Loading ...

$show=home

จุดเริ่มต้นของการศึกษาสามก๊ก

แหล่งศึกษาเรียนรู้ ทุกเรื่องราวของวรรณกรรมเพชรน้ำเอกของโลก

สามก๊กวิทยา : THREE KINGDOMS ACADEMY

ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่อาณาจักร
"สามก๊กวิทยา"
THREE KINGDOMS ACADEMY

สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 40

สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 40
สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 40
สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 40

เนื้อหา

  • โจโฉฝึกทหารเรือ 
  • โจโฉให้เจียวก้านไปเกลี้ยกล่อมจิวยี่
  • โจโฉเสียกลจิวยี่
  • จิวยี่อุบายจะฆ่าขงเบ้งด้วยให้ทำลูกเกาทัณฑ์ 
  • จิวยี่ปรึกษากับขงเบ้งจะเผาทัพโจโฉ 

ฝ่าย โจโฉครั้นแตกมาก็ขึ้นไปค่าย แล้วว่าแก่ชัวมอเตียวอุ๋นว่า ทหารเมืองกังตั๋งน้อยกว่าเราเหตุใดจึงแตกมา หรือตัวทั้งสองมิได้ตั้งใจทำการโดยสุจริตแกล้งให้เสียมาดังนี้ ชัวมอจึงว่า ทหารเมืองเกงจิ๋วมิได้ฝึกสอนละไว้นานแล้ว ประการหนึ่งเล่าทหารของท่านก็ล้วนแต่ชาวดอนไม่ชำนาญในทัพเรือ จึงเสียทีแก่จิวยี่ เพราะเหตุนี้ขอให้ท่านคิดอ่านเอาเรือทอดต่อกันล้อมเปนค่ายไว้กลางนํ้า จึงให้ทหารเมืองชีจิ๋วเมืองเชียงจิ๋วเข้าอยู่ภายใน ให้ทหารเมืองเกงจิ๋วอยู่รอบนอก ฝึกสอนให้เจนในการทัพเรือจงได้ แล้วจึงคิดการทำศึกแก่จิวยี่สืบไป

โจโฉได้ฟังดังนั้นจึงว่า ตัวท่านทั้งสองนี้ก็ชำนาญในการสงครามทั้งทัพบกทัพเรือ เราก็ไว้ใจตั้งให้เปนแม่ทัพผู้ใหญ่แล้ว แม้ท่านเห็นดีประการใดก็เร่งฝึกสอนเถิด ชัวมอกับเตียวอุ๋นได้ฟังดังนั้นก็ลาโจโฉออกมา จึงให้เอาเรือใหญ่ไปทอดวงเปนค่ายลงตามชายทเล ไว้ช่องสำหรบจะเข้าออกยี่สิบสี่ประตู แล้วจัดทหารลงเรือรบแจวหนีแลไล่ฝึกหัดหวังจะให้รวดเร็วชำนาญในที่รบ ครั้นเวลากลางคืนทหารในกองทัพเรือทัพบกโจโฉทั้งปวงก็จุดคบเพลิงสว่างไปดัง กลางวัน แต่ค่ายบกทหารโจโฉตั้งรายกันไปทางไกลประมาณสามพันเส้น

ฝ่ายจิวยี่ครั้นมีชัยชนะ กลับมาถึงค่ายก็ปูนบำเหน็จทหารใหญ่น้อยทั้งปวง แล้วแต่งหนังสือไปแจ้งข้อราชการแก่ซุนกวนตามซึ่งได้รบพุ่งกันทุกประการ ในเวลากลางคืนวันนั้นจิวยี่แลเห็นแสงเพลิงฝ่ายทิศตวันตกเปนอันมาก จึงถามทหารทั้งปวงว่านั่นแสงเพลิงอันใด ทหารจึงบอกว่าแสงเพลิงนั้นคือค่ายโจโฉ จิวยี่ได้ฟังดังนั้นก็ตกใจ ครั้นเวลารุ่งเช้าจิวยี่จัดทหารที่มีฝีมือกับเครื่องเล่นกระจับปี่สีซอลง เรือลำหนึ่งรีบไปดูใกล้ทัพโจโฉ แล้วก็ให้ทำเพลงมโหรี แจวปลอมเปนเรือลูกค้าท่องเที่ยวไปมา เห็นทหารโจโฉตั้งกระบวรทัพเรือ ชัวมอเปนนายหัดทหารทั้งปวง จิวยี่เห็นดังนั้นก็ตกใจ จึงถามทหารซึ่งมาด้วยนั้นว่า ทหารโจโฉผู้ใดซึ่งเปนแม่ทัพเรือฝึกสอนทหารทั้งปวงดังนี้ ทหารซึ่งรู้จักนั้นบอกว่า อันนายทัพเรือโจโฉนั้นชื่อชัวมอเตียวอุ๋นได้ฝึกสอนทหารทั้งปวง จิวยี่แจ้งดังนั้นจึงคิดว่า ชัวมอเตียวอุ๋นนี้เดิมเปนชาวเมืองกังตั๋ง ชำนาญรบทางเรือนัก จำจะคิดกลอุบายกำจัดชัวมอกับเตียวอุ๋นเสียให้ได้ เราจึงจะได้ทำศึกแก่โจโฉไปภายหน้าไม่ขัดสน

ในขณะนั้นทหารโจโฉเห็นก็เอาเนื้อความไปบอกแก่โจโฉว่า จิวยี่ลอบมาดูทหารเราฝึกสอน โจโฉจึงให้ทหารเอาเรือรบออกไล่จับ ฝ่ายจิวยี่เห็นเรือแซงประหลาทออกมา ก็ให้ทหารทั้งปวงรีบแจวหนีกลับไป ณ ค่าย ทหารโจโฉเห็นจิวยี่หนีไปไกลประมาณร้อยเส้น เห็นจะไม่ทันก็กลับมาบอกโจโฉ ๆ จึงปรึกษาทหารทั้งปวงว่า ครั้งก่อนเราก็แตกจิวยี่มา ครั้นเราให้ฝึกสอนทหาร จิวยี่ยังมีนํ้าใจกำเริบบังอาจมาดูทัพเราได้ ครั้งนี้เราได้ความอัปยศนัก ท่านทั้งปวงจะเห็นประการใดจึงจะแก้แค้นจิวยี่ได้

เจียวก้านที่ปรึกษาจึงว่า ข้าพเจ้ากับจิวยี่เมื่อยังน้อยอยู่นั้นได้เรียนหนังสือครูเดียวกันมา แล้วก็มีน้ำใจรักใคร่กันเปนอันมาก ข้าพเจ้าจะอาสาไปเกลี้ยกล่อมจิวยี่ให้สมัคมาอยู่ด้วยท่าน โจโฉได้ฟังดังนั้นก็มีความยินดีจึงว่า ซึ่งท่านไปนั้นยังจะได้ราชการหรือ เจียวก้านจึงว่าข้าพเจ้าจะอาสาไปเกลี้ยกล่อมว่ากล่าวจิวยี่ให้ได้ โจโฉจึงว่า ซึ่งท่านจะไปนั้นจะต้องการอะไรไปบ้าง เจียวก้านจึงว่าข้าพเจ้าจะขอคนสองคนแต่พอแจวเรือกับเด็กตามหลังไปคนหนึ่ง โจโฉก็ให้จัดคนให้ เจียวก้านก็ลาโจโฉไปถึงค่ายจิวยี่แล้วบอกแก่ทหารว่า เราเปนเพื่อนรักกับจิวยี่ บัดนี้มีใจรำลึกถึงจึงมาหา จงเข้าไปบอกจิวยี่ให้แจ้งด้วย ทหารก็เอาเนื้อความเข้าไปบอกจิวยี่ตามคำเจียวก้านว่าทุกประการ

จิวยี่แจ้งดังนั้นจึงบอกแก่ทหารทั้งปวงว่า ซึ่งเจียวก้านจะมาหาเรานี้หวังจะเกลี้ยกล่อมเรา จิวยี่จึงค่อยกระซิบสั่งทหารเปนการลับไว้หลายข้อ แล้วก็ออกไปรับเจียวก้านเข้ามาในค่าย ต่างคนต่างคำนับปราไสกัน จิวยี่ถามเจียวก้านว่า ตัวท่านอยู่กับโจโฉ ซึ่งมาบัดนี้จะเกลี้ยกล่อมเราหรือ เจียวก้านได้ฟังดังนั้นก็สดุ้งใจจึงตอบว่า เราจะมาเกลี้ยกล่อมท่านนั้นหามิได้ แต่เราจากกันมานานแล้ว เรามีใจรำลึกถึงท่าน บัดนี้รู้ว่าท่านมาอยู่ที่นี่เราจึงมาหาหวังจะถามข่าว แม้ท่านสงสัยอยู่ดังนั้นเราก็จะลาท่านไป จิวยี่ยุดมือไว้แล้วว่า เราคิดว่าท่านอาสาโจโฉมาเกลี้ยกล่อมเรา เมื่อท่านมาหาโดยปรกติดีอยู่แล้วก็จะด่วนไปไหนเล่า

จิวยี่ทำยินดีจูงมือเจียวก้านเข้าไปข้างในเชิญให้กินโต๊ะ แล้วบอกแก่ทหารทั้งปวงว่า เจียวก้านนี้เปนเพื่อนรักสนิธของเรา ได้เรียนหนังสือครูเดียวกับเรามาแต่ก่อน อย่าได้สงสัยเจียวก้านสิ่งหนึ่งสิ่งใดเลย ขณะเมื่อเสพย์สุราอยู่นั้นจิวยี่จึงชักกระบี่ซึ่งสะพายอยู่นั้นส่งให้แก่ไท สูจู้แล้วสั่งว่า เจียวก้านเพื่อนรักของเรามาหา เราจะเสพย์สุราเล่นให้สบายใจ แม้ได้ยินผู้ใดว่ากล่าวเนื้อความถึงโจโฉก็ดีซุนกวนก็ดีให้เอากระบี่นี้ตัด สีสะเสีย ไทสูจู้ก็รับเอากระบี่นั้นยืนคอยอยู่

เจียวก้านได้ฟังดังนั้นก็กลัว มิได้ว่ากล่าวบอกเนื้อความประการใด จิวยี่จึงแกล้งว่าแก่เจียวก้านว่า ตัวเราแต่เพียงได้เปนแม่ทัพมาครั้งนี้ สุราแต่หยดหนึ่งก็มิได้หยอดฅอ วันนี้ท่านผู้เปนเพื่อนรักมาหาเรา ๆ จงเสพย์สุราด้วย แล้วจิวยี่ก็จูงมือเจียวก้านออกไปถึงหน้าทัพ เห็นทหารทั้งปวงแต่งตัวใส่เกราะถืออาวุธต่าง ๆ ยืนอยู่เปนขนัดจึงถามเจียวก้านว่า ทหารของเรานี้ท่านเห็นเปนประการใดบ้าง เจียวก้านจึงตอบว่า เราได้ยินกิตติศัพท์เขาเลื่องลืออยู่ว่า ทหารเมืองกังตั๋งนี้ดีเปนอันมาก แล้วประกอบด้วยฝีมือกล้าหาญในการสงคราม เรามาเห็นวันนี้ก็เข้มขันเหมือนหนึ่งทหารเสือสมกับคำเลื่องลือ ควรที่จะทำการสงคราม จิวยี่พาเจียวก้านไปข้างหลังค่าย ชี้ให้ดูยุ้งฉางแล้วถามว่า ที่ไว้สเบียงอาหารของเรานี้ท่านเห็นประการใด เจียวก้านจึงว่า ที่ท่านไว้สเบียงอาหารนั้นบริบูรณ์มั่นคงนัก สมควรเปนแม่ทัพแม่กองอยู่แล้ว จิวยี่จึงแกล้งว่า ตัวเรานี้แต่ครั้งเรียนหนังสือครูเดียวอยู่ด้วยกับท่านนั้น มิได้คิดเลยว่าจะตั้งตัวเปนใหญ่ได้ถึงเพียงนี้ เจียวก้านจึงตอบว่า อันสติปัญญาของท่านมีมากนัก ซึ่งได้เปนที่นายทหารนี้ก็สมควรอยู่แล้ว

จิวยี่ได้ฟังดังนั้นก็จูงมือเจียวก้านเดิรเข้ามาพลางว่าแก่เจียวก้านว่า อันคำโบราณกล่าวไว้ว่า ธรรมดาเกิดมาเปนชาย แม้จะแสวงหาเจ้านายซึ่งจะเปนที่พึ่งนั้น ก็ให้พิเคราะห์ดูนํ้าใจเจ้านายซึ่งโอบอ้อมอารีเปนสัตย์เปนธรรมจึงให้เข้า อยู่ด้วย แล้วให้ตั้งใจทำราชการโดยสัตย์ซื่อสุจริต ให้เห็นฝีมือเปนบำเหน็จไว้จึงจะได้ความสุขสืบไป ประการหนึ่งให้มีใจทำไมตรีแก่ญาติพี่น้องเพื่อนฝูงเก่าแก่ไว้อย่าให้ขาด แม้มาทว่าจะมีภัยสิ่งใดมาถึงตัวก็จะพเอิญให้มีผู้มาช่วยแก้ไขพ้นจากอันตราย ได้ ถ้าจะคิดการสิ่งใดเล่าก็จะสำเร็จ แล้วจิวยี่ก็หัวเราะ เจียวก้านได้ฟังจิวยี่ว่าป้องกันดังนั้นก็คิดว่า ซึ่งจะเกลี้ยกล่อมจิวยี่นั้นเห็นขัดสน ก็ให้ท้อใจนัก จิวยี่จึงพาเจียวก้านเข้ามาถึงที่กินโต๊ะแล้วอวดว่า ที่ปรึกษาแลทหารเมืองกังตั๋งนี้มีความคิดแลมีฝีมือเปนอันมาก

ครั้นเวลาพลบคํ่าจิวยี่จึงให้จุดเทียนเปนหลายดวง แล้วแกล้งลุกขึ้นรำกระบี่ทำเพลงว่า ธรรมดาเกิดมาเปนชายเร่งอุตส่าห์กระทำความเพียรให้มียศฐาศักดิ์ ถ้าได้สมความปราถนาแล้วจึงสำแดงความคิดให้คนทั้งปวงเห็นว่ามีสติปัญญา ตัวเราเมาสุราเจรจาฟั่นเฟือนจึงทำเพลงดังนี้ ที่ปรึกษาแลทหารทั้งปวงเห็นจิวยี่รำเพลงกระบี่ดังนั้นก็ปิดปากหัวเราะ เจียวก้านจึงว่า ตัวเรากำล้งน้อยเสพย์สุราอีกไม่ได้แล้ว ที่ปรึกษาแลทหารทั้งปวงก็ลาออกไปภายนอก

ขณะจิวยี่เมาสุราแต่มีสติอยู่ จึงแกล้งชวนเจียวก้านว่า ท่านกับเราไม่ได้นอนด้วยกันมาช้านานแล้ว วันนี้ท่านจงอยู่นอนด้วยเราสักคืนหนึ่ง แล้วก็จูงมือเจียวก้านเข้าไปนอนเตียงด้วยกัน ในขณะนั้นจิวยี่อาเจียนออกมาเต็มที่นอนแล้วแกล้งทำนอนหลับไป เจียวก้านนอนไม่หลับเพราะเปนทุกข์ด้วยรับคำโจโฉมาว่าจะเกลี้ยกล่อมจิวยี่ก็ ไม่สมความคิด เห็นจิวยี่นั้นนอนกรนอยู่ เจียวก้านคิดว่าจิวยี่นอนหลับจึงลุกไปสูบยาที่ตะเกียง เห็นหนังสือฉบับหนึ่งสักหลังผนึกนั้นบอกเนื้อความว่า ข้าพเจ้าชัวมอเตียวอุ๋น แล้วก็ฉีกออกอ่านดูในหนังสือนั้นเปนใจความว่า ชัวมอเตียวอุ๋นคำนับมาถึงจิวยี่ ซึ่งข้าพเจ้ามาอยู่ด้วยโจโฉนี้เพราะความจำใจ แต่คิดแค้นอยู่มิวาย ถ้าได้ทีเมื่อใดข้าพเจ้าจะตัดสีสะมาให้ท่าน แม้ยังมิสมความคิดก่อนข้าพเจ้าจะให้คนลอบไปบอกข่าวท่านเนือง ๆ ครั้นแจ้งในหนังสือนั้นแล้ว ก็รู้ว่าชัวมอเตียวอุ๋นเอาใจออกหากโจโฉ ก็เอาหนังสือซ่อนไว้ในมือเสื้อ ครั้นเห็นจิวยี่พลิกตัวเจียวก้านก็ดับตะเกียงเสีย แล้วแกล้งเข้าไปนอนทำเปนหลับอยู่ที่เตียง ฝ่ายจิวยี่แกล้งทำเปนละเมอว่า ยังอีกสี่วันห้าวันเจียวก้านจงดูสีสะโจโฉ ณ ค่ายเราเถิด เจียวก้านถามซักไปหวังจะให้แจ้ง จิวยี่แกล้งทำหลับไป ครั้นเวลาประมาณสองยามเศษทหารเข้ามาร้องเรียกจิวยี่ ๆ ก็ทำเปนตื่นขึ้นแล้วแกล้งถามว่า ผู้ใดมานอนด้วยเราบนเตียงนี้ เจียวก้านก็ทำเปนหลับนิ่งอยู่ ทหารจึงบอกจิวยี่ว่า เจียวก้านเพื่อนของท่านนอนอยู่ด้วยท่านลืมไปแล้วหรือ

จิวยี่ก็ทำเปนได้คิดจึงว่านานแล้วเรามิได้เสพย์สุรา วันนี้เรากินเหล้าเข้าไปเหลือขนาดเมานัก จะหลงพูดความลับสิ่งใดออกมาบ้างก็ไม่รู้เลย ทหารนั้นจึงบอกจิวยี่ว่า บัดนี้มีคนมาหาท่านแต่ฝ่ายข้างกองทัพโจโฉ จิวยี่จึงทำเปนปลุกเจียวก้าน ๆ ก็ทำเปนไม่รู้สึก จิวยี่ก็ออกไปถึงนอกประตูทัพ เจียวก้านก็ทำเปนนิ่งตรับฟังอยู่ ได้ยินทหารบอกแก่จิวยี่ว่าชัวมอเตียวอุ๋นให้คนสนิธลอบมาบอกเนื้อความว่า ซึ่งจะทำการนั้นยังไม่สมความคิดก่อน จิวยี่กลับเข้ามาปลุกเจียวก้าน ๆ แกล้งทำนอนหลับ จิวยี่ก็แกล้งนอนหลับหวังจะให้เจียวก้านหนีไป

เจียวก้านคิดแต่ในใจว่า จิวยี่นี้มีสติปัญญาลึกซึ้ง ครั้นจะอยู่ถึงรุ่งเช้าขึ้นจิวยี่หาหนังสือไม่พบก็จะทำอันตรายแก่เรา ครั้นเวลาสามยามเศษเจียวก้านแต่งตัวแล้วลอบหนีออกมาจากค่าย ทหารจิวยี่พบเข้าจึงถามเจียวก้านว่าท่านจะไปไหน เจียวก้านจึงบอกว่า ครั้นเราจะอยู่ที่นี่จิวยี่ก็จะเปนกังวลอยู่ จะไม่ได้คิดการสงคราม เราจะลาไปก่อนแล้ว ทหารนั้นก็มิได้ขัดขวางไว้

เจียวก้านก็พาเด็กนั้นลงเรือรีบให้แจวไป ณ ค่ายโจโฉ พอเวลารุ่งเช้า โจโฉเห็นเจียวก้านกลับมาจึงถามว่า ซึ่งท่านอาสาไปนั้นยังได้ราชการอยู่หรือ เจียวก้านจึงบอกว่า จิวยี่นั้นมีสติปัญญามากนัก พูดจาเกลี้ยกล่อมนั้นไม่สมความคิด โจโฉได้ฟังดังนั้นก็โกรธจึงว่า ท่านรับอาสาไปแล้วไม่ได้ราชการ จิวยี่มิหัวเราะเยาะเราเล่นหรือ เจียวก้านจึงว่า ถึงมาทว่าไปเกลี้ยกล่อมจิวยี่ไม่สมความคิด ก็ได้ความลับมาข้อหนึ่งเปนการใหญ่ ครั้นจะบอกท่านบัดนี้ก็ยังไม่ควร

โจโฉจึงให้ขับทหารทั้งปวงเสียสิ้น เจียวก้านจึงเอาหนังสือนั้นให้โจโฉ ๆ อ่านดูแจ้งเนื้อความดังนั้นก็โกรธ ว่าชัวมอเตียวอุ๋นคิดร้ายต่อเราถึงเพียงนี้ ก็ให้หาชัวมอเตียวอุ๋นเข้ามาแล้วว่า เราจะให้ตัวทั้งสองนี้ยกกองทัพเรือไปรบจิวยี่ ชัวมอเตียวอุ๋นจึงว่า ทหารทั้งปวงซึ่งข้าพเจ้าได้ฝึกสอนนั้นยังไม่สันทัด ของดอยู่หัดให้ชำนาญเรือก่อนจึงจะยกไปทำการศึกได้ โจโฉได้ฟังดังนั้นก็มีความโกรธเปนอันมากแล้วว่า ซึ่งตัวจะให้งดไว้กว่าทหารจะสันทัดการเรือนั้น สีสะเราจะมิไปอยู่ในเงื้อมมือจิวยี่หรือ ชัวมอเตียวอุ๋นมิได้รู้เนื้อความก็นิ่งอยู่ไม่ตอบประการใด โจโฉจึงให้ทหารเอาตัวชัวมอเตียวอุ๋นไปฆ่าเสีย ทหารก็คุมเอาตัวชัวมอเตียวอุ๋นไปตัดสีสะเข้ามาให้โจโฉ ๆ เห็นสีสะนายทหารทั้งสองนั้นก็คิดขึ้นได้ว่า เราเสียกลอุบายจิวยี่ไม่ทันตรึกตรองจึงให้ฆ่าชัวมอเตียวอุ๋นเสีย ครั้นจะออกปากว่าคิดผิดก็เกรงว่า ภายหน้าไปทหารทั้งปวงจะละเมิดไม่ยำเกรง

ที่ปรึกษาแลทหารทั้งปวงเห็นโจโฉให้ฆ่านายทหารทั้งสองเสียก็มีความสงสัย จึงเข้าไปถามโจโฉว่า ชัวมอเตียวอุ๋นผิดสิ่งใดท่านจึงให้ฆ่าเสีย โจโฉได้ฟังดังนั้นก็แกล้งบอกว่า ชัวมอเตียวอุ๋นเปนคนเกียจคร้านเอาการไม่ได้จึงให้ฆ่าเสีย ทหารทั้งปวงแจ้งดังนั้นก็ทอดใจใหญ่แล้วคิดว่า ชัวมอเตียวอุ๋นอุตส่าห์ทำราชการอยู่ เหตุใดจึงว่าเกียจคร้าน ทหารทั้งปวงมิได้ว่าประการใด โจโฉจึงตั้งให้อิกิ๋มกับมอกายเปนนายทหารเรือฝึกสอนทหารเลวสืบไป

ฝ่ายคนสอดแนมครั้นรู้ข่าวว่าโจโฉฆ่าชัวมอเตียวอุ๋นเสีย ก็เอาเนื้อความมาบอกแก่จิวยี่ทุกประการ จิวยี่แจ้งดังนั้นก็มีความยินดีสิ้นวิตก โลซกจึงว่าแก่จิวยี่ว่า ความคิดท่านทำกลอุบายได้ดังนี้จะกลัวอะไรแก่ฝีมือความคิดโจโฉ จิวยี่จึงว่า ซึ่งเราคิดทำการครั้งนี้บันดาทหารของเราหารู้เท่าเราไม่ แม้จะคิดอ่านการดีขึ้นไปกว่าเราก็เว้นไว้แต่ขงเบ้งผู้เดียว แล้วสั่งโลซกให้ไปพูดจาดูทีขงเบ้งว่าจะล่วงรู้การทั้งนี้หรือไม่ โลซกรับคำแล้วก็ลาไปหาขงเบ้งณ เรือน้อยแล้วว่า ข้าพเจ้าจะมาเยี่ยมท่านก็ไม่เปล่าเลย เพราะเหตุว่าต้องจ่ายสเบียงอาหารอยู่ ขงเบ้งจึงว่าครั้งนี้จิวยี่มีความชอบ เราก็พลอยดีใจด้วย แต่ยังไม่ได้ไปคำนับจิวยี่ โลซกจึงถามว่า ท่านยินดีว่าจิวยี่มีความชอบนั้นด้วยเหตุสิ่งใด ขงเบ้งจึงว่าจิวยี่ให้ท่านมาฟังดูว่า ซึ่งคิดทำการนั้นเราจะรู้หรือไม่ ตัวเราแจ้งแล้วจึงมีความยินดีด้วย โลซกได้ฟังดังนั้นก็ตกใจหน้าซีดแล้วถามว่า เหตุใดท่านจึงแจ้งเนื้อความดังนี้ ขงเบ้งจึงตอบว่า ความคิดจิวยี่นั้นลวงได้แต่เจียวก้าน ๆ ไปบอกโจโฉ ๆ ไม่ทันคิดก็ฆ่าชัวมอเตียวอุ๋นเสีย ครั้นโจโฉได้คิดก็มีมานะมิได้ออกปากว่าตัวทำผิด แลซึ่งชัวมอเตียวอุ๋นตายเสียแล้วนั้นเมืองกังตั๋งก็ไม่มีอันตราย เราจึงมีความยินดีด้วยเพราะเหตุฉนี้ บัดนี้โจโฉตั้งให้อิกิ๋มมอกายเปนนายทัพเรือ ให้ฝึกสอนทหารแทนชัวมอเตียวอุ๋น อันอิกิ๋มมอกายนั้นไม่ชำนาญเรือ จะพาเอาทหารเลวทั้งปวงมาตายเสียสิ้น โลซกได้ฟังดังนั้นก็สั่นสีสะมิได้ว่าประการใด

ขงเบ้งจึงแกล้งห้ามโลซกว่า ซึ่งเราว่ากล่าวทั้งนี้ท่านอย่าไปบอกจิวยี่เลย เพราะนํ้าใจจิวยี่ริษยาคิดจะทำร้ายเราอยู่ โลซกก็รับคำแล้วคำนับลาขงเบ้งไป จึงเอาเนื้อความทั้งปวงเล่าให้จิวยี่ฟัง แต่ข้อซึ่งขงเบ้งว่าน้ำใจจิวยี่ริษยาคิดจะทำร้ายขงเบ้งนั้นโลซกมิได้บอก จิวยี่ได้ฟังดังนั้นก็ตกใจจึงว่า อันความคิดขงเบ้งนี้ลึกซึ้งหลักแหลมนัก จำจะคิดอ่านฆ่าเสียก่อนเราจึงจะพ้นภัย โลซกจึงว่า ขงเบ้งหาความผิดมิได้ท่านจะฆ่าเสียนั้นคนทั้งปวงก็จะคระหานินทา จิวยี่จึงว่า ซึ่งเราจะฆ่าขงเบ้งนั้น จะต้องคิดอ่านให้ชอบกลมิให้คนทั้งปวงล่วงนินทาได้ โลซกจึงถามว่า ซึ่งจะฆ่าขงเบ้งนั้นท่านจะคิดเปนประการใด จิวยี่จึงว่า ท่านอย่าล่วงถามความคิดเราเลย จงคอยดูต่อภายหลังเถิด

ครั้นเวลารุ่งเช้าจิวยี่จึงให้หาทหารทั้งปวงมาพร้อมกันแล้ว จึงให้เชิญขงเบ้งมาจะคิดราชการ ขงเบ้งแจ้งดังนั้นก็มีความยินดีจึงเข้าไปในค่าย จิวยี่จึงถามขงเบ้งว่า ซึ่งเราทำสงครามทางเรือด้วยโจโฉบัดนี้ จะเอาอาวุธสิ่งใดเปนต้น ขงเบ้งจึงว่า ถ้าจะรบทางเรือนั้นก็สุดแต่เกาทัณฑ์เปนใหญ่ จิวยี่จึงทำเปนยินดีแล้วว่า ท่านว่าบัดนี้ต้องกันกับความคิดเรา อันในกองทัพเรานี้ลูกเกาทัณฑ์ก็น้อย แลการทั้งนี้เปนของนายเราทั้งสองด้วยกัน ท่านจงช่วยเปนนายกองเกณฑ์ใช้ช่างทำลูกเกาทัณฑ์ให้ทันในสิบวันนี้ให้ได้สิบ หมื่น ขงเบ้งได้ฟังดังนั้นก็แจ้งในความคิดจิวยี่ จึงว่าท่านจะเอาลูกเกาทัณฑ์สิบหมื่นในสิบวันนั้นช้านัก จิวยี่จึงว่า การศึกจวนอยู่ท่านอย่าว่าเปนเล่น การของนายเราจะเสียไป ขงเบ้งจึงว่าข้าพเจ้าว่านี้เปนความจริง เพราะว่าสิบวันนั้นช้านัก อันกองทัพโจโฉก็มาตั้งใกล้กันเพียงนี้ เกลือกจะยกมารบพุ่งลูกเกาทัณฑ์ไม่ทันทีจะมิเสียไปหรือ ข้าพเจ้าจะให้ได้ลูกเกาทัณฑ์แต่ในสามวัน ท่านจงให้คนไปคอยรับเอาเถิด จิวยี่จึงว่า ถ้าไม่ได้ในสามวันท่านจะคิดประการใด ขงเบ้งจึงให้ทัณฑ์บนว่า แม้ในสามวันนี้ไม่ได้ลูกเกาทัณฑ์สิบหมื่นก็ให้ฆ่าข้าพเจ้าเสียเถิด แต่ว่าถ้าข้าพเจ้าขัดสนสิ่งใดจะต้องการมามิพบท่าน ข้าพเจ้าจะบอกแก่โลซกขอท่านให้อนุญาตด้วย จิวยี่ได้ฟังดังนั้นก็รับคำ จึงสั่งโลซกแล้วให้กฎหมายถ้อยคำขงเบ้งไว้เปนสำคัญ จิวยี่ก็ชวนขงเบ้งเสพย์สุราแล้วว่า การทั้งนี้ถ้าสำเร็จท่านก็จะมีความชอบ

ขงเบ้งครั้นกินโต๊ะแล้วก็ลาจิวยี่กลับไปเรือ โลซกจึงถามจิวยี่ว่า ซึ่งขงเบ้งรับจะให้ลูกเกาทัณฑ์สิบหมื่นในสามวันนั้น ข้าพเจ้าเห็นว่าจะไม่ทัน จิวยี่จึงว่าขงเบ้งขันอาสาเอง แม้ไม่ได้สมเหมือนปากว่าเราก็จะฆ่าเสีย คนทั้งปวงก็จะไม่นินทาเราได้ ครั้งนี้เห็นขงเบ้งจะตายเปนมั่นคง ถึงมาทว่าจะมีปีกก็จะไม่พ้นมือเรา แล้วลอบสั่งทหารให้รีบไปบอกช่างซึ่งทำลูกเกาทัณฑ์นั้นให้แกล้งทำหนักหน่วง ไว้อย่าให้ทันในสามวัน เราจะดูปัญญาขงเบ้ง แล้วจิวยี่ให้โลซกไปฟังดูความคิดขงเบ้งว่าจะทำประการใด

ฝ่ายโลซกก็ลาไปหาขงเบ้ง ๆ เห็นโลซกมาจึงว่า เราได้ห้ามปรามท่านว่า อย่าให้เอาเนื้อความซึ่งพูดกันนั้นไปบอกแก่จิวยี่ท่านก็ไม่ฟัง บัดนี้จิวยี่แกล้งคิดอ่านจะฆ่าเราเสีย จึงให้เราเปนนายกองทำลูกเกาทัณฑ์สิบหมื่นให้ทันในสามวัน อันการนี้เห็นจะไม่ทันทีโทษก็จะมีแก่เรา ท่านจงช่วยคิดอ่านผ่อนผันอย่าให้มีโทษแก่เราได้ โลซกจึงตอบว่า นํ้าใจข้าพเจ้าเปนคนซื่อ ได้บอกแก่จิวยี่นั้นผิดอยู่แล้ว แต่ว่าเดิมจิวยี่จะให้ทำลูกเกาทัณฑ์ในสิบวัน ท่านขันรับแล้วให้ทัณฑ์บนว่าจะทำให้ทันแต่ในสามวัน ซึ่งท่านจะให้เราช่วยแก้ไขนั้นเห็นจะขัดสน ขงเบ้งจึงว่า ถ้าท่านไม่กรุณาก็จนอยู่ แต่จงเอ็นดูขอฟางมาจงมากกับผ้าดำให้หลายพับ แลน้ำมันสำหรับจะได้ลนดัดเช็ดลูกเกาทัณฑ์กับเรือยี่สิบลำ คนลำละสามสิบสี่สิบมาบันทุกลูกเกาทัณฑ์ไปให้จิวยี่เถิด

โลซกได้ฟังดังนั้นก็รับคำแต่ยังมีความสงสัยอยู่ ด้วยมิได้รู้ความคิดขงเบ้งจะทำเปนประการใด แล้วก็ลาขงเบ้งกลับมาบอกเนื้อความแก่จิวยี่ว่า มิได้เห็นขงเบ้งจัดแจงให้ช่างทำลูกเกาทัณฑ์ แต่ขงเบ้งนั้นขอเรือไปบันทุกลูกเกาทัณฑ์จะมาส่งให้ท่าน จิวยี่ได้ฟังดังนั้นก็มีความยินดีจึงว่า ขงเบ้งครั้งนี้ไม่พ้นตาย แล้วก็สั่งโลซกว่าขงเบ้งจะเอาสิ่งใดก็ให้เอาไปให้เถิด โลซกก็ลาออกมาจัดแจงเรือยี่สิบลำกับทหารแลสิ่งของทั้งปวง เตรียมไว้จนถึงสามวันก็มิได้เห็นขงเบ้งจะทำเปนประการใด โลซกก็ยิ่งมีความสงสัยเปนอันมาก ครั้นเวลากลางคืนวันนั้นขงเบ้งจึงให้ไปเชิญโลซกมาแล้วว่า ลูกเกาทัณฑ์เราได้ครบแล้ว ให้เอาสิ่งของซึ่งเราสั่งนั้นมาจะได้ทำการ ทั้งเรือแลคนมาบันทุกแลขนเอาลูกเกาทัณฑ์เถิด โลซกจึงว่าท่านอย่าวิตกเลย การทั้งนั้นก็เตรียมไว้พร้อมอยู่แล้ว

โลซกจึงให้ถอยเรือมา ขงเบ้งลงเรือแล้วจึงชวนโลซกว่า ท่านจงไปด้วยกันจะได้รับลูกเกาทัณฑ์ไปให้จิวยี่ โลซกจึงถามว่าท่านจะไปเอาลูกเกาทัณฑ์ที่ไหน ขงเบ้งจึงว่าท่านอย่าถามเราเลย จงไปด้วยกันเถิดจึงจะรู้ แล้วขงเบ้งก็ถอยเรือรบนั้นมา จึงให้มัดฟางแลหญ้าผูกเรียงไว้สองข้างแคมเรือรบ แล้วเอาผ้าดำนั้นคลุมมัดหญ้าแลฟางทั้งยี่สิบลำ ครั้นจัดแจงสำเร็จแล้วให้เอาพวนใหญ่ผูกโยงเรือนั้นทุกลำรีบแจวขึ้นไปถึงกอง ทัพโจโฉเวลาประมาณสามยามเศษ

ขณะนั้นเปนเดือนสิบสองข้างแรมหมอกลงหนัก ขงเบ้งจึงให้ทหารทั้งปวงตีฆ้องกลองโห่ร้องอื้ออึงขึ้น โลซกเห็นดังนั้นก็ตกใจตัวสั่นดุจดังว่านั่งอยู่ในกองเพลิงด้วยมิได้รู้ เหตุผล จึงถามขงเบ้งว่า ทหารเรามาน้อยแต่เพียงนี้ แม้โจโฉยกทัพเรือมารบพุ่งท่านจะคิดอ่านต้านทานประการใด ขงเบ้งหัวเราะแล้วบอกเปนนัยว่า หมอกลงหนักอยู่ที่ไหนโจโฉจะอาจยกทัพเรือออกมา ท่านกับเราตั้งหน้าเสพย์สุราเล่นให้สบายใจกว่าจะสว่างขึ้น เราจึงจะถอยเรือล่องกลับลงไป

ฝ่ายโจโฉได้ยินเสียงฆ้องกลองอื้ออึงดังนั้น ก็รู้ว่าทหารจิวยี่มาทำการ ครั้นจะให้เรือรบออกรบพุ่งหมอกก็ลงหนักไม่เห็นกันถนัด แลเกรงอยู่ว่าจิวยี่จะให้ทหารมาซุ่มไว้คอยรบกระหนาบ จึงสั่งอิกิ๋มมอกายให้เอาเรือรบทอดตั้งมั่นไว้ ให้แต่ทหารทั้งปวงระดมยิงเกาทัณฑ์ไป แล้วให้เตียวเลี้ยวซิหลงคุมทหารเปนอันมากลงไประดมยิงทหารจิวยี่ตามริมชายทเล แลนายทหารบกแลเรือทั้งสองกองเห็นแต่เรือเรียงกันตะคุ่มอยู่มิได้เห็นทหารว่า มากแลน้อย ก็ให้ทหารยิงเกาทัณฑ์ระดมไปเอาเรือรบนั้นดังห่าฝน ขงเบ้งให้ทหารทั้งปวงแอบมัดฟางแลหญ้าเปนหุ่นชูขึ้นไว้ ครั้นเห็นลูกเกาทัณฑ์ติดมัดฟางแลหญ้ามากแล้วก็ให้หยุดฆ้องกลองเสีย ให้กลับเรือรบแคมหนึ่งเข้ารับลูกเกาทัณฑ์อีก ให้ตีฆ้องกลองอื้ออึง เห็นลูกเกาทัณฑ์ติดมากแล้วพอสว่างขึ้น

ขงเบ้งจึงแกล้งร้องเย้ยว่า ขอบใจมหาอุปราชให้ลูกเกาทัณฑ์แก่เราเปนอันมาก แลลูกเกาทัณฑ์นี้ก็จะกลับมารบสนองคุณท่าน แล้วก็รีบแจวล่องกลับลงไป ฝ่ายทหารโจโฉเห็นเรือรบทหารจิวยี่กลับไปดังนั้นก็เอาเนื้อความไปบอกแก่โจโฉ ทุกประการ โจโฉจึงให้ทหารลงเรือเร็วรีบตามไปทางประมาณสองร้อยเส้นก็ไม่ทัน

ขณะนั้นโจโฉคิดน้อยใจว่าเสียความคิดแก่ข้าศึก ได้ความอัปยศนัก ฝ่ายขงเบ้งเมื่อล่องมานั้นจึงว่าแก่โลซกว่า เราคิดอ่านการทั้งนี้มิได้เสียทหารแต่สักคนหนึ่งแลป่วยการช่างทำ อันเรือยี่สิบลำนี้ได้ลูกเกาทัณฑ์ลำละห้าพันหกพันบ้าง ทั้งยี่สิบลำคิดเปนลูกเกาทัณฑ์กว่าสิบหมื่นอีก โลซกได้ฟังดังนั้นจึงยกมือคำนับแล้วสรรเสริญขงเบ้งว่า มีสติปัญญาดังเทพดาเข้าดลใจ ล่วงรู้ว่าวันนี้หมอกจะลงหนักจึงได้มาทำการทั้งนี้

ขงเบ้งจึงว่า อันธรรมดาเปนชายชาติทหาร ถ้าไม่รู้คเนการฤกษ์บนแลฤกษ์ตํ่า ก็มิได้เรียกว่ามีสติปัญญา ซึ่งเราจะมาทำการทั้งนี้เพราะรู้ว่าวันนี้หมอกจะลงหนัก เราจึงอาจให้ทัณฑ์บนจิวยี่ไว้ ซึ่งจิวยี่ให้เราเปนนายกองทำลูกเกาทัณฑ์ในสิบวันให้แล้วสิบหมื่นนั้น ถึงมาทว่าจะให้ช่างทำก็ไม่ทัน เหตุทั้งนี้ก็เพราะจิวยี่คิดจะฆ่าเราเสีย แต่หากเทพดาช่วยเรา ๆ จึงรู้ว่าวันนี้หมอกลงหนัก เราจึงอาจรับแต่สามวัน แลบัดนี้บุญเรามากจึงรอด โลซกก็สรรเสริญความคิดขงเบ้งเปนอันมาก ครั้นเรือกลับมาถึงหน้าค่ายโลซกจึงขึ้นไปบอกจิวยี่ว่า ลูกเกาทัณฑ์นั้นได้ครบแล้ว ให้ทหารลงไปขนเอาเถิด จิวยี่ให้ทหารลงไปขนเอาลูกเกาทัณฑ์ขึ้นมา แล้วให้นับชันสูตรได้มากกว่าสิบหมื่นอีก

โลซกจึงบอกเนื้อความซึ่งขงเบ้งคิดกลอุบายให้จิวยี่ฟังทุกประการ จิวยี่แจ้งดังนั้นก็สั่นสีสะทอดใจใหญ่แล้วว่า ขงเบ้งมีความคิดแลสติปัญญาลึกซึ้งยิ่งกว่าเราเปนอันมาก พอเห็นขงเบ้งมาจิวยี่จึงลุกออกไปรับเข้ามาให้นั่งที่สมควรแล้วจึงสรรเสริญ ว่า สติปัญญาท่านไปทำการทั้งนี้หาผู้ใดเสมอมิได้ ขงเบ้งจึงตอบว่า อันคิดอ่านกลอุบายแต่เพียงนี้จะนับถือว่าดียังมิได้ก่อน จิวยี่จึงชวนขงเบ้งเสพย์สุราแล้วบอกว่า เวลาวานนี้มีหนังสือซุนกวนให้มาถึงเราว่า ให้เร่งคิดอ่านเอาชัยชนะโจโฉให้ได้ ท่านจงเห็นแก่ราชการช่วยคิดอ่านรบพุ่งให้ได้ชัยชนะ ขงเบ้งจึงแกล้งตอบว่า อันสติปัญญาข้าพเจ้านี้น้อย ซึ่งจะให้คิดอ่านการสงครามนั้นเกลือกจะไม่ตลอดการจะเสียไป

จิวยี่จึงว่า อันกองทัพเรือโจโฉครั้งนี้ใหญ่หลวงเข้มขันนัก จะเข้าหักโหมรบพุ่งซึ่งหน้านั้นเห็นจะขัดสน เราคิดกลอุบายไว้อย่างหนึ่งท่านจะเห็นด้วยหรือประการใด ขงเบ้งจึงตอบว่า ข้าพเจ้าจะขอคิดลองดู ท่านกับข้าพเจ้าจงเขียนหนังสือซึ่งคิดนั้นใส่ฝ่ามือแล้วแบออกดูให้พร้อมจะ ต้องกันหรือหาไม่ จิวยี่เห็นชอบด้วยต่างคนต่างเขียนหนังสือลงในฝ่ามือว่าเพลิงแล้วแบออกให้กัน ดูเห็นต้องกัน จิวยี่กับขงเบ้งก็หัวเราะ จิวยี่จึงว่าเราทั้งสองคิดต้องกัน ท่านอย่าได้แพร่งพรายเนื้อความไปให้เสียการ ขงเบ้งจึงว่าท่านอย่าวิตกเลย ข้าพเจ้ามิให้เนื้อความทั้งนี้ฟุ้งซ่านไป ท่านจงเร่งคิดอ่านทำการเถิด แล้วขงเบ้งก็ลากลับไปเรือ

Download

กรุณาแสดงความคิดเห็น

ชื่อ

กวนอู,67,การ์ตูน,19,การเมือง,77,กิจกรรม,18,เกม,160,ขงเบ้ง,94,ของสะสม,40,ข่าวสาร,118,คำคมสามก๊ก,77,จิวยี่,5,จูล่ง,21,โจโฉ,66,ซุนกวน,7,เตียวหุย,11,เนื้อหาสามก๊ก,5,บทความ,353,บุคคลภาษิตในสามก๊ก,12,แบบเรียน,8,ปรัชญา,45,เพลง,41,ภาพยนตร์,53,รูปภาพ,67,ลิโป้,9,เล่าปี่,18,วิดีโอ,66,วิธีคิดวิธีทำงาน,13,เว็บไซต์,14,สถานที่,21,สามก๊ก12,14,สามก๊ก13,32,สามก๊ก14,3,สามก๊ก2010,95,สามก๊ก8,1,สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง(หน),87,สุมาอี้,15,หงสาจอมราชันย์,13,หนังสือ,173,อาวุธ,7,แอป,43,Dynasty Warriors,57,E-book,87,
ltr
item
สามก๊กวิทยา : Three Kingdoms Academy: สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 40
สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 40
สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 40
https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh3TMpMvGC1d3NS4FlNGApYpo0UhzeKxnWd7n3rY04nKvYtaRs5HqiRr3gAJQMERm3xjrhSTLSfdyc7Tz2hzre5qHcAq1oUCtpAafewQPVBYt6LbrHJtLRy2hqrHldLuV1Jn-ihjYnE9ObL/s640/%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%258A%25E0%25B8%2581-%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2588-%25E0%25B9%2594%25E0%25B9%2590.jpg
https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh3TMpMvGC1d3NS4FlNGApYpo0UhzeKxnWd7n3rY04nKvYtaRs5HqiRr3gAJQMERm3xjrhSTLSfdyc7Tz2hzre5qHcAq1oUCtpAafewQPVBYt6LbrHJtLRy2hqrHldLuV1Jn-ihjYnE9ObL/s72-c/%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%258A%25E0%25B8%2581-%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2588-%25E0%25B9%2594%25E0%25B9%2590.jpg
สามก๊กวิทยา : Three Kingdoms Academy
https://www.samkok911.com/2017/02/samkok-ebook-40.html
https://www.samkok911.com/
https://www.samkok911.com/
https://www.samkok911.com/2017/02/samkok-ebook-40.html
true
4216477688648787518
UTF-8
โหลดเนื้อหาทั้งหมด ไม่พบเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง ดูทั้งหมด อ่านเพิ่ม ตอบ ยกเลิกการตอบ ลบ โดย หน้าแรก หน้า โพสต์ ดูทั้งหมด เรื่องแนะนำสำหรับคุณ หมวดหมู่บทความ เนื้อหาในช่วงเวลา ค้นหา บทความทั้งหมด ไม่พบเนื้อหาที่คุณต้องการ กลับหน้าแรก Sunday Monday Tuesday Wednesday Thursday Friday Saturday Sun Mon Tue Wed Thu Fri Sat January February March April May June July August September October November December Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec just now 1 minute ago $$1$$ minutes ago 1 hour ago $$1$$ hours ago Yesterday $$1$$ days ago $$1$$ weeks ago more than 5 weeks ago Followers Follow THIS PREMIUM CONTENT IS LOCKED STEP 1: Share to a social network STEP 2: Click the link on your social network Copy All Code Select All Code All codes were copied to your clipboard Can not copy the codes / texts, please press [CTRL]+[C] (or CMD+C with Mac) to copy สารบัญ