สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 43
สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 43
เนื้อหา
- จิวยี่ไม่ยอมให้เล่าปี่ตีเมืองลำกุ๋น
- เล่าปี่คิดจะเอาเมืองลำกุ๋นให้ได้
- จิวยี่ตีเมืองลำกุ๋น
ฝ่าย เล่าปี่จึงจัดแจงสิ่งของสำหรับเลี้ยงทหารให้ซุนเขียนนำไปให้จิวยี่ ซุนเขียนก็เอาสิ่งของทั้งนั้นไปให้จิวยี่ จิวยี่จึงถามซุนเขียนว่า บัดนี้เล่าปี่นายท่านตั้งอยู่ตำบลใด ซุนเขียนจึงบอกว่า เล่าปี่กับขงเบ้งคุมทหารมาตั้งอยู่ ณ ปากนํ้าเมืองอือกั๋ง จิวยี่ได้ฟังดังนั้นก็ตกใจสดุ้งขึ้น แล้วว่าให้ซุนเขียนกลับไปก่อนเถิด ต่อวันอื่นเราจึงจะไปเยี่ยมเล่าปี่ ซุนเขียนก็ลาจิวยี่กลับไป โลซกจึงถามจิวยี่ว่า ซุนเขียนบอกท่านว่าเล่าปี่กับขงเบ้งคุมทหารมาตั้งอยู่ปากนํ้าเมืองอือกั๋ง แลท่านสดุ้งตกใจขึ้นนั้นด้วยเหตุอันใด จิวยี่จึงบอกว่า เราตกใจสดุ้งขึ้นนั้นเพราะเหตุว่าเล่าปี่กับขงเบ้งจะชิงเอาเมืองลำกุ๋นเปน มั่นคง ซึ่งเราทำการครั้งนี้ได้เสียเงินทองแลสิ่งของเปนบำเหน็จทหารเปนอันมาก อันเมืองลำกุ๋นนั้นเหมือนหนึ่งอยู่ในเงื้อมมือเรา เมื่อเล่าปี่กับขงเบ้งได้เมืองลำกุ๋นแล้ว เราก็จะมีความน้อยใจ เห็นจะถึงแก่ความตาย เราจึงตกใจสดุ้งขึ้นเพราะเหตุฉนี้ โลซกจึงว่าท่านจะคิดอุบายประการใดจึงจะให้เล่าปี่กับขงเบ้งยกทหารถอยไปให้ ไกลแดนเมืองลำกุ๋นได้ จิวยี่จึงตอบว่า เราจะคิดอ่านให้ไปว่ากล่าวเล่าปี่แต่โดยดีก่อน ถ้าเล่าปี่ไม่ฟังเรา จึงจะคิดกำจัดเสียให้ได้ โลซกจึงว่า ท่านคิดนี้ชอบอยู่ แม้ท่านจะไปหาเล่าปี่เมื่อใดข้าพเจ้าจะไปด้วย แล้วจิวยี่จึงพาโลซกกับทหารสามพันลงเรือรบออกจากกองทัพหวังจะไปหาเล่าปี่
ฝ่ายซุนเขียนครั้นมาถึงก็เอาเนื้อความซึ่งจิวยี่ว่ากล่าวนั้นเล่าให้เล่า ปี่ฟังทุกประการ เล่าปี่ได้ฟังดังนั้นจึงปรึกษาแก่ขงเบ้งว่า อันจิวยี่จะมาคำนับตอบเรานี้ท่านยังเห็นประการใด ขงเบ้งจึงว่า อันนํ้าใจจิวยี่นั้นมิได้นับถือข้าพเจ้ากับท่าน ซึ่งจะมาคำนับตอบโดยปรกตินั้นหามิได้ ซึ่งจิวยี่จะมาบัดนี้ เพราะมีความสงสัยว่าท่านจะชิงเอาเมืองลำกุ๋น เล่าปี่จึงถามว่า ถ้าจิวยี่มาเปนขบวรทัพเราจะคิดอ่านประการใด ขงเบ้งจึงกระซิบบอกเนื้อความให้เล่าปี่ตอบจิวยี่ แล้วให้ทหารจัดเรือรบออกไปทอดอยู่ ณ ปากนํ้า แม้เห็นจิวยี่มาโดยร้ายก็ให้ช่วยกันรบพุ่งป้องกันไว้ พอคนใช้เข้ามาบอกว่า บัดนี้จิวยี่กับโลซกคุมทหารยกมาประมาณสามพัน เล่าปี่จึงให้จูล่งคุมทหารประมาณห้าสิบออกไปรับจิวยี่ถึงนอกค่าย จิวยี่จึงให้ทหารทั้งปวงอยู่แต่ภายนอก แล้วพาโลซกเข้าไปในค่าย เล่าปี่กับขงเบ้งลงไปรับจิวยี่โลซกขึ้นมาให้นั่งที่สมควร ถ้อยทีถ้อยคำนับกัน แล้วเล่าปี่สั่งให้แต่งโต๊ะเชิญจิวยี่โลซกเสพย์สุรา เล่าปี่จึงสรรเสริญจิวยี่ว่า ซึ่งท่านคิดอ่านกำจัดโจโฉเสียได้นั้น อาณาประชาราษฎรได้ความสุขเพราะท่าน จิวยี่จึงถามเล่าปี่ว่า ซึ่งท่านคุมทหารมาตั้งอยู่ที่นี้ ท่านคิดจะยกไปตีเอาเมืองลำกุ๋นหรือ เล่าปี่จึงตอบตามคำขงเบ้งกระซิบสั่งว่า ซึ่งข้าพเจ้ายกมาตั้งอยู่ที่นี้ เพราะคิดว่าท่านจะยกไปตีเอาเมืองลำกุ๋น ข้าพเจ้าจะคุมทหารไปช่วยเปนการเร็ว แม้ท่านไม่ไปข้าพเจ้าก็คิดอยู่ว่าจะไปตีเอาเมืองลำกุ๋นให้ จิวยี่ได้ฟังก็หัวเราะแล้วว่า ตัวเราเปนชาติทหารอยู่เมืองกังตั๋งก็คิดอยู่ว่าจะยกกองทัพไปตีเอาหัวเมือง ฝ่ายเหนือให้เปนบำเหน็จมือไว้ พอโจโฉยกกองทัพลงมาตีหัวเมืองฝ่ายใต้ครั้งนี้ เราได้ออกมาตั้งสู้รบจนโจโฉแตกหนีไปแล้ว เราก็เสียสเบียงอาหารแลเงินทองแจกทหารเปนอันมาก อันเมืองลำกุ๋นบัดนี้เหมือนหนึ่งอยู่ในเงื้อมมือเรา แม้จะคิดเอาเมื่อใดก็จะได้โดยง่าย เหตุใดท่านจึงถามว่าเราจะไม่เอาหรือ เล่าปี่จึงตอบว่า เมื่อโจโฉแตกไปนั้นได้ให้โจหยินอยู่รักษาเมืองลำกุ๋น แล้วแต่งทหารเอกซึ่งมีฝีมืออยู่รักษาด่านทางเปนหลายตำบล อันโจหยินนั้นก็มีกำลังกล้าหาญนัก ข้าพเจ้าเกรงว่าท่านทำการจะไม่สมความคิด จิวยี่จึงว่า แม้เราตีเอาเมืองลำกุ๋นไม่ได้ท่านก็จงยกไปตีเอาเถิด เล่าปี่ได้ฟังดังนั้นจึงว่า จิวยี่ว่าทั้งนี้โลซกกับขงเบ้งจงเปนพยานเราด้วย สืบไปภายหน้าถ้าจิวยี่จะคืนคำเสียเราจะได้อ้างท่านทั้งสองเปนพยาน จิวยี่จึงว่า ตัวเราเกิดมาเปนชาย ได้ลั่นวาจาออกมาแล้วก็ไม่คืนคำเลย ขงเบ้งจึงแกล้งว่า อันจิวยี่นี้แม้จะเจรจาสิ่งใดก็มั่นคงนัก อันเมืองลำกุ๋นนั้นให้จิวยี่ไปตีก่อน ถ้าขัดสนประการใดเล่าปี่จึงยกไปทำการต่อภายหลัง จิวยี่กับโลซกก็ลาเล่าปี่ลงเรือกลับไป
เล่าปี่จึงว่าแก่ขงเบ้งว่า อันจิวยี่จะยกกองทัพไปตีเอาเมืองลำกุ๋นนั้นก็จะได้เปนมั่นคง แต่เราคิดวิตกอยู่ว่าทุกวันนี้เราหาเมืองจะอาศรัยมิได้ ขงเบ้งจึงว่า เดิมข้าพเจ้าได้ว่ากล่าวให้ท่านเอาเมืองเกงจิ๋วไว้เปนที่อาศรัยจะได้คิดการ ต่อไป ท่านก็ไม่ฟังคำข้าพเจ้า บัดนี้ท่านได้คิดแล้วหรือจึงคิดวิตกดังนี้ เล่าปี่จึงตอบว่า แต่ก่อนท่านว่านั้นก็จริง ซึ่งเราไม่เอาเมืองเกงจิ๋วไว้เปนที่อาศรัยนั้น เพราะเหตุว่าเปนเมืองของเล่าเปียว บัดนี้เมืองเกงจิ๋วเปนเมืองของโจโฉแล้ว เราจะต้องคิดอ่านเอาให้ได้ ขงเบ้งจึงว่าท่านอย่าวิตกเลย จงงดอยู่ให้จิวยี่ตีเอาเมืองลำกุ๋นให้ได้แล้ว ข้าพเจ้าจะคิดอ่านเปนกลอุบายมิให้ยากแก่ทหารทั้งปวง จะให้ได้เมืองลำกุ๋นโดยง่าย เล่าปี่จึงถามว่าท่านจะคิดอ่านทำประการใด ขงเบ้งจึงว่าท่านอย่าเพ่อถามก่อนเลย ต่อภายหลังจึงค่อยรู้ เล่าปี่มีความยินดีมิได้ตอบประการใด
ฝ่ายจิวยี่กับโลซกครั้นกลับมาถึงค่าย โลซกจึงถามจิวยี่ว่า เหตุใดท่านจึงว่าแก่เล่าปี่ว่า ถ้ายกกองทัพไปรบเอาเมืองลำกุ๋นไม่ได้ก็ให้เล่าปี่ไปตีเอาเถิด จิวยี่จึงตอบว่า ซึ่งเราว่าแก่เล่าปี่นี้เปนคำลวง เพราะเหตุว่าจะให้เล่าปี่กำเริบ แล้วว่าครั้งนี้เราจะยกไปตีเอาเมืองลำกุ๋น ผู้ใดจะอาสาเปนกองหน้า จิวขิมจึงว่าตัวข้าพเจ้าจะขออาสาคุมทหารเปนกองหน้าไป จิวยี่จึงจัดแจงทหารห้าพัน ให้ชีเซ่งเตงฮองไปด้วยจิวขิม แล้วสั่งว่า ให้รีบยกข้ามแม่นํ้าฮั่นกั๋งไปก่อน เราจึงจะยกกองทัพหลวงตามไปภายหลัง จิวขิมชีเซ่งเตงฮองก็ลาจิวยี่คุมทหารห้าพันยกไปจะรบเอาเมืองลำกุ๋น ครั้นมาถึงด่านอิเหลงชีเซ่งเตงฮองก็คิดกันว่า จะรบพุ่งหักหาญเข้าไปทางด่านนั้นไม่ได้ จึงคุมทหารอ้อมทางไปใกล้เมืองลำกุ๋นแล้วก็ให้ตั้งค่ายมั่นอยู่
ฝ่ายม้าใช้จึงเอาเนื้อความเข้าไปบอกแก่โจหยินว่า บัดนี้กองทัพเมืองกังตั๋งยกมาตั้งค่ายมั่นอยู่ใกล้เมืองเรา โจหยินได้ฟังดังนั้นจึงปรึกษาแก่ทหารทั้งปวงว่า บัดนี้จิวยี่ให้ชีเซ่งเตงฮองคุมทหารยกมาหวังจะทำอันตรายเมืองเรา อันสเบียงอาหารในเมืองนี้ก็มีอยู่เปนอันมาก จำเราจะตั้งมั่นรักษาเมืองไว้ให้ข้าศึกขัดสนสเบียงก็จะยกกองทัพกลับไปเอง งิวขึ้มจึงว่า ซึ่งจะตั้งมั่นอยู่ในเมืองฉนี้ข้าศึกก็จะได้ใจ ประการหนึ่งทหารทั้งปวงก็จะคิดเสียใจว่าเราย่อท้อ ข้าพเจ้าจะขออาสาคุมทหารห้าร้อยออกต้านทานไว้ โจหยินเห็นชอบด้วยจึงจัดทหารห้าร้อยให้ งิวขึ้มก็คุมทหารเปิดประตูเมืองออกไปรบกับเตงฮองได้ห้าเพลง เตงฮองก็ถอยหนี แลงิวขึ้มนั้นก็ขับม้าไล่บุกรุกไป เตงฮองเห็นดังนั้นก็ขับม้าหยุดอยู่ แล้วประกาศแก่ทหารทั้งปวงให้ล้อมงิวขึ้มเข้าไว้ งิวขึ้มก็สู้รบอยู่ในหว่างทหารเปนสามารถ
ขณะนั้นโจหยินอยู่บนหอรบ เห็นทหารเตงฮองล้อมงิวขึ้มเข้าไว้ จึงแต่งตัวใส่เกราะขึ้นม้าพาทหารประมาณสามร้อย รีบยกออกจากประตูเมืองฝ่าฟันพวกข้าศึกเข้าไปหวังจะแก้งิวขึ้ม ฝ่ายชีเซ่งเห็นดังนั้นก็ขับม้าเข้ารบกับโจหยินอยู่เปนช้านาน ชีเซ่งต้านทานมิได้ก็ชักม้าถอยไป โจหยินก็พางิวขึ้มออกมาได้ ครั้นเหลียวดูเห็นทหารยังเหลือตามออกมาประมาณห้าสิบคน โจหยินจึงพางิวขึ้มกลับเข้าไปรบพุ่งด้วยจิวขิม หวังจะแก้แค้นทหารทั้งปวง ฝ่ายโจซุนอยู่บนหอรบเห็นโจหยินออกไปรบพุ่งกันอยู่ ก็ขึ้นม้าถือทวนพาทหารหนุนออกไปช่วยรบพุ่งตลุมบอน ไต้ฆ่าฟันกันตายเปนอันมาก แลจิวขิมชีเซ่งเตงฮองต้านทานมิได้ ก็พาทหารซึ่งเหลือนั้นถอยไป โจหยินมีชัยชนะก็พาโจซุนกับงิวขึ้ม แลทหารกลับเข้าเมือง
ฝ่ายจิวขิมครั้นมาพบกองทัพจิวยี่ก็เอาเนื้อความซึ่งได้รบพุ่งแลแตกมานั้น เล่าให้จิวยี่ฟังทุกประการ จิวยี่ได้ฟังดังนั้นก็โกรธสั่งให้ทหารเอาตัวจิวขิมไปฆ่าเสีย ที่ปรึกษาแลทหารทั้งปวงขอโทษจิวขิมไว้ จิวยี่จึงจัดแจงทหารจะยกเข้าตั้งประชิดเมืองลำกุ๋น กำเหลงจึงว่า ซึ่งจะยกเข้าตั้งประชิดเมืองลำกุ๋นนั้นไม่ได้ ด้วยโจหยินให้โจหองผู้น้องคุมทหารไปตั้งอยู่ ณ ด่านอิเหลง บัดนี้กองทัพเรายกอ้อมเข้ามาพ้นด่านอิเหลงแล้ว ครั้นโจหองรู้ก็จะยกตีกระหนาบมา ข้าพเจ้าจะขออาสาไปตีด่านอิเหลงให้ทหารโจหองระส่ำระสาย แล้วจึงยกเข้าไปตั้งประชิดเมืองทำการรบพุ่งสืบไป จิวยี่เห็นชอบด้วยก็จัดทหารให้กำเหลงสามพัน กำเหลงคุมทหารรีบกลับไปใกล้ด่านอิเหลง
ฝ่ายม้าใช้ก็เอาเนื้อความมาบอกแก่โจหยินว่า บัดนี้จิวยี่ให้กำเหลงยกไปตีด่านอิเหลง โจหยินได้ฟังจึงปรึกษาแก่ทหารทั้งปวง ตันเกียวจึงว่าถ้าละไว้ช้าเสียด่านอิเหลงแล้วเราจะป้องกันเมืองลำกุ๋นไว้มิ ได้ โจหยินจึงให้โจซุนกับงิวขึ้มคุมทหารลอบไปทางลัด จะได้ช่วยโจหองรบพุ่งป้องกันด่านอิเหลงไว้ให้ได้ โจซุนกับงิวขึ้มคุมทหารลัดไปถึงกลางทาง แล้วให้ทหารรบไปบอกโจหองว่า บัดนี้โจหยินให้เราทั้งสองคุมทหารยกมาช่วย ให้โจหองเร่งยกออกมารบกับกำเหลง เราจึงจะตีกระหนาบเข้าไป ทหารม้าใช้ก็รีบไปบอกโจหอง ๆ ได้ฟังดังนั้นก็มีความยินดี จึงให้จัดแจงทหารเตรียมไว้
ฝ่ายกำเหลงครั้นมาถึงด่านอิเหลงก็ตั้งค่ายประชิดอยู่ โจหองเห็นดังนั้นก็คุมทหารเปิดประตูค่ายออกไปรบพุ่งเปนสามารถแล้วทำถอยหนีไป ขณะนั้นกำเหลงก็เข้าอยู่ในค่ายอิเหลง ฝ่ายโจหองซึ่งหนีไปนั้น ครั้นพบโจซุนงิวขึ้มจึงเล่าเนื้อความให้ฟังทุกประการ ครั้นเวลากลางคืนโจหองโจซุนงิวขึ้มก็คุมทหารล้อมค่ายอิเหลงไว้ ม้าใช้จึงเอาเนื้อความไปบอกแก่จิวยี่ว่ากำเหลงตีด่านอิเหลงได้แล้วเข้าตั้ง อยู่ในค่าย บัดนี้โจหองโจซุนงิวขึ้มคุมทหารเข้าล้อมค่ายอิเหลงไว้ จิวยี่แจ้งดังนั้นก็ตกใจ ยังไม่ทันปรึกษาประการใด เทียเภาจึงว่าขอให้แบ่งทหารไปช่วยกำเหลง จิวยี่จึงตอบว่า ซึ่งท่านจะให้แบ่งทหารไปช่วยกำเหลงนั้นทหารในกองทัพเราก็จะเบาลง เกลือกรู้ถึงโจหยิน ๆ ก็จะยกกองทัพมาตี เราก็จะเสียทีแก่ข้าศึก
ลิบองจึงว่า อันกำเหลงนั้นมีฝีมือเปนทหารเอกในเมืองกังตั๋ง ซึ่งท่านจะไม่แบ่งทหารไปช่วยนั้นกำเหลงก็จะน้อยใจ ทั้งการของเราก็เสียไป จิวยี่จึงตอบว่า ตัวเราคิดจะใคร่แบ่งทหารแล้วยกไปเองเสียอีก แต่ค่ายซึ่งตั้งอยู่นี้เกลือกคนทั้งปวงจะรักษาไว้ไม่ได้ ลิบองจึงว่าให้เล่งทองอยู่รักษาค่ายไว้แต่ในสิบวัน ท่านเปนกองหลวง ข้าพเจ้าจะขออาสาเปนทัพหน้ายกไปช่วยกำเหลงจึงจะควร จิวยี่จึงสั่งให้เล่งทองอยู่รักษาค่าย เล่งทองจึงตอบว่าท่านใช้แล้วข้าพเจ้าไม่ขัด แต่ในสิบวันนี้ข้าพเจ้าจะรับรักษาค่ายไว้ให้ได้ ถ้าพ้นกว่านั้นเห็นจะเหลือกำลัง
จิวยี่จึงว่าในสิบวันเราจะกลับมาให้ถึง แล้วแบ่งทหารให้เล่งทองไว้หมื่นหนึ่ง เหลือนั้นจิวยี่กับลิบองก็ยกไปถึงกลางทางลิบองจึงว่า ด่านอิเหลงนี้ข้างทิศใต้มีทางลัดไปเมืองลำกุ๋นอยู่ทางหนึ่ง ขอให้ท่านแต่งทหารไปตัดไม้ล้มขวางทางไว้ให้มาก แม้โจหองหนีไปทางนั้นเห็นจะได้ความขัดสน ก็จะทิ้งม้าแลเครื่องศัสตราวุธเสีย เราก็จะได้ไว้เปนกำลัง จิวยี่เห็นชอบด้วย จึงจัดแจงทหารห้าร้อยให้ไปตัดไม้ขวางทางไว้ตามคำลิบอง แล้วจิวยี่ก็ยกกองทัพไปใกล้ด่านอิเหลง จิวยี่จึงปรึกษาแก่ทหารทั้งปวงว่า ผู้ใดจะอาสาตีฝ่าเข้าไปบอกกำเหลงให้รู้ว่าเรายกกองทัพมาถึงแล้ว ให้กำเหลงรบหักออกมา เราจะตีกระหนาบเข้าไป จิวท่ายรับอาสาขับม้ารำง้าวตีฝ่าทหารโจหองเข้ามาถึงริมค่าย กำเหลงเห็นดังนั้นก็เปิดประตูรับจิวท่ายเข้ามา จิวท่ายจึงบอกเนื้อความแก่กำเหลง ๆ ได้ฟังดังนั้นก็มีความยินดีจึงจัดแจงทหารเตรียมไว้
ฝ่ายโจหองโจซุนก็แต่งหนังสือให้ม้าใช้ถือไปถึงโจหยินเปนใจความว่า ข้าพเจ้าล้อมกำเหลงไว้ บัดนี้จิวยี่ยกกองทัพมาช่วยกำเหลง แล้วโจหองก็จัดแจงทหารเตรียมมั่นไว้ทั้งสองด้านหวังจะสู้รบจิวยี่กำเหลง ขณะนั้นจิวยี่จึงขับทหารเข้ารบพุ่งกับโจหองเปนสามารถ ฝ่ายกำเหลงได้ยินเสียงรบพุ่งอื้ออึง ก็คุมทหารตีกระหนาบออกมาฆ่าฟันทหารโจหองล้มตายเปนอันมาก โจหองโจซุนงิวขึ้มต้านทานมิได้ก็พาทหารหนีไปทางลัด จิวยี่ก็คุมทหารตามรบไป ทหารโจหองเห็นไม้ไหล้นั้นขวางทางอยู่จะไปนั้นไม่สดวก จึงทิ้งม้าแลอาวุธเสียพากันรีบหนีไปแต่ตัว
ขณะเมื่อจิวยี่คุมทหารตามไปนั้นได้ม้าแลอาวุธเปนอันมาก แล้วก็รีบตามไปถึงปากทาง พบกองทัพโจหยินซึ่งรู้หนังสือโจหองแล้วยกกองทัพมาช่วยนั้น ได้รบพุ่งกันเปนสามารถ จนเวลาเย็นมิได้แพ้ชนะกัน โจหยินจึงพาโจหองโจซุนกลับเข้าเมืองลำกุ๋นแล้วปรึกษากันว่า บัดนี้เราเสียด่านอิเหลงแล้ว เห็นเราจะป้องกันเมืองลำกุ๋นไว้มิได้ ก็ฉีกหนังสือซึ่งโจโฉให้ไว้ออกดู ครั้นแจ้งเนื้อความทั้งปวงแล้วก็ให้เอาธงขึ้นไปปักเรียงไว้รอบเชิงเทิน ให้ทหารทั้งปวงหาบตะพายอาหารทำประหนึ่งจะพากันหนีไปจากเมือง แล้วสั่งตันเกียวงิวขึ้มให้เปิดประตูเมืองไว้สามประตู ให้ขุดหลุมริมประตูเอาดินเกลี่ยปากหลุมไว้อย่าให้เห็นรอย เมื่อทหารจิวยี่ยกเข้ามานั้นก็จะตกหลุมลง จึงจะจับได้โดยง่าย แลท่านทั้งสองนี้ให้เกณฑ์ทหารเกาทัณฑ์ซุ่มไว้ทั้งสามประตู แม้เห็นจิวยี่คุมทหารเข้ามาก็ให้รบป้องกันไว้พลาง ต่อได้ยินเสียงประทัดเมื่อใด ก็ให้ทหารเกาทัณฑ์ช่วยกันระดมยิงจงกวดขัน ครั้นสั่งให้ทำการเสร็จแล้ว โจหยินโจหองก็พาทหารซึ่งตะพายสเบียงนั้นทำเปนหนีออกจากเมือง
ฝ่ายจิวยี่ขึ้นดูบนหอรบมิได้เห็นทหารอยู่รักษาหน้าที่กำแพงเมือง แล้วเห็นโจหยินโจหองพาทหารตะพายสเบียงออกจากเมืองดังนั้น ก็คิดว่าโจหยินโจหองจะหนีไป จิวยี่จึงลงมาจากหอรบ แล้วสั่งทหารกองหน้าให้เข้ารบด้วยโจหยินโจหอง ให้ปีกซ้ายขวาดากันเข้ารบเปนสามารถ ตัวเราจะคุมทหารเปนทัพหนุน แม้กองหน้าได้ยินเสียงม้าฬ่อแล้วให้เร่งหักเข้าไป ฝ่ายทหารกองหน้าแลปีกซ้ายขวาก็ยกเข้ารบโจหยินโจหองเปนตลุมบอน แล้วจิวยี่ให้จิวท่ายขับม้าออกไปรบด้วยโจหยินได้สิบเพลงยังไม่แพ้ชนะกัน จิวยี่จึงให้ฮันต๋งขับม้าเข้ารบกับโจหองได้สามสิบเพลง โจหยินโจหองมิได้เข้าเมืองลำกุ๋นทำถอยหนีไปทางทิศเหนือ จิวท่ายฮันต๋งเห็นดังนั้นก็ขับม้าไล่ติดตามไป จิวยี่ก็ขับทหารหนุนไปจนถึงชานกำแพงเมือง เห็นประตูเมืองนั้นเปิดอยู่ ก็แลเข้าไปดูมิได้เห็นทหารรักษาอยู่ จิวยี่ก็พาทหารประมาณห้าสิบคนเข้าในประตูเมือง
ฝ่ายตันเกียวก็ว่า อันความคิดมหาอุปราชให้หนังสือไว้นี้ดีนัก อุปมาดังเทพดาเข้าดลใจ พอได้ยินเสียงประทัดก็ให้ทหารยิงเกาทัณฑ์ระดมไปเปนอันมาก แล้วตันเกียวก็ยิงเกาทัณฑ์ไปถูกขาซ้ายจิวยี่ตกม้าลง งิวขึ้มเห็นดังนั้นก็คุมทหารเข้าไปจะจับเอาตัวจิวยี่ พอชีเซ่งเตงฮองเข้ามาทันก็ช่วยป้องกันจิวยี่ไว้ แล้วพยุงขึ้นม้าจะถอยมาจากเมือง ตันเกียวก็ขับทหารไล่รบพุ่งไป เหล่าทหารจิวยี่นั้นตกหลุมลงเปนอันมาก ตันเกียวจับได้บ้างฆ่าเสียบ้าง ชีเซ่งเตงฮองก็ป้องกันจิวยี่ออกมาได้ถึงนอกเมือง เทียเภาเห็นจิวยี่ถอยมาก็ตีม้าฬ่อขึ้น หวังจะเรียกทหารทั้งปวงให้กลับมา จิวท่ายกับฮันต๋งได้ยินเสียงม้าฬ่อก็พาทหารถอยมาตามสัญญา
ฝ่ายโจหยินโจหองเห็นดังนั้น ก็คุมทหารแยกกันเปนสองกองตามตีกระหนาบไป จิวยี่แลทหารก็ถอยเข้าค่าย จิวยี่ชักถูกเกาทัณฑ์ออกเสียแล้วให้หมอรักษาแผล อันความเจ็บปวดนั้นเปนคราวๆ หมอจึงว่าลูกเกาทัณฑ์นี้ใส่ยาพิษ ให้ท่านดับความโกรธเสีย แม้มีความโกรธแล้วเมื่อใดพิษยาก็จะกำเริบขึ้น เทียเภาจึงสั่งทหารทั้งปวงให้ตรวจตรารักษาค่ายไว้จงมั่นคง อย่าให้ที่ปรึกษาแลทหารทั้งปวงเอาการสิ่งใดไปปรึกษาแก่จิวยี่ ถ้าขัดสนสิ่งใดก็ให้นายทัพนายกองช่วยกันปรึกษา จะได้ป้องกันอันตรายไว้กว่าจิวยี่จะคลาย
ฝ่ายโจหยินโจหองจึงให้งิวขึ้มคุมทหารไปร้องด่าจิวยี่ที่หน้าค่ายเปนข้อ หยาบช้าถึงสามวัน เทียเภาก็ห้ามทหารทั้งปวงไว้มิให้ออกรบ แล้วปรึกษาแก่นายทัพนายกองว่า บัดนี้จิวยี่ป่วยอยู่ เราจะคิดอ่านให้จิวยี่เลิกกองทัพกลับไปบอกเนื้อความแก่ซุนกวน แล้วจึงค่อยยกกองทัพมาทำการสืบไป นายทัพนายกองมิได้ว่าประการใด
ขณะเมื่อจิวยี่ป่วยอยู่นั้น ได้ยินเสียงทหารโจหยินมาร้องด่าว่าท้าทายทุกเวลา แต่จิวยี่ระงับความโกรธไว้ ด้วยกลัวพิษยาจะกำเริบขึ้น ครั้นอยู่มาวันหนึ่งโจหยินคุมทหารมาถึงหน้าค่ายจิวยี่ แล้วให้ตีฆ้องกลองโห่ร้องอื้ออึงทำประหนึ่งจะเย้ยจิวยี่ ฝ่ายจิวยี่ได้ฟังดังนั้นก็ถามบันดาคนพยาบาลว่าเสียงสิ่งใดซึ่งอื้ออึงอยู่ คนพยาบาลจึงบอกว่า ทหารในกองทัพซึ่งเราซ้อมหัดอาวุธ จิวยี่ได้ฟังดังนั้นก็โกรธ จึงว่าทหารโจหยินมาร้องท้าทายเปนหลายวันเราก็รู้อยู่ จึงให้หาตัวเทียเภามาแล้วว่า ตัวเราเปนแม่ทัพป่วยอยู่ แลโจหยินให้ทหารมาร้องท้าทายเปนข้อหยาบช้าถึงสามสี่วัน ตัวท่านเปนปลัดทัพเหตุใดจึงนิ่งเสียมิบอกแก่เรา เทียเภาจึงว่า ข้าพเจ้ามิได้บอกแก่ท่านนั้นเพราะเกรงอยู่ว่าท่านจะโกรธ แผลเกาทัณฑ์นั้นจะกำเริบขึ้น จิวยี่จึงว่า ท่านนิ่งเสียไม่ออกสู้รบฉะนี้จะคิดอ่านประการใดหรือ เทียเภาจึงว่า ข้าพเจ้ากับทหารทั้งปวงปรึกษากันเห็นว่าตัวท่านป่วยอยู่ จะขอเลิกกองทัพกลับไปเมืองกังตั๋งก่อน แล้วจึงค่อยยกมาทำการศึกด้วยโจหยิน จิวยี่ได้ฟังดังนั้นก็ลุกขึ้นแล้วว่า ตัวเราแลท่านทั้งปวงเปนทหารกินเบี้ยหวัด แต่ตัวเรานี้คิดจะสนองคุณนายจึงมาทำการทั้งนี้ ถึงมาทว่าชีวิตเราจะตายในท่ามกลางศึกก็ให้เอาอานม้าปิดซากศพไว้เร่งทำการต่อ ไป แลท่านทั้งปวงเปนนายหมวดนายกองสิ้นทุกคน เหตุใดมาวิตกถึงเราป่วยอยู่ แลมิได้ยกออกรบพุ่งด้วยข้าศึกนั้นมิสมควร แล้วจิวยี่ก็แต่งตัวใส่เกราะถือทวนขึ้นม้า ทหารทั้งปวงเห็นดังนั้นก็ชวนกันตามจิวยี่ออกมาถึงประตูค่าย
ฝ่ายโจหยินใช้ทหารมาร้องด่าว่า อ้ายจิวยี่นั้นอายุก็ยังอ่อนอยู่ แต่ความคิดนั้นกำเริบโอหังนัก ชีวิตมึงจะตายในกลางศึกครั้งนี้ จิวยี่ได้ฟังดังนั้นก็ขับม้าออกไปแล้วร้องว่า ตัวกูอยู่นี่แน่โจหยินมึงอย่าว่าหยาบช้าเลย จะรบกันก็มาเถิด จึงให้พัวเจี้ยงขับม้าออกรบด้วยโจหยิน แล้วจิวยี่เร่งขับทหารหนุนออกไป ในขณะนั้นพอพิษยากำเริบขึ้นอาเจียนโลหิตออกมาตกม้าลง โจหยินเห็นดังนั้นก็คุมทหารรบฝ่าฟันเข้าไป เหล่าทหารจิวยี่ก็รบพุ่งต้านทานไว้ แล้วป้องกันจิวยี่เข้าไปในค่ายช่วยกันแก้ไขฟื้นขึ้น ฝ่ายโจหยินก็ยกทัพกลับเข้าเมือง
เทียเภาจึงถามจิวยี่ว่า เมื่อท่านป่วยอยู่ฉนี้จะคิดอ่านประการใด จิวยี่จึงค่อยกระซิบบอกว่า ท่านอย่าวิตกเลย เราคิดการไว้ได้แล้ว จึงบอกเทียเภาว่า เราจะแต่งให้คนสนิธเข้าไปพูดจาว่าเราถึงแก่ความตายแล้ว ซึ่งจะอยู่ด้วยนายทัพนายกองนั้นไม่ได้ จึงหนีเข้าไปหาโจหยิน ๆ ก็จะมีใจกำเริบยกมาตีค่ายเราเปนมั่นคง เราจึงจะทิ้งค่ายเสียแต่งทหารไปซุ่มไว้สี่กอง แล้วให้ตีกระหนาบเข้ามา ก็จะจับเอาตัวโจหยินได้โดยง่าย เทียเภาเห็นชอบด้วย จิวยี่ก็สั่งทหารทั้งปวงให้ร้องไห้ขึ้นว่าจิวยี่ถึงแก่ความตายแล้ว ให้เอาธงขาวขึ้นปักหน้าค่าย ทหารทั้งปวงนั้นก็ให้นุ่งขาวห่มขาวสิ้น แล้วก็สั่งทหารให้ทำการตามคิดไว้
ฝ่ายโจหยินจึงปรึกษาแก่ทหารทั้งปวงว่า เราให้ร้องด่าจิวยี่เปนข้อหยาบช้า จิวยี่โกรธออกมารบก็หาทำสิ่งใดเราได้ไม่ จนอาเจียนโลหิตออกมา เราเห็นชีวิตจิวยี่นั้นจะถึงความตายครั้งนี้เปนมั่นคง พอทหารเข้ามาบอกโจหยินว่า บัดนี้ทหารจิวยี่สิบสองคนจะเข้ามาหาท่าน โจหยินจึงให้หาเข้ามาแล้วถามว่า บัดนี้ตัวมาด้วยเหตุสิ่งใด ทหารสิบสองคนนั้นจึงบอกว่า ทหารสิบคนนี้เปนทหารจิวยี่ อันทหารสองคนนั้นเปนทหารโจโฉจิวยี่จับไว้ได้ เมื่อจิวยี่ออกมารบด้วยท่านนั้น จิวยี่อาเจียนโลหิตออกมาก็กลับเข้าค่าย อยู่หน่อยหนึ่งจิวยี่ก็ตาย บัดนี้เทียเภาเปนแม่ทัพบังคับการกำเริบทำตามอำเภอใจ ข้าพเจ้าทั้งนี้อยู่ไม่ได้จึงพากันหนีมาหวังจะพึ่งท่าน
โจหยินได้ฟังดังนั้นจึงพิศดูทหารทั้งสองคนนั้นก็จำได้ว่าทหารโจโฉ ก็สิ้นสงสัยมีความยินดี จึงปรึกษาแก่ทหารทั้งปวงว่า จิวยี่ถึงแก่ความตายแล้ว เวลาคํ่าวันนี้เราจะยกทหารคุมออกไปปล้นเอาค่ายเทียเภาให้จงได้ ชิงเอาศพจิวยี่นั้นมาตัดเอาสีสะส่งขึ้นไปให้โจโฉ ณ เมืองหลวง ทหารทั้งปวงเห็นชอบด้วย โจหยินจึงให้ตันเกียวอยู่รักษาเมือง งิวขึ้มคุมทหารเปนกองหน้า แลตัวโจหยินนั้นเปนกองหลวง ให้โจหองกับโจซุนคุมทหารเปนกองหลัง ครั้นเวลาประมาณยามเศษก็ยกออกไปถึงหน้าค่ายเทียเภามิได้เห็นคนในค่าย โจหยินจึงคิดว่าจิวยี่ทำกลอุบายไว้ฉนี้ ก็ให้ถอยทัพจะกลับเข้าเมือง พอได้ยินเสียงประทัดแลทหารโห่ร้องอื้ออึงทั้งสี่ด้าน แล้วเห็นข้างทิศตวันออกนั้นฮันต๋งจิวขิมคุมทหารตีเข้ามา ข้างทิศตวันตกนั้นพัวเจี้ยงกับจิวท่ายตีกระหนาบเข้ามา ชีเซ่งกับเตงฮองคุมทหารตีเข้ามาข้างทิศใต้ ตันบูกับลิบองคุมทหารตีตลุมบอนเข้ามาฝ่ายทิศเหนือ แลทหารจิวยี่ฆ่าฟันทหารโจหยินล้มตายเปนอันมาก โจหยินกับทหารทั้งปวงต้านทานมิได้ก็พากันแตกหนีแยกไปเปนสามทาง โจหยินนั้นเหลือทหารประมาณยี่สิบคน ครั้นเวลาสามยามเศษพอพบโจหองจะพากันกลับเข้าเมือง เห็นเล่งทองคุมทหารมาตั้งสกัดอยู่ โจหยินก็พาโจหองหนีไปถึงปากทาง พอพบกำเหลงก้าวสกัดอยู่ โจหยินกับโจหองเข้ารบกับกำเหลงเปนสามารถ ต้านทานกำเหลงมิได้ก็พาทหารประมาณยี่สิบคนหนีจะไปทางเมืองซงหยง ครั้นเวลารุ่งเช้านายทหารทั้งปวงก็เข้าไปหาจิวยี่ ๆ จึงพาทหารใหญ่น้อยทั้งนั้นจะเข้าไปในเมืองลำกุ๋น
กรุณาแสดงความคิดเห็น