่วยเดิรไปเมืองห้วยหลำพูดจาดูน้ำใจเจ้าเมือง แต่ว่าทำเปนว่าข้าใช้ไปให้รางวัลแก่ทหารผู้มีชื่อซึ่งทำสงครามมีความชอบนั้น ฟังแยบคายดูจะคิดการด้วยเราหรือไม่ แกฉงก็รับคำสุมาเจียวแล้วก็ไปเมืองห้วยหลำ

ฝ่ายจูกัดเอี๋ยนเจ้าเมืองห้วยหลำ เดิมอยู่บ้านลำเอี๋ยงในเมืองหลงเส เปนลูกพี่ลูกน้องกับขงเบ้ง ทำราชการอยู่เมืองวุยก๊ก เมื่อขงเบ้งเปนมหาอุปราชอยู่เมืองเสฉวนหาได้เปนที่ยศฐาศักดิ์ไม่ ด้วยคนทั้งปวงเกรงว่าจะไปเข้าด้วยพี่น้อง ครั้นขงเบ้งตายแล้วก็ได้ยศฐาศักดิ์เปนขุนนางผู้ใหญ่ ได้ว่ากล่าวเมืองห้วยหลำห้วยเขทั้งสองหัวเมือง เปนใหญ่แก่ทหารทั้งปวง ครั้นแกฉงเข้าไปหาก็เชิญให้กินโต๊ะเสพย์สุรา แกฉงเห็นจูกัดเอี๋ยนเมาสุราตึงตัวแล้วก็แกล้งพูดจะดูนํ้าใจ ว่าประชาราษฎรติเตียนเจ้าแผ่นดินว่าเปนคนโง่รู้ไม่ถึงความ หาควรจะเปนเจ้าไม่ วงศ์สุมาเจียวได้เปนมหาอุปราช บำรุงแผ่นดินมาถึงสามต่อแล้ว รักษาราษฎรให้อยู่เย็นเปนสุขสนุกสบายหาอันตรายมิได้ เปนความชอบใหญ่นักควรจะแทนที่เจ้าเมืองวุยก๊ก ท่านจะเห็นประการใด

จูกัดเอี๋ยนได้ยินดังนั้นก็โกรธ ว่าเจ้าเปนลูกแกกุ๋ยได้กินเบี้ยหวัดผ้าปีเมืองวุยก๊กมา ควรที่จะมีน้ำใจสัตย์ซื่อต่อแผ่นดิน เจ้ามาเจรจาหยาบช้าหาควรไม่เลย แกฉงได้ยินดังนั้นก็ตกใจจึงว่ากล่าวนบนอบว่า ข้าพเจ้าได้ยินคนอื่นเขาว่าก็ขัดใจ จึงเก็บเอามาเล่าให้ท่านรู้ด้วย

จูกัดเอี๋ยนจึงว่า ถ้าอันตรายมาถึงเจ้าแผ่นดิน เราเปนข้าราชการควรจะอาสาสนองพระเดชพระคุณจนสิ้นชีวิต แกฉงได้ยินดังนั้นก็นิ่งอยู่ นอนด้วยจูกัดเอี๋ยนคืนหนึ่งรุ่งเช้าก็ลาไป ครั้นถึงจึงเล่าเนื้อความซึ่งเจรจากับจูกัดเอี๋ยนทุกประการ สุมาเจียวได้ยินดังนั้นก็โกรธนัก ว่าควรหรือมาบังอาจเจรจาอย่างนี้ แกฉงจึงว่า จูกัดเอี๋ยนคนนี้เปนขุนนางผู้ใหญ่ โอบอ้อมเอาใจทหารทั้งปวง ทหารก็รักใคร่ นานไปเห็นจะมีภัยมาเปนมั่นคง อย่าช้าเลยท่านเร่งคิดล้างจูกัดเอี๋ยนเสียให้ได้ สุมาเจียวเห็นชอบด้วย ก็ให้หนังสือลับไปถึงงักหลิมเจ้าเมืองเองจิ๋ว แล้วจึงให้มีตรารับสั่งไปถอดจูกัดเอี๋ยนเสียจากที่เจ้าเมืองห้วยหลำ จะเอาเข้ามาตั้งเปนขุนนางผู้ใหญ่ทำราชการในเมืองหลวง

ฝ่ายผู้ถือตราไปถึงเข้า จูกัดเอี๋ยนแจ้งข้อรับสั่งแล้ว รู้ว่าแกฉงเอาเนื้อความซึ่งพูดกันนั้นไปบอกแก่สุมาเจียว จึงคิดอ่านทำทั้งนี้หวังจะทำร้ายแก่เรา จึงเอาตัวผู้ถือตรามาซักถามเอาเนื้อความ ผู้ถือตราให้การว่า ความทั้งนี้ข้าพเจ้าหารู้ไม่ งักหลิมเจ้าเมืองนั้นแลเห็นจะรู้ จูกัดเอี๋ยนถามว่าเขาจะรู้ด้วยเหตุอันใด ผู้ถือตราบอกว่างักหลิมจะรู้ด้วยสุมาเจียวให้หนังสือลับไปถึงใบหนึ่ง จูกัดเอี๋ยนจึงให้เอาผู้ถือหนังสือไปฆ่าเสีย แล้วยกทหารพันหนึ่งไปตีเมืองเองจิ๋ว ครั้นถึงประตูข้างทิศใต้เห็นประตูเมืองปิดอยู่ จูกัดเอี๋ยนเข้าไปถึงเชิงกำแพงร้องให้เปิดประตูรับไม่มีผู้ใดจะเปิด จูกัดเอี๋ยนโกรธจึงร้องด่าว่า อ้ายงักหลิมคนนี้เปนคนโฉดเขลาบังอาจมาคิดร้ายแก่กู แล้วสั่งให้ทหารเข้าตีเมือง ทหารดีมีฝีมือประมาณสิบคนโจนลงจากม้าข้ามคูปีนกำแพงขึ้นไปได้ ไล่ฆ่าฟันทหารบนเชิงเทินหนีไปสิ้น แล้วก็เปิดประตูเมืองออกมา

จูกัดเอี๋ยนพาทหารเข้าไปในเมือง ให้ทหารจุดไฟไหม้ขึ้นเปนอันมาก ก็ยกทหารตีเข้าไปจนตึกงักหลิม ๆ ตกใจนักหนีขึ้นไปอยู่ในห้องชั้นบน จูกัดเอี๋ยนถือกระบี่พาทหารไล่ค้นคว้าหาตัวพบเข้าจึงร้องตวาดว่า บิดาของท่านแต่ก่อนเปนข้าแผ่นดินเมืองวุยก๊ก ตัวท่านก็เปนข้าราชการสืบมาพระคุณหนักนัก ชอบจะกตัญญูรู้จักคุณเจ้าเข้าแดง ควรแล้วหรือมาคิดขบถเข้าด้วยสุมาเจียว งักหลิมยังมิทันตอบจูกัดเอี๋ยนก็ฟันด้วยกระบี่ งักหลิมตาย

จูกัดเอี๋ยนจึงมีหนังสือกล่าวโทษสุมาเจียว ไปทูลแก่พระเจ้าโจมอ ณ เมืองลกเอี๋ยง แล้วก็ให้เกณฑ์ทหารเมืองห้วยหลำเมืองห้วยเขได้สิบหมื่นเศษ ในเมืองเกงจิ๋วได้สิบหมื่นเศษ แล้วจึงสั่งให้เตรียมม้าแลเครื่องศัสตราวุธแลสเบียงอาหารไว้ให้พร้อม แล้วจึงให้งอก๋งคนผู้ใหญ่เปนที่ปรึกษา พาตัวจูกัดเจ้งผู้บุตรไป ณ เมืองกังตั๋ง ให้ไปมอบไว้เปนจำนำหวังจะขอกองทัพไปช่วยกำจัด สุมาเจียวซึ่งเปนศัตรูแผ่นดิน

ครั้งนั้นซุนจุ๋นซึ่งเปนมหาอุปราชเมืองกังตั๋งนั้นตายแล้ว ซุนหลิมผู้น้องได้ว่าที่มหาอุปราชแทนที่พี่ชาย ก็ฆ่าเตงอิ๋นขุนนางผู้ใหญ่กับพวกทหารชื่อว่าลิกี๋อ๋องตุ้นตาย จึงได้เปนใหญ่ยศฐาศักดิ์สูงกว่าขุนนางทั้งปวง ฝ่ายพระเจ้าซุนเหลียงก็มีสติปัญญาอยู่ แต่ว่าไม่รู้ที่จะว่ากล่าวประการใด ด้วยราชการแผ่นดินสิทธิ์ขาดอยู่แก่ซุนหลิมผู้เดียว งอก๋งไปถึงเมืองโจะเทาเสียก็เข้าไปหาซุนหลิม ๆ จึงถามว่า ท่านมานี้ด้วยเหตุอันใด งอก๋งจึงว่าจูกัดเอี๋ยนเปนพี่น้องของขงเบ้งทำราชการอยู่เมืองวุยก๊ก เห็นพวกสุมาเจียวยกเจ้าแผ่นดินออกเสีย จะคิดอ่านเอาราชสมบัติเอง จูกัดเอี๋ยนจะคิดอ่านกำจัดศัตรูแผ่นดิน เห็นกำลังทหารของตัวน้อยนักจึงให้ข้าพเจ้ามาหาท่านขอกองทัพไปช่วย เกรงว่าท่านจะมิเชื่อ จึงให้ข้าพเจ้าเอาจูกัดเจ้งผู้บุตรมามอบให้ท่านไว้เปนคนจำนำ ขอให้ท่านยกทหารไปช่วย ซุนหลิมก็เชื่อจึงให้นายทหารชื่อว่าจวนต๊กจวนต๋วนสองคนเปนแม่ทัพหลวง อิ๋นจวนเปนทัพหนุน ให้จูอี้ต๋องอู่สองคนเปนกองหน้า ให้บุนขิมนำหนทาง ทหารทั้งสามกองนั้นเปนคนเจ็ดหมื่นยกไปช่วยจูกัดเอี๋ยน งอก๋งก็ลาซุนหลิมมาเมืองห้วยหลำไปแจ้งแก่จูกัดเอี๋ยนว่า ได้กองทัพเมืองกังตั๋งมาแล้ว จูกัดเอี๋ยนมีความยินดีนัก ก็ให้จัดแจงกองทัพพร้อมแล้วจะยกไป

ฝ่ายสุมาเจียวได้แจ้งหนังสือซึ่งจูกัดเอี๋ยนให้ไปทูลแก่พระเจ้าโจมอนั้น มีความโกรธนัก คิดอ่านจะยกทัพไปตีจูกัดเอี๋ยนเอง แกฉงจึงว่าวงศ์ของท่านได้อุปถัมภ์บำรุงแผ่นดินมาแต่บิดาแลพี่ชายสืบต่อมาจน ถึงท่าน คุณนี้หนักหนาอยู่แล้วยังไม่ทั่วไปในทิศทั้งสี่อีกเล่า ยังมีคนมาคิดขบถอย่างนี้ ซึ่งท่านจะออกไปปราบศัตรูเองนั้นข้าพเจ้าหาเห็นด้วยไม่ เกรงศัตรูจะทำวุ่นวายขึ้นในราชฐาน ภายหลังจะกลับมาปราบปรามนั้นเห็นขัดสน ถ้าท่านเชิญนางกวยทายเฮากับเจ้าแผ่นดินออกไปปราบปรามศัตรูเห็นจะสงบโดยง่าย

สุมาเจียวได้ฟังดังนั้นก็ยินดีนัก จึงว่าท่านว่านี้ต้องความคิดของข้าพเจ้า ว่าแล้วก็เข้าไปทูลนางกวยทายเฮาว่า จูกัดเอี๋ยนคิดขบถ ข้าพเจ้ากับขุนนางทั้งปวงปรึกษาพร้อมกัน ขอเชิญพระองค์กับพระเจ้าโจมอออกไปด้วย จะได้ปราบศัตรูให้ราบคาบรักษาแผ่นดินไว้อย่าให้เปนอันตราย เหมือนคำพระเจ้าโจยอยซึ่งสั่งไว้นั้น นางกวยทายเฮากลัวขัดมิได้ก็รับว่าจะไป ครั้นรุ่งขึ้นวันหนึ่งสุมาเจียวจึงเข้าไปทูลพระเจ้าโจมอว่า ขอเชิญเสด็จพระองค์ไปทัพ

พระเจ้าโจมอจึงว่า ท่านมหาอุปราชได้ว่าราชการทั้งแผ่นดินสิทธิ์ขาดอยู่แก่ท่าน จะบังคับบัญชาผู้ใดก็มิได้ขัดขวาง ตามแต่จะไปเถิด ซึ่งจะให้ข้าพเจ้าไปนั้นด้วยเหตุอันใด สุมาเจียวจึงว่า ถ้าพระองค์จะไม่ไปเห็นหาควรไม่ ครั้งพระเจ้าโจโฉไปเที่ยวปราบปรามศัตรูจนถึงท้องพระมหาสมุทร ฝ่ายพระเจ้าโจผีพระเจ้าโจยอยก็คิดจะใคร่ให้แผ่นดินราบคาบ ถ้าราชศัตรูบังเกิดที่ไหนก็อุตส่าห์ไปปราบทุกทิศ ขอให้พระองค์ไม่ล้างศัตรูตามอย่างเชื้อพระวงศ์สืบมา ซึ่งพระองค์เกรงกลัวนั้นหาควรไม่ พระเจ้าโจมอขัดมิได้ก็รับว่าจะไป จึงมีตรารับสั่งให้เกณฑ์กองทัพในเมืองหลวงทั้งสองเมืองได้ยี่สิบหกหมื่น ตั้งอองกี๋เปนทัพหน้า ตังเขียนเปนปลัดทัพหน้า โจเป๋าเปนปีกขวา จิวท่ายเจ้าเมืองกุนจิ๋วเปนปีกซ้าย แล้วพระเจ้าโจมอก็ทรงราชรถยกทัพไปทางเมืองห้วยหลำ ก็ไปถึงทัพเมืองกังตั๋งซึ่งเปนทัพหน้ามาช่วยจูกัดเอี๋ยนนั้น จูอี้ซึ่งเปนทัพหน้าเมืองกังตั๋งก็ยกทหารออกสู้ ฝ่ายอองกี๋ก็ขี่ม้าคุมทหารออกรบ จูอี้รบกับอองกี๋ไม่ทันถึงสามเพลงเพลี่ยงพลํ้าเสียทีก็หนี ต๋องอู่ขี่ม้าออกมารบแทนยังไม่ทันได้สามเพลงก็หนีไป อองกี๋ก็พาทหารบุกรุกไล่ ทัพกังตั๋งเสียทีก็ล่าทัพหนีไปทางประมาณห้าร้อยเส้นก็ตั้งค่ายมั่นอยู่ จึงให้ม้าใช้ถือหนังสือไปแจ้งข้อราชการแก่จูกัดเอี๋ยนซึ่งมาตั้งอยู่ ณ เมือง ชิวฉุน จูกัดเอี๋ยนก็ยกทหารมากับบุนขิม แลบุนเอ๋งบุนเฮาบุตรบุนขิมสองคน

ฝ่ายสุมาเจียวรู้ว่าทัพจูกัดเอี๋ยนยกมาบัญจบทัพกังตั๋งแล้ว จึงให้หาขุนนางผู้ใหญ่สองคน ชื่อว่าโปยสิวคนหนึ่งจงโฮยคนหนึ่งมาปรึกษาราชการสงคราม จงโฮยจึงว่า กองทัพเมืองกังตั๋งยกมาช่วยเขาครั้งนี้เพราะโลภเห็นแก่ลาภ เราเอาสิ่งของไปล่อลวงก็จะปราชัยแก่เรา สุมาเจียวเห็นชอบด้วย ก็สั่งให้โจเป๋าจิวท่ายคุมทหารเปนสองกองไปซุ่มอยู่ต้นทางเมืองโจเทาเสีย ให้อองกี๋กับตังเขียนคุมทหารไปซุ่มอยู่ปลายทางนั้น แล้วใช้ให้เซงจุยทหารรองไปล่อลวงให้ออกมารบ จึงสั่งว่าถ้าเขามาตีแล้วทำเปนหนีไปตามทางเมืองโจะเทาเสีย ให้ตันจุ้นคุมฝูงม้าแลโคเกวียนบันทุกสิ่งของไปปลงอยู่ที่ทางนั้น จึงสั่งว่าถ้าข้าศึกมาให้ทิ้งสิ่งของเสียหนีไป

ฝ่ายจูกัดเอี๋ยนให้จูอี้ทหารกังตั๋งเปนปีกขวา บุนขิมเปนปีกซ้ายยกไป เห็นกองทัพวุยก๊กมิได้ตระเตรียมม้าแลทหารเลินเล่ออยู่ ก็ให้ทหารเข้าตี ซุนจุ้นก็พาทหารหนีไป ตันจุ้นซึ่งคุมสิ่งของมานั้น เห็นจูกัดเอี๋ยนยกมาก็ทิ้งสิ่งของพาทหารหนีไป ทหารจูกัดเอี๋ยนเห็นสิ่งของตกเรี่ยราย ต่างคนก็เก็บสิ่งของโคแลม้าหาได้ระวังตัวไม่ พอได้ยินเสียงพลุแลประทัดจุดขึ้น แลไปก็เห็นโจเป๋ากับจิวท่ายคุมทหารสองกองตีบุกรุกเข้ามา จูกัดเอี๋ยนตกใจกลัวถอยทัพ ก็เห็นอองกี๋กับตังเขียนคุมทหารตีกระนาบเข้ามา ฝ่ายสุมาเจียวก็ยกทหารหนุนเข้ามา จูกัดเอี๋ยนเห็นเหลือกำลังที่จะสู้รบต้านทาน ก็ถอยหนีไปถึงเมืองชิวฉุนแล้วให้ทหารขึ้นรักษาหน้าที่เชิงเทิน ฝ่ายสุมาเจียวก็ให้เข้าล้อมตีทั้งสี่ทิศ ฝ่ายทหารกองทัพเมืองกังตั๋งถอยไปอยู่ตำบลตันฉอง พระเจ้าโจมอก็ไปตั้งทัพยับยั้งอยู่เมืองฮางเสีย

จงโฮยจึงว่าแก่สุมาเจียวว่า ในเมืองชิวฉุนนี้เข้าปลาอาหารยังบริบูรณ์อยู่ ถ้าเราจะล้อมไว้เห็นจะไม่ขัดสนสเบียง เกรงแต่ทหารเมืองกังตั๋งจะยกมาตีทัพหลังเข้าเราจะวุ่นวาย ซึ่งเราจะล้อมไว้ทั้งสี่ทิศนั้นจะเสียการ จะขอให้ล้อมแต่สามด้านเปิดข้างทิศใต้ไว้ ถ้าหนีออกจากเมืองแล้วเราจึงให้ทหารไล่ติดตามรบบุกบั่นให้จงสามารถ เห็นจะได้ชัยชนะฝ่ายเดียว กองทัพกังตั๋งนั้นมาทางไกลจะได้สเบียงอาหารมาก็น้อย ซึ่งจะส่งมาอีกนั้นเห็นจะไม่ทัน ขอให้ยกกองทัพไปสกัดอยู่ข้างหลัง ยังมิทันเข้าตีก็จะสดุ้งตกใจหนีไปเอง

สุมาเจียวได้ยินดังนั้นยื่นมือไปลูบหลังจงโฮยแล้วสรรเสริญว่า ท่านมีความคิดมากนัก เหมือนปัญญาความคิดเตียวเหลียงครั้งพระเจ้าฮั่นโกโจ ว่าแล้วก็ให้อองกี๋เลิกทหารซึ่งล้อมอยู่ข้างทิศใต้นั้นเสีย

ฝ่ายซุนหลิมเมืองกังตั๋งให้หาตัวจูอี้ทัพหน้ามาคาดโทษว่า แต่ให้ไปเฝ้าเมืองชิวฉุนเท่านี้สิไม่ได้ราชการ นี้หรือจะคิดอ่านเอาเมืองวุยก๊กได้ ถ้าทำการครั้งนี้มิชนะแก่ข้าศึกเราจะฆ่าเสีย จูอี้ก็คำนับลากลับไปค่ายปรึกษาแก่นายทัพนายกองทั้งปวง อีจวนแม่ทัพหนุนจึงว่า ทิศข้างใต้ข้าศึกหาล้อมไม่ ข้าพเจ้าขอยกกองทัพเข้าไปช่วยจูกัดเอี๋ยนรักษาเมืองไว้ ท่านจงยกทหารเข้าตีกองทัพวุยก๊ก ข้าพเจ้าจึงจะยกทหารในเมืองเข้าตีกระหนาบออกมา เห็นว่ากองทัพวุยก๊กจะแตกเปนมั่นคง จูอี้เห็นชอบด้วย จึงให้อีจอจวนเต๊กจวนตวนบุนขิมนายทหารสี่คนคุมทหารหมื่นหนึ่งยกเข้าไปทาง ประตูทิศใต้

ฝ่ายทหารเมืองวุยก๊กไม่มีรับสั่งให้ตีสกัดไว้ ก็ปล่อยกองทัพเมืองกังตั๋งเข้าไปในเมือง จึงเอาเนื้อความไปแจ้งแก่สุมาเจียว ๆ รู้แล้วจึงว่ากองทัพกังตั๋งแบ่งกันเข้าไปช่วยรักษาเมืองไว้ จูอี้ก็จะยกเข้าตีเรา สมคะเนที่เราคิดไว้ จึงให้หาอองกี๋ตันเกี๋ยนนายทหารสองคนมาสั่งว่า ท่านยกทหารไปซุ่มที่ทางกองทัพจูอี้จะยกมา ถ้าเขาคล้อยเข้ามาหน่อยหนึ่งแล้วจึงให้ทหารโห่ร้องไล่ฆ่าฟันตามหลังเข้ามา อองกี๋ตันเกี๋ยนก็พาทหารไปซุ่มอยู่ตามสั่ง ครั้นกองทัพจูอี้ยกทหารคล้อยเข้ามาแล้ว ก็ยกทหารออกตีไล่หลังเข้ามา กองทัพเมืองกังตั๋งก็แตก ตัวจูอี้ก็แตกไปหาซุนหลิม ๆ โกรธนัก ว่าเองเปนคนทัพแตกจะเอาไว้มิได้ ก็สั่งให้ทหารเอาไปฆ่าเสีย จึงให้หาจวนฮุยผู้เปนบุตรจวนตวนมาสั่งว่า ท่านเร่งยกไปตีทัพวุยก๊กให้ถอยไปจงได้ ถ้ามิได้ทั้งพ่อทั้งลูกอย่ากลับมาหาเรา ซุนหลิมสั่งแล้วก็ไปตำบลเกี๋ยนเงียบ

ฝ่ายจงโฮยจึงว่าแก่สุมาเจียวว่า กองทัพซึ่งมาช่วยนั้นแตกไปแล้ว เรายกทหารเข้าล้อมให้รอบทั้งสี่ด้านเถิด สุมาเจียวเห็นชอบด้วย ก็ให้ทหารระดมทั้งสี่ด้าน ฝ่ายจวนฮุยยกทหารมาเห็นทหารเมืองวุยก๊กมากนักจะหักเข้าไปก็มิได้ จะถอยหลังไปก็กลัวซุนหลิม ก็สมัคเข้าอยู่ด้วยสุมาเจียว ๆ ก็ตั้งให้จวนฮุยเปนทหารรอง ฝ่ายจวนฮุยมีความยินดีนักคิดอ่านกตัญญูรู้คุณสุมาเจียว จึงเขียนหนังสือเปนใจความว่า ให้จวนตวนผู้เปนบิดาจวนเต๊กผู้อาว์เราสมัคมาอยู่ด้วยสุมาเจียวเถิด ซุนหลิมนั้นเปนคนหยาบช้าหามีความเมตตากรุณาไม่ ข้าพเจ้าก็มาเข้าด้วยสุมาเจียวแล้วก็ผูกกับลูกเกาทัณฑ์ยิงเข้าไปในเมือง จวนเต๊กได้หนังสือแล้วก็ไปหาจวนตวน พาทหารพรรคพวกของตัวเปิดประตูออกมาเข้าด้วยสุมาเจียว

ฝ่ายจูกัดเอี๋ยนเปนทุกข์นัก คิดอ่านอุบายที่จะแก้ไขเอาตัวรอด เจียวปั้นกับเจียวอี้ที่ปรึกษาจึงว่าแก่จูกัดเอี๋ยนว่า สเบียงอาหารในเมืองนี้ก็เบาบางลงแล้ว ทหารก็มากซึ่งจะกินนานไปเห็นหาพอไม่ จะให้เขาล้อมไว้นานนักเห็นจะไม่ได้ ข้าพเจ้าคิดว่าจะให้ยกทหารเรากับทหารเมืองกังตั๋งตีบากออกไปให้จงได้ ถ้าไปมิได้ก็จะรบพุ่งให้จงสามารถกว่าจะตายลงด้วยกัน จูกัดเอี๋ยนได้ยินดังนั้นก็โกรธนักจึงว่า ข้าพเจ้าเห็นพอจะรักษาไว้ได้อยู่ ท่านมาคิดอย่างนี้เห็นจะได้แล้วหรือ ว่าทั้งนี้แกล้งจะให้แพ้แก่ข้าศึก ถ้าท่านว่าอย่างนี้สืบไปเราจะเอาตัวไปฆ่าเสีย

เจียวปันเจียวอี้ได้ยินดังนั้นก็จนใจ เงยหน้าขึ้นทอดใจใหญ่แล้วพากันออกมาจึงปรึกษากันว่า จูกัดเอี๋ยนนี้จะถึงที่ตายอยู่แล้ว เร่งคิดอ่านสมัคไปเข้าด้วยสุมาเจียวเถิด เห็นจะรอดจากความตาย ครั้นเวลายามเศษเจียวปั้นเจียวอี้ปีนกำแพงออกไปเข้าด้วยสุมาเจียว ๆ ก็เอาไว้ใช้ราชการ แต่นั้นไปทหารมีฝีมือในเมืองชิวฉุนไม่มีผู้ใดจะคิดอ่านว่าจะออกไปรบเลย จูกัดเอี๋ยนแลเห็นกองทัพสุมาเจียวพูนดินเปนสนามเพลาะขึ้นกันน้ำ ด้วยกลัวน้ำในแม่นํ้าห้อยซุ้มจะท่วมมาก็ดีใจ คิดว่าแม่นํ้าห้อยซุ้มเกิดน้ำใหญ่ท่วมทหารสุมาเจียวแล้ว เราจะยกออกตีเห็นจะมีชัยชนะ ตั้งแต่ฤดฝนมาจนถึงหน้าหนาวไม่มีฝนตกเลย น้ำในแม่นํ้าห้อยซุ้มก็น้อยไป สเบียงในเมืองก็สิ้นแล้ว

ฝ่ายบุนขิมกับบุตรสองคนก็คุมทหารรักษาหน้าที่อยู่ ครั้นเห็นทหารอดหยากก็เข้ามาแจ้งแก่จูกัดเอี๋ยนว่าสเบียงอาหารสิ้นแล้ว ทหารขัดสนนัก ขอให้ปล่อยทหารห้วยหลำเปนชาวเมืองออกไปเที่ยวหากินให้เบาสเบียงเราลง จูกัดเอี๋ยนโกรธ ว่าท่านว่าทั้งนี้แกล้งจะคิดร้ายเราหรือ ว่าแล้วก็สั่งให้เอาบุนขิมไปฆ่าเสีย

ฝ่ายบุนเอ๋งบุนเฮาเห็นบิดาตายก็โกรธนัก ถอดดาบออกไล่ฟันทหารบนเชิงเทินล้มตายกว่าสิบคน แล้วโดดลงจากกำแพงข้ามคูไปหาสุมาเจียว เล่าเนื้อความทั้งปวงให้ฟัง สุมาเจียวเห็นบุนเอ๋งเข้ามีความแค้นนัก ด้วยบุนเอ๋งตีทัพสุมาสูผู้เปนพี่แต่ครั้งก่อนนั้น คิดจะใคร่ฆ่าเสีย จงโฮยจึงห้ามว่า ซึ่งโทษผิดแต่ครั้งก่อนนั้นเพราะบุนขิมผู้เปนบิดา บัดนี้บุนขิมก็ตายแล้ว บุนเอ๋งบุนเฮาถึงที่อับจนแลยอมสมัคมาอยู่ด้วยเรา ถ้าท่านเอาไปฆ่าเสียข้าศึกผู้ใดจะสมัคเข้ามาหาเราสืบไปหามิได้ สุมาเจียวเห็นชอบด้วย จึงเรียกบุนเอ๋งบุนเฮาเข้าไปพูดจาเล้าโลมด้วยถ้อยคำอันไพเราะแล้วตั้งให้เปน นายทหารรอง จึงให้ม้าแลเสื้อผ้าเปนรางวัล

บุนเอ๋งบุนเฮากระทำคำนับลาเข้าไปร้องว่า เราทั้งสองคนนี้สมัคเข้ามาอยู่กับท่านมหาอุปราช ๆ ก็หาเอาโทษซึ่งเราทำผิดไว้แต่ก่อนไม่ กลับให้ยศฐาศักดิ์รางวัล ท่านทั้งปวงเปนไรไม่คิดที่จะออกมาเข้าด้วยมหาอุปราช ทหารข้างในเมืองได้ยินดังนั้นจึงปรึกษากันว่า บุนเอ๋งเปนคนอริกับสุมาเจียวมาแต่ก่อน สุมาเจียวยังไม่เอาโทษ ก็ควรแล้วที่เราทั้งปวงจะออกไปเข้าด้วยสุมาเจียว จูกัดเอี๋ยนได้แจ้งดังนั้นจะเอาโทษก็เห็นมากกว่ามากนักก็มิไว้ใจทหารทั้งปวง จึงออกตรวจตราหน้าที่เองทั้งกลางวันกลางคืน ทำอาญาฆ่าฟันโบยตีข่มขี่ทหารหนักขึ้นไปกว่าเก่า

ฝ่ายจงโฮยเห็นทหารทั้งปวงซึ่งอยู่ในเมืองนั้นเอาใจออกหากอยู่สิ้น จึงว่าแก่สุมาเจียวว่า ท่านเร่งให้ทหารเข้าตีเถิด คนในเมืองเรรวนอยู่แล้ว สุมาเจียวมีความยินดีนัก ก็เร่งให้ทหารเข้าตีระดมพร้อมกันทั้งสี่ด้าน เจงสวนนายทหารซึ่งรักษาประตูทิศเหนือได้ท่วงทีก็เปิดประตูออกรับกองทัพเมือง วุยก๊กเข้าไป

ฝ่ายจูกัดเอี๋ยนรู้ว่าทหารวุยก๊กเข้าเมืองได้แล้ว ก็คุมทหารสมัคพรรคพวกประมาณสามร้อยหนีออกจากเมือง ข้ามสะพานหกไปพบเฮาหุนนายทหารสุมาเจียว เฮาหุนฟันด้วยง้าวถูกจูกัดเอี๋ยนพลัดตกม้าตาย แล้วให้ทหารล้อมจับทหารจูกัดเอี๋ยนได้ทั้งสามร้อย

ฝ่ายอองกิ๋มคุมทหารตีเข้าไปทางประตูทิศตวันตก พบอีจ้วนนายทหารเมืองกังตั๋งเข้าจึงร้องว่า ท่านยังจะรบไปถึงไหน เร่งมาสมัคด้วยเราเถิดจะรอดชีวิต อีจ้วนได้ยินดังนั้นก็โกรธนักจึงร้องว่า เรารับคำนายเรายกทัพมาช่วยจูกัดเอี๋ยน เรามาช่วยก็มิได้ ซึ่งจะสมัคเข้าด้วยท่านนั้นหาควรไม่ ด้วยเราเปนคนมีความสัตย์ ว่าแลวก็ถอดหมวกทิ้งลงกับแผ่นดินร้องว่า ถ้าทำศึกตายในณรงค์ก็จะได้ลือชื่อมีเกียรติยศปรากฎไว้ในแผ่นดิน ว่าแล้วก็รำง้าวขับม้าเข้าสู้รบกับอองกี๋ได้ประมาณสามสิบเพลง เหลือกำลังนัก บอบช้ำทั้งม้าทั้งคนก็ตายในที่รบ

ฝ่ายสุมาเจียวเข้าเมืองได้แล้ว ก็สั่งให้จับบุตรภรรยาจูกัดเอี๋ยนมา สืบสาวเอาลูกหลานหว่านเครือ ฝักฝ่ายข้างบิดาแลมารดาภรรยาเปนสามโคตรมาฆ่าเสีย แล้วให้เอาทหารสามร้อยคนซึ่งจับได้นั้นมาถามว่า ผู้ใดจะสมัคอยู่กับเราบ้างเราจะไว้ชีวิต ทหารทั้งปวงจึงว่า ข้าพเจ้าไม่สมัคอยู่แล้ว จะขอตายตามจูกัดเอี๋ยน สุมาเจียวได้ยินดังนั้นก็โกรธนักจึงให้ทหารเอาไปฆ่าเสีย ครั้นเอาไปถึงนอกเมืองแล้วจึงให้ถามทีละคนว่า ผู้ใดสมัคอยู่บ้างจะเลี้ยงไว้ ทหารทั้งปวงก็มิได้ยอมอยู่ด้วยสักคนหนึ่ง สุมาเจียวก็สั่งให้เอาไปฆ่าเสียสิ้น แล้วกลับคิดเอนดูว่าคนเหล่านี้สัตย์ซื่อต่อนายจนตาย จึงสั่งให้ฝังคนทั้งนั้นไว้ตามธรรมเนียม ครั้นจูกัดเอี๋ยนตายแล้ว ทหารทั้งปวงก็เข้าเกลี้ยกล่อมอยู่ด้วยสุมาเจียวเปนอันมาก

โปยซิวจึงว่าแก่สุมาเจียวว่า ซึ่งทหารเมืองกังตั๋งมาสมัคเข้าด้วยเรานี้ สมัคพรรคพวกพี่น้องอยู่ในเมืองกังตั๋งเปนอันมากจะไว้ใจไม่ได้ เกลือกนานไปจะกลับเปนใส้ศึกขึ้น ขอให้ท่านฆ่าเสียให้สิ้นจึงจะชอบ จงโฮยได้ฟังดังนั้นจึงว่า คำโบราณกล่าวไว้ว่า นายทัพนายกองผู้จะตั้งตัวเปนใหญ่ ถึงจะตีเมืองได้ เมื่อผู้ใดเปนเสี้ยนศัตรู ก็จะทำอันตรายเอาแต่ผู้นั้น ซึ่งท่านจะให้ฆ่าทหารทั้งปวงเสียเราไม่เห็นด้วย ควรจะปล่อยให้ไปบ้านเมืองจึงจะชอบ จะได้ปรากฎกิตติศัพท์เราต่อไป สุมาเจียวก็เห็นด้วย ให้ปล่อยทหารทั้งปวงไปยังที่อยู่สิ้น กึ่งจูทหารเอกจึงว่า ข้าพเจ้าสมัคเข้าอยู่กับท่านแล้ว ซึ่งจะกลับไปเมืองกังตั๋งบัดนี้ ซุนหลิมรู้ก็จะคิดสงสัยเอาโทษข้าพเจ้า สุมาเจียวได้ฟังดังนั้นก็มีความยินดี จึงตั้งกึ่งจูเปนขุนนางอยู่ในเมืองชิวฉุน แล้วก็จัดแจงทหารจะยกกลับไปเมือง

Download

กรุณาแสดงความคิดเห็น

ชื่อ

กวนอู,67,การ์ตูน,19,การเมือง,77,กิจกรรม,18,เกม,160,ขงเบ้ง,94,ของสะสม,40,ข่าวสาร,118,คำคมสามก๊ก,77,จิวยี่,5,จูล่ง,21,โจโฉ,66,ซุนกวน,7,เตียวหุย,11,เนื้อหาสามก๊ก,5,บทความ,353,บุคคลภาษิตในสามก๊ก,12,แบบเรียน,8,ปรัชญา,45,เพลง,41,ภาพยนตร์,53,รูปภาพ,67,ลิโป้,9,เล่าปี่,18,วิดีโอ,66,วิธีคิดวิธีทำงาน,13,เว็บไซต์,14,สถานที่,21,สามก๊ก12,14,สามก๊ก13,32,สามก๊ก14,3,สามก๊ก2010,95,สามก๊ก8,1,สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง(หน),87,สุมาอี้,15,หงสาจอมราชันย์,13,หนังสือ,173,อาวุธ,7,แอป,43,Dynasty Warriors,57,E-book,87,
ltr
item
สามก๊กวิทยา : Three Kingdoms Academy: สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 82
สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 82
สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 82
https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiz3Qvcp090IQClvzSSlWWz24Mi5uYOdbAw1PnBfnSwM1vyDfa56h11crrD25gZc5jbghrP5TY7hyHAEmnOsc-wwMf1Wh0m8EBnCvrTpYBsE0PRiWyU1BbcdJdR7pcjmWllgwd1r5WJZJ4/w452-h640/%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%258A%25E0%25B8%2581-%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2588-%25E0%25B9%2598%25E0%25B9%2592.jpg
https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiz3Qvcp090IQClvzSSlWWz24Mi5uYOdbAw1PnBfnSwM1vyDfa56h11crrD25gZc5jbghrP5TY7hyHAEmnOsc-wwMf1Wh0m8EBnCvrTpYBsE0PRiWyU1BbcdJdR7pcjmWllgwd1r5WJZJ4/s72-w452-c-h640/%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%258A%25E0%25B8%2581-%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2588-%25E0%25B9%2598%25E0%25B9%2592.jpg
สามก๊กวิทยา : Three Kingdoms Academy
https://www.samkok911.com/2017/02/samkok-ebook-82.html
https://www.samkok911.com/
https://www.samkok911.com/
https://www.samkok911.com/2017/02/samkok-ebook-82.html
true
4216477688648787518
UTF-8
โหลดเนื้อหาทั้งหมด ไม่พบเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง ดูทั้งหมด อ่านเพิ่ม ตอบ ยกเลิกการตอบ ลบ โดย หน้าแรก หน้า โพสต์ ดูทั้งหมด เรื่องแนะนำสำหรับคุณ หมวดหมู่บทความ เนื้อหาในช่วงเวลา ค้นหา บทความทั้งหมด ไม่พบเนื้อหาที่คุณต้องการ กลับหน้าแรก Sunday Monday Tuesday Wednesday Thursday Friday Saturday Sun Mon Tue Wed Thu Fri Sat January February March April May June July August September October November December Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec just now 1 minute ago $$1$$ minutes ago 1 hour ago $$1$$ hours ago Yesterday $$1$$ days ago $$1$$ weeks ago more than 5 weeks ago Followers Follow THIS PREMIUM CONTENT IS LOCKED STEP 1: Share to a social network STEP 2: Click the link on your social network Copy All Code Select All Code All codes were copied to your clipboard Can not copy the codes / texts, please press [CTRL]+[C] (or CMD+C with Mac) to copy สารบัญ