สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 24
สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง(หน) ตอนที่ 24
เนื้อหา
- กวนอูเตรียมจะกลับไปหาเล่าปี่
- โจโฉทำอุบายหน่วงเหนี่ยว
- กวนอูออกจากเมืองฮูโต๋
- โจโฉตามห้ามกวนอู
- กวนอูหักด่านรายทาง
- โจโฉปล่อยกวนอูไปตามประสงค์
ฝ่ายอิกิ๋มเมื่อไปทัพกับกวนอูนั้น รู้กิตติศัพท์ว่า เล่าปี่ไปอยู่กับอ้วนเสี้ยว อิกิ๋มเอาเนื้อความบอกแก่โจโฉทุกประการ โจโฉได้ฟังดังนั้นก็ไม่มีความสบาย จึงสั่งเตียวเลี้ยวให้ไปฟังกิตติศัพท์ดูว่า กวนอูรู้ข่าวเล่าปี่แล้วจะคิดอ่านประการใดบ้าง เตียวเลี้ยวก็ลาโจโฉไปหากวนอู ถ้อยทีถ้อยคำนับกันแล้ว เห็นกิริยากวนอูไม่สบาย จึงว่าข้าพเจ้าแจ้งเหตุว่า ท่านไปครั้งนี้ได้ข่าวเล่าปี่อยู่เมืองฝ่ายเหนือ ข้าพเจ้าพลอยมีความยินดีด้วยท่าน กวนอูจึงตอบว่า เรารู้ข่าวว่าเล่าปี่ยังมีชีวิตอยู่ บัดนี้เราก็มีความวิตกด้วยยังมิได้เห็นหน้าเล่าปี่ ซึ่งท่านจะดีใจด้วยเรานั้นยังมิได้ก่อน
เตียวเลี้ยวจึงว่า ท่านกับเล่าปี่คบเปนเพื่อนสนิธกัน ข้าพเจ้าก็เปนเพื่อนของท่านด้วย ท่านรักเล่าปี่กับข้าพเจ้านี้ยังจะเหมือนกันหรือ กวนอูจึงตอบว่า ท่านกับเราเปนเพื่อนรักกันก็จริง แต่เรามิได้มีใจรักท่านเสมอเล่าปี่ อันเล่าปี่นั้นเราคบกันมาแต่ก่อน ข้างเราก็คำนับว่าเปนนายแล้วก็ได้สาบาลไว้ต่อกัน เราจึงรักเล่าปี่มากกว่าท่าน เตียวเลี้ยวจึงว่า บัดนี้ท่านรู้ข่าวเล่าปี่แล้วท่านจะไปหาหรือ ๆ จะคิดประการใด
กวนอูจึงตอบว่า เดิมเราได้ว่าไว้แก่มหาอุปราชแล้ว เราก็จะลาไปตามคำสัญญา ท่านจงอนุเคราะห์เรา ช่วยเอาธุระของเรานี้ไปแจ้งแก่มหาอุปราชโดยปรกติ อย่าให้มีความเคืองแก่เราได้ เตียวเลี้ยวจึงเอาเนื้อความซึ่งกวนอูตอบมานั้นไปเล่าให้โจโฉฟังทุกประการ โจโฉจึงว่าเราจะคิดอ่านหน่วงเอากวนอูไว้ให้ได้ ฝ่ายกวนอูนั้นคิดวิตกอยู่ซึ่งจะไปหาเล่าปี่
พอคนใช้มาบอกว่ามีผู้มาหาท่าน กวนอูจึงให้ไปหาเข้ามา แล้วถามว่าท่านนี้ชื่อใดอยู่เมืองไหน มีธุระสิ่งใดจึงมาหาเรา ตันจิ๋นจึงบอกว่า ข้าพเจ้าชื่อตันจิ๋นเปนทหารอ้วนเสี้ยว บัดนี้อ้วนเสี้ยวให้ข้าพเจ้าถือหนังสือเล่าปี่มาให้ท่าน กวนอูได้ฟังดังนั้นก็มีความยินดีจึงรับเอาหนังสือมาอ่านดูเปนใจความว่า หนังสือเล่าปี่ให้มาถึงกวนอู เดิมเราได้สาบาลไว้ต่อกันทั้งสามคนที่ในสวนดอกไม้นั้น ว่าจะร่วมสุขร่วมทุกข์กัน ผู้ใดตายก็จะตายด้วย บัดนี้เราทั้งสามคนพลัดกัน แต่เรามาอาศรัยอ้วนเสี้ยวเจ้าเมืองกิจิ๋วอยู่ แลกวนอูนั้นไปอาศรัยโจโฉ ทำการสงความมีความชอบ ได้บำเหน็จยศฐาศักดิ์มีความสุขอยู่ มิได้คิดถึงคำซึ่งสาบาลไว้แก่เรา ถ้วนกวนอูจะใคร่ให้มีความชอบในโจโฉให้มากขึ้นไปกว่านี้ ก็ให้เร่งมาตัดสีสะเราไปให้แก่โจโฉเถิด
ครั้นกวนอูแจ้งในหนังสือแล้วก็ร้องไห้ จึงว่าแก่ตันจิ๋นว่า ซึ่งเรามาอยู่กับโจโฉนี้เพราะความจำใจ จะได้ลืมพี่เสียนั้นหามิได้ ถึงอาสาโจโฉไปทัพครั้งไรก็สืบข่าวอยู่มิได้ขาด ครั้นรู้ว่าเล่าปี่อยู่กับอ้วนเสี้ยวก็คิดอยู่ว่าจะไปหาแต่ยังมิได้ที ตันจิ๋นจึงว่าท่านรักษาสัตย์อยู่ดังนั้น จงเร่งคิดอ่านไปหาเล่าปี่ให้จงได้ กวนอูจึงตอบว่า เมื่อจะเข้าไปอยู่กับโจโฉนั้น เราก็ได้ว่ากล่าวไว้ถึงสามประการ ครั้นรู้ข่าวบัดนี้จะรีบไปตามสัญญา คนทั้งปวงก็จะล่วงคระหานินทาได้ จำเราจะคิดผันผ่อนลาโจโฉเสียให้เปนทีก่อน ถึงมาทว่าโจโฉมิให้ไปเราก็จะไปให้ได้ แล้วกวนอูก็แต่งหนังสือตอบเล่าปี่ตามเนื้อความหนหลังทุกประการ แล้วก็ส่งให้ตันจิ๋น ๆ ก็รับหนังสือแล้วลากวนอูกลับไป กวนอูจึงเอาหนังสือซึ่งตอบนั้นไปบอกแก่พี่สะใภ้ทุกประการ พี่สะใภ้ทั้งสองก็มีความยินดี กวนอูจึงลาพี่สะใภ้ไปหาโจโฉหวังจะลาไปหาเล่าปี่
ขณะนั้นมีคนเอาเนื้อความไปบอกโจโฉว่า กวนอูนั้นคิดอ่านจะลาไปหาเล่าปี่ โจโฉจึงให้ปิดประตูตึกเสีย แล้วเขียนหนังสือมาปิดไว้ที่ประตูว่า มหาอุปราชไม่สบาย อย่าให้ผู้ใดเข้ามาปรึกษาราชการ กวนอูครั้นมาถึงประตูเห็นหนังสือปิดไว้ดังนั้นก็กลับมาที่อยู่ แล้วจึงให้ทหารของตัวประมาณสิบเอ็ดสิบสองคน จัดแจงรถสำหรับพี่สะใภ้กับทรัพย์สิ่งสินเตรียมไว้ บันดาเงินทองเสื้อผ้าแลสิ่งของกับหญิงคนใช้ ซึ่งโจโฉให้นั้นอย่าให้ผู้ใดเอาไป ครั้นเวลารุ่งเช้ากวนอูก็ไปลาอีก เห็นประตูตึกยังปิดอยู่จึงไป ณ บ้านเตียวเลี้ยว นายประตูนั้นมิให้เข้าไป บอกว่าเตียวเลี้ยวยังป่วยอยู่
กวนอูจึงคิดว่า โจโฉทำทั้งนี้แกล้งจะมิให้เราไปหาเล่าปี่ ตัวเราก็มีวิตกจะช้าอยู่นั้นไม่ได้ ก็กลับมาที่อยู่จึงเขียนหนังสือว่า ข้าพเจ้ากวนอูขอแจ้งเนื้อความไว้แก่มหาอุปราช ด้วยข้าพเจ้ากับเล่าปี่นั้นได้สาบาลไว้ต่อกันว่า จะร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน ถ้าผู้ใดตายก็จะตายด้วยกัน คนทั้งปวงก็รู้อยู่สิ้น แลเมื่อท่านยกกองทัพไปรบเมืองแห้ฝือนั้น ข้าพเจ้าก็ได้สัญญาไว้แก่ท่าน ๆ ก็ได้รับปฏิญาณ ข้าพเจ้าจึงมาอยู่ด้วยท่าน บัดนี้ข้าพเจ้ารู้ข่าวเล่าปี่แล้ว ข้าพเจ้าจะลาท่านไปหาเล่าปี่ตามคำที่ได้สัญญาไว้ ซึ่งท่านได้มีคุณทำนุบำรุงข้าพเจ้าไว้นั้นข้าพเจ้าก็คิดถึงคุณอยู่ แต่จะกลบลบคุณเล่าปี่เสียนั้นไม่ได้ ถ้าสืบไปชีวิตข้าพเจ้ายังไม่ตายก็จะขอสนองคุณท่านอีก ครั้นเขียนหนังสือแล้ว จึงให้คนใช้เอาไปให้นายประตูบ้านโจโฉ
กวนอูจึงเอาตราสำหรับที่ กับทรัพย์สิ่งของซึ่งโจโฉให้นั้น ใส่หีบลั่นกุญแจมอบหญิงคนใช้ไว้แล้ว จึงเชิญพี่สะใภ้ทั้งสองขึ้นรถ ตัวกวนอูถือง้าวขี่ม้าเซ็กเธาว์ พาทหารสิบเอ็ดสิบสองคนออกประตูเมืองฝ่ายทิศเหนือ นายประตูห้ามไว้ กวนอูโกรธตวาดด้วยเสียงอันดัง นายประตูทั้งนั้นตกใจกลัวหลีกไป กวนอูจึงให้ทหารสิบเอ็ดสิบสองคนนั้นรักษาพี่สะใภ้ไปข้างหน้า กวนอูป้องกันไปข้างหลัง ทหารทั้งนั้นก็ขับรถตามทางหลวงไป
ฝ่ายโจโฉปรึกษากันกับทหารทั้งปวงอยู่ ซึ่งจะคิดอ่านหน่วงเหนี่ยวกวนอูไว้ แลเนื้อความยังไม่ตกลงกัน นายประตูจึงเอาหนังสือกวนอูไปให้โจโฉ ๆ รับเอาหนังสือมาอ่านดู ครั้นแจ้งเนื้อความนั้นแล้วก็ตกใจ จึงว่ากวนอูมิไปแล้วหรือ พอหญิงคนใช้สิบคนนั้นเอาตราแลทรัพย์สิ่งของซึ่งกวนอูมอบไว้นั้นมาให้แก่โจโฉ แล้วบอกว่า บัดนี้กวนอูพาพี่สะใภ้ทั้งสองไปแล้ว โจโฉยังมิทันตอบประการใด นายประตูเมืองฝ่ายเหนือก็เอาเนื้อความมาบอกแก่โจโฉว่า กวนอูพาพี่สะใภ้ออกไปแล้ว ข้าพเจ้าห้ามไว้ก็ไม่ฟัง ครั้นจะจับกุมไว้ก็กลัวกวนอูจะฆ่าเสีย โจโฉกับที่ปรึกษายังมิได้ว่าประการใด ซัวหยงนายทหารได้ฟังดังนั้นจึงว่าแก่โจโฉว่า ซึ่งกวนอูหนีไปนั้น ข้าพเจ้าจะขอทหารสามพันอาสาไปจับเอาตัวมาให้แก่ท่าน
โจโฉจึงตวาดเอาซัวหยงแล้วว่า ซึ่งกวนอูไปทั้งนี้เพราะมีใจกตัญญูต่อเล่าปี่ผู้เปนนาย ประการหนึ่งเราก็ได้รับสัญญากวนอูไว้ แล้วเขาก็ให้หนังสือบอกเรา เหตุใดจะว่าเขาหนี ท่านทั้งปวงจงมีใจรักนายให้เหมือนกวนอูเถิด เทียหยกจึงว่า มหาอุปราชเลี้ยงกวนอูก็ถึงขนาด กวนอูก็ดูหมิ่นมิได้นบนอบลา แล้วบังอาจเขียนหนังสือมาให้ฉนี้ไม่ควร ถ้าจะปล่อยกวนอูไปถึงอ้วนเสี้ยว เข้าด้วยอ้วนเสี้ยวก็จะมีใจกำเริบขึ้น อุปมาดังเสือมีกำลัง ขอให้ท่านกะเกณฑ์ทหารไปจับเอาตัวกวนอูมาฆ่าเสีย นานไปจึงจะไม่มีเสี้ยนหนาม
โจโฉจึงตอบว่า เราได้รับสัญญาเขาไว้แล้ว ครั้นจะให้ไปติดตามเอาตัวมาบัดนี้ก็จะเสียวาจาไป ประการหนึ่งน้ำใจกวนอูรักษาความสัตย์อยู่ ถึงภายหน้าไปเห็นจะไม่ทำร้ายแก่เรา แล้วโจโฉจึงว่าแก่เตียวเลี้ยวว่า เราทำนุบำรุงกวนอูเพียงนี้ กวนอูก็ไม่เห็นแก่ยศฐาศักดิ์แลทรัพย์สิ่งสิน ตั้งใจรักษาสัตย์หาผู้ใดจะเสมอมิได้ เราก็คิดเกรงใจกวนอูอยู่ ท่านจงรีบตามไปห้ามกวนอูไว้ ว่าเราจะขอไปส่งถึงกลางทาง แล้วจะให้เงินทองเสื้อผ้าแก่กวนอูให้เปนคุณไว้จงถึงขนาด นานไปกวนอูจะได้คิดถึงคุณเรา เตียวเลี้ยวก็ลาโจโฉแล้วขึ้นม้าควบตามไป โจโฉจึงจัดแจงเงินทอง แล้วขึ้นม้าพาทหารประมาณสามสิบมิได้ถืออาวุธรีบตามไปภายหลัง
ฝ่ายกวนอูได้ยินเสียงร้องเรียกมาข้างหลังว่าให้หยุดอยู่ก่อน กวนอูจึงว่าแก่ทหารทั้งปวงว่า ให้คุมรถรีบไปก่อน เราจะคอยป้องกันทหารโจโฉซึ่งเรียกนั้น จะมาดีหรือร้าย แล้วกวนอูก็ชักม้าหยุดไว้แลไปเห็นเตียวเลี้ยว กวนอูจึงถามว่าท่านตามมาจะจับเราหรือ เตียวเลี้ยวจึงตอบว่าหามิได้ บัดนี้มหาอุปราชแจ้งว่า ท่านจะไปทางกันดารก็มีใจคิดถึงท่าน จึงให้ข้าพเจ้ารีบตามมาห้ามท่านให้หยุดอยู่ก่อน มหาอุปราชจะมาส่งท่าน กวนอูได้ฟังดังนั้นก็มีความสงสัยอยู่ จึงถอยม้าขึ้นมายืนอยู่บนสะพานศิลา แล้วแลไปเห็นโจโฉคุมทหารเอกขี่ม้ามาประมาณสามสิบ ครั้นโจโฉเข้าไปใกล้จึงให้ทหารยืนอยู่เปนหน้ากระดาน กวนอูเห็นทหารโจโฉมิได้ถืออาวุธก็ค่อยคลายความสงสัย
โจโฉจึงถามกวนอูว่า เหตุใดท่านจึงรีบมามิให้เรารู้ กวนอูยอบตัวลงคำนับแล้วตอบว่า เดิมข้าพเจ้าได้สัญญาไว้ต่อท่าน ๆ ก็รับปฏิญาณไว้ ครั้นข้าพเจ้ารู้ข่าวเล่าปี่แล้วเข้าจะไปลาท่านถึงสองสามครั้งก็ไม่ถึงท่าน ข้าพเจ้าก็วิตกอยู่ถึงเล่าปี่ จึงเขียนหนังสือคำนับลาท่านให้ไว้แก่นายประตู แลสิ่งของซึ่งท่านให้ข้าพเจ้านั้น ข้าพเจ้ามอบให้แก่หญิงคนใช้ไว้สิ้น ข้าพเจ้าจึงรีบมาหวังจะไปหาเล่าปี่ มหาอุปราชจงคิดถึงคำซึ่งรับสัญญาไว้นั้น จงเมตตาให้ข้าพเจ้าไปเถิด
โจโฉจึงว่าเราทำการทุกวันนี้ก็ตั้งใจปราถนาหาผู้รักษาสัตย์ ตัวท่านมีกตัญญูต่อเล่าปี่เราก็มีความยินดีด้วย ซึ่งเรารับสัญญาท่านไว้ เราก็รักษาวาจาอยู่มิให้คำนั้นเปนสองได้ ท่านจะไปเราก็ไม่ห้าม แต่เกรงอยู่ว่าเปนทางกันดาร กลัวจะขาดสเบียงอาหารเราจึงตามมาส่ง หวังจะให้ทรัพย์สินไว้เปนสเบียงไป แล้วโจโฉจึงให้ทหารเอาทองแท่งถาดหนึ่งให้กวนอู ๆ ก็ไม่รับเอาทองนั้น แล้วจึงว่าเงินเบี้ยหวัดซึ่งข้าพเจ้าได้รับพระราชทานนั้นก็ยังมีพอใช้ สอยอยู่ ทองนี้มหาอุปราชจงเอาไว้เถิด จะได้แจกทหารซึ่งมีบำเหน็จสืบไป โจโฉจึงว่า ท่านมาอยู่กับเราก็มีความชอบเปนอันมาก ซึ่งเราให้ทองแท่งถาดหนึ่งนี้ก็หาควรกับความชอบของท่านไม่ เหตุไฉนท่านจึงไม่รับ
กวนอูตอบว่า ข้าพเจ้ามาอยู่ด้วยมหาอุปราชก็มิได้ทำความชอบสิ่งใด ได้อาสาแต่ครั้งหนึ่งสองครั้งเท่านั้นไม่ควรที่จะนับว่ามีความชอบได้ โจโฉได้ยินกวนอูว่าดังนั้นจึงว่า ท่านเปนทหารมีฝีมือเข้มแขงแล้วก็มีความสัตย์แลกกตัญญูหาผู้เสมอมิได้ แต่เราเปนคนบุญน้อยจึงมิได้ท่านไว้สมความปราถนา ซึ่งทองนี้ท่านมิรับแล้วก็ตามเถิด จงรับเอาเสื้อนี้ไว้แต่พออย่าให้เสียทีซึ่งตามมาส่งท่าน แล้วโจโฉก็ให้ทหารเอาเสื้อลายทองไปให้กวนอู ๆ ครั้นจะลงจากม้ารับเอาเสื้อก็ไม่ไว้ใจโจโฉ จึงยอบตัวลงแล้วยื่นง้าวไปรับเอาเสื้อมาคลุมตัวลงแล้วจึงว่า คุณของมหาอุปราชก็มีอยู่แก่ข้าพเจ้าเปนอันมากแล้วยังเอาเสื้อมาให้อีกเล่า แม้ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่ก็จะแทนคุณมหาอุปราช กวนอูก็คำนับแล้วลาโจโฉขับม้าไป
เคาทูจึงว่าแก่โจโฉว่า กวนอูนี้หยาบช้านัก ท่านให้เอาเสื้อไปให้ก็ยื่นง้าวมารับเอา ทำทั้งนี้ดูหมิ่นท่าน เหตุใดท่านจึงไม่เอาโทษ โจโฉจึงว่าซึ่งจะถือโทษกวนอูนั้นไม่ได้ เพราะเขาตัวผู้เดียว เราพวกมากกว่าเขาจึงไม่ไว้ใจ เราได้ออกปากให้เขาไปแล้ว อย่าเอาโทษเขาเลย แล้วโจโฉก็พาทหารทั้งปวงกลับมาเมืองฮูโต๋ สรรเสริญกวนอูว่ามีความสัตย์นัก
ฝ่ายกวนอูขับม้าไปทางสามร้อยเส้นไม่เห็นรถพี่สะใภ้ กวนอูตกใจเที่ยวหาอยู่มิได้พบ พอได้ยินเสียงร้องมาแต่เนินเขาว่า กวนอูหยุดอยู่ก่อน กวนอูเหลียวมาเห็นหนุ่มน้อยโพกผ้าเหลือง ใส่เสื้อลายทอง ขี่ม้าถือทวนเอาสีสะคนผูกคอม้า คุมพวกเพื่อนประมาณร้อยเศษ ลงมาถึงหน้ากวนอู ๆ จึงถามว่าท่านนี้ชื่อใดมาแต่ไหน นายโจรนั้นลงจากม้าวางทวนเสีย แล้วคุกเข่าลงคำนับบอกว่า ข้าพเจ้าชื่อเลียวฮัวชาวเมืองซงหยง เมื่อครั้งเกิดโจรโพกผ้าเหลืองนั้นข้าพเจ้าแตกตื่นมาอยู่เขานี้ ซ่องสุมเพื่อนได้ประมาณห้าร้อยเศษเที่ยวตีชิงเข้าปลาอาหารเลี้ยงชีวิต เตาอวนนายโจรเพื่อนข้าพเจ้าคุมพวกเพื่อนลงมาตีชิงได้หญิงไปสองคน ข้าพเจ้าสืบถามคนซึ่งมาด้วยนั้นบอกว่าเปนภรรยาเล่าปี่มากับท่าน ข้าพเจ้าว่าจะเอามาส่งให้ท่านเตาอวนไม่ยอม ข้าพเจ้าจึงฆ่าเสียตัดเอาสีสะมาให้ท่าน ภรรยาเล่าปี่ทั้งสองนั้นข้าพเจ้าให้ทหารคุมมาข้างหลัง พอพวกโจรคุมรถมาถึง กวนอูก็ลงจากม้ามาคำนับพี่สะใภ้ทั้งสองแล้วว่า ซึ่งท่านได้ตกใจนั้นโทษข้าพเจ้าผิดอยู่แล้ว พี่สะใภ้ทั้งสองจึงว่า เมื่อโจรมันพาพี่ขึ้นไปบนเขานั้น ถ้าเลียวฮัวมิช่วยพี่ก็จะเปนอันตราย กวนอูจึงถามทหารซึ่งมาด้วยว่า เมื่อโจรพาขึ้นไปนั้นเหตุใดเลียวฮัวจึงมาช่วย ทหารจึงบอกว่า เมื่อข้าพเจ้าคุมรถมานั้น เตาอวนคุมพวกโจรลงมาพาเอารถขึ้นไปถึงบนเขา แล้วบอกแก่เลียวฮัวว่า ได้หญิงมาสองคน จะแบ่งให้เปนภรรยาเลียวฮัวคนหนึ่ง เลียวฮัวจึงถามข้าพเจ้าว่าหญิงสองคนนี้เปนภรรยาผู้ใด ข้าพเจ้าบอกว่าเปนภรรยาเล่าปี่ กวนอูผู้น้องคุมมาจะไปหาเล่าปี่ ณ เมืองกิจิ๋ว เลียวฮัวจึงว่าแก่เตาอวนให้พาพี่สะใภ้ลงมาให้ท่าน เตาอวนไม่ทำตามเลียวฮัวโกรธจึงฆ่าเตาอวนเสีย แล้วให้พวกเพื่อนคุมรถลงมาให้ท่าน
กวนอูได้ฟังดังนั้นก็ยินดี จึงคำนับเลียวฮัวแล้วว่า ซึ่งท่านทำคุณแก่เราครั้งนี้เราขอบใจนัก ถ้าชีวิตเรามิตายไปภายหน้าเราจะแทนคุณท่าน เลียวฮัวจึงว่าแก่กวนอูว่า ซึ่งท่านจะไปนั้นเปนทางกันดาร ข้าพเจ้าจะคุมพวกเพื่อนไปส่งกว่าจะพ้นแดนเมืองฮูโต๋ กวนอูได้ฟังดังนั้นจึงคิดแต่ในใจว่า เลียวฮัวนี้เปนโจรโพกผ้าเหลือง ครั้นจะให้คุมพวกเพื่อนไปส่งเรา คนทั้งปวงจะนินทาเราว่าคบพวกโจร แล้วว่าแก่เลียวฮัวว่า ซึ่งท่านจะตามไปส่งนั้นเราขอบใจแล้ว แต่อย่าไปให้ลำบากเลย เลียวฮัวก็เอาเงินทองให้กวนอู ๆ ไม่เอา จึงว่าของทั้งนี้ท่านเอาไว้เถิด เลียวฮัวก็ลากวนอูคุมพวกโจรกลับไป ณ เขาที่อยู่
กวนอูจึงเอาเนื้อความซึ่งโจโฉตามมาส่งนั้นเล่าให้พี่สะใภ้ฟังทุกประการ แล้วให้ขับรถไปตามทาง เวลาเย็นเห็นบ้านตำบลหนึ่ง กวนอูจึงพาพี่สะใภ้เข้าไปอาศรัยนอน โฮหัวนายบ้านนั้นอายุแก่ ผมแลหนวดหงอก ครั้นเห็นกวนอูมาก็ออกไปรับ จึงถามว่าท่านนี้ชื่อใดมานี่จะไปไหน กวนอูจึงตอบว่า ข้าพเจ้าชื่อกวนอูเปนน้องเล่าปี่ ข้าพเจ้าจะไปหาพี่ ณ เมืองกิจิ๋ว
โฮหัวจึงถามว่า ท่านนี้หรือซึ่งฆ่างันเหลียงบุนทิวทหารอ้วนเสี้ยว กวนอูก็รับคำ งอหัวได้ฟังดังนั้นก็มีความยินดี จึงว่าเชิญท่านเข้าไปในตึกเถิด กวนอูจึงว่าพี่สะใภ้ข้าพเจ้าทั้งสองอยู่ข้างนอก โฮหัวก็เรียกภรรยากับบุตรหญิงให้ออกไปรับพี่สะใภ้กวนอูเข้ามา แล้วก็พาขึ้นไปบนตึก โฮหัวจึงเชิญให้กวนอูแลนางทั้งสองกินโต๊ะ กวนอูจึงว่าข้าพเจ้าจะนั่งเคียงพี่นั้นไม่ควร โฮหัวจึงให้ภรรยาเชิญนางทั้งสองเข้าไปที่ข้างใน แล้วให้แต่งโต๊ะเลี้ยง กวนอูนั้นนั่งกินโต๊ะอยู่กับโฮหัวภายนอก จึงถามโฮหัวว่า เหตุใดท่านจึงมาอยู่ที่นี่ โฮหัวจึงบอกว่า แต่ก่อนนั้นเราก็ได้เปนขุนนางอยู่ในเมืองหลวง ครั้นชราแล้วก็ลาออกจากราชการมาทำมาหากินอยู่ในตำบลบ้านนี้ แลบุตรเราชื่อโฮปั้นเปนทหารอองเซ็กเจ้าเมืองเอี๋ยงหยง ทางซึ่งท่านจะไปเมืองกิจิ๋ว เราจะฝากหนังสือท่านไปให้โฮปั้นด้วย กวนอูก็รับคำ ครั้นเวลารุ่งเช้าโฮหัวเลี้ยงดูกวนอูแล้วก็เอาหนังสือส่งให้ กวนอูรับเอาหนังสือแล้วคำนับลาพาพี่สะใภ้ทั้งสองนั้นขึ้นรถไปตามทางทิศเหนือ
ฝ่ายขงสิ้วเปนนายคุมทหารห้าร้อยอยู่รักษาด่านตังเหลงก๋วน ได้แต่งให้ทหารทั้งปวงออกเที่ยวตะเวนด่าน ม้าใช้จึงเอาเนื้อความมาบอกขงสิ้วว่า บัดนี้กวนอูพาครอบครัวเล่าปี่มาใกล้จะถึงด่านอยู่แล้ว ขงสิ้วรู้ดังนั้นก็พาทหารออกไปรับกวนอู ๆ ก็ลงจากม้าคำนับนายด่าน ขงสิ้วจึงถามว่า ท่านมานี่จะไปไหน กวนอูจึงบอกว่า เราลามหาอุปราชจะไปหาเล่าปี่ ณ เมืองกิจิ๋ว ขงสิ้วจึงตอบว่า อ้วนเสี้ยวเจ้าเมืองกิจิ๋วนั้นเปนศัตรูของมหาอุปราช แลท่านจะไปเมืองกิจิ๋ว ถ้ามีหนังสือมหาอุปราชเบิกด่านมาเราจึงจะให้ไป กวนอูจึงว่าเมื่อเราจะมานั้นเปนการด่วน หาได้หนังสือเบิกด่านมาไม่ ขงสิ้วจึงตอบว่า ท่านไม่มีหนังสือเบิกด่านมาจงอยู่ที่นี่ก่อน เราจะให้ทหารขึ้นไปแจ้งเนื้อความแก่มหาอุปราช ถ้ามีหนังสือเบิกด่านลงมาเราจึงจะให้ไป กวนอูจึงว่าเราจะไปการเร็ว ท่านจะให้คอยอยู่นั้นจะมิป่วยการช้าไปหรือ ขงสิ้วจึงตอบว่ากฎหมายสำหรับด่านดังนี้ ซึ่งเราจะปล่อยให้ท่านไปนั้นไม่ได้ กวนอูจึงว่า ซึ่งท่านว่าทั้งนี้ท่านจะขัดเราไว้หรือ ขงสิ้วจึงว่า ท่านจะไปการเร็วจงเอาครอบครัวนี้จำนำไว้ ตัวท่านจะไปก็ตามเถิด
กวนอูได้ฟังดังนั้นก็โกรธ ฉวยง้าวจะฟันขงสิ้วเสีย แล้วว่าถ้ามิให้เราไปเราจะหักไปให้ได้ ขงสิ้วหลบทันจึงพาทหารหนีเข้าไปในด่าน แล้วเกณฑ์ทหารทั้งปวงใส่เกราะถืออาวุธขี่ม้าออกมาเปนอันมาก ขงสิ้วร้องว่าแก่กวนอูว่า ตัวกล้าหาญจะบังอาจหักด่านไปก็ให้เร่งไป กวนอูได้ฟังดังนั้นก็โกรธ จึงให้ทหารชักรถพี่สะใภ้ถอยหลีกออกไปอยู่ริมทาง แล้วกวนอูก็ขับม้ารำง้าวเข้ารบด้วยขงสิ้วยกหนึ่ง กวนอูเอาง้าวฟันขงสิ้วตกม้าตาย ทหารทั้งปวงเห็นขงสิ้วตายก็ตกใจกลัว ต่างคนต่างก็แตกตื่นหนีไป กวนอูจึงร้องประกาศแก่ทหารทั้งปวงว่า อย่าตกใจเลย เราหาทำอันตรายแก่ท่านไม่ ซึ่งเราฆ่าขงสิ้วเสียนั้น เพราะขงสิ้วขัดเราไว้แล้วทำการหยาบช้าต่อเรา ท่านทั้งปวงเอาเนื้อความทั้งนี้แจ้งแก่มหาอุปราชแต่โดยจริง ทหารทั้งปวงได้ยินดังนั้นก็พากันเข้ามาคำนับกวนอู ๆ จึงให้ขับรถออกจากด่านตรงไปตามทางเมืองลกเอี๋ยง
ฝ่ายม้าใช้เห็นดังนั้น ก็เอาเนื้อความทั้งนี้รีบไปแจ้งแก่ฮันฮกเจ้าเมืองลกเอี๋ยง ฮันฮกได้ฟังดังนั้นจึงปรึกษาทหารทั้งปวงว่า กวนอูมิได้มีหนังสือมหาอุปราชเบิกด่านมา ครั้นขงสิ้วขัดไว้กวนอูก็ฆ่าเสีย ท่านทั้งปวงจะคิดประการใด เบงทันจึงว่า ซึ่งกวนอูมานี้ไม่มีหนังสือเบิกด่าน ข้าพเจ้าเห็นว่าจะหนีมหาอุปราชมา ครั้นจะปล่อยไปโทษก็จะมีอยู่แก่เรา
ฮันฮกจึงว่า อันกวนอูนั้นมีฝีมือกล้าหาญ งันเหลียงบุนทิวซึ่งเปนทหารอ้วนเสี้ยวลืออยู่ว่ามีฝีมือกล้าหาญนั้น กวนอูก็ฆ่าเสียได้ ครั้นเราจะรบพุ่งจับเอาตัวไว้บัดนี้ เห็นจะทานกำลังกวนอูไม่ได้ จำจะคิดเปนกลอุบายจึงจะจับกวนอูได้ เบงทันจึงว่าท่านคิดนี้ชอบอยู่ ข้าพเจ้าจะขออาสาคุมทหารไปรบด้วยกวนอูแล้วจะทำถอยหนี ฝ่ายท่านนั้นคุมทหารซุ่มอยู่ เห็นกวนอูไล่ข้าพเจ้ามา ท่านจงเอาเกาทัณฑ์ยิงให้ถูก ถ้ากวนอูตกม้าลงจึงให้ทหารเข้าจับตัวส่งขึ้นไปเมืองหลวง ความชอบก็จะมีแก่ท่าน ฮันฮกเห็นชอบด้วยจึงเกณฑ์ทหารเตรียมไว้
พอม้าใช้มาบอกฮันฮกว่า บัดนี้กวนอูมาจะใกล้ถึงเมืองลกเอี๋ยงอยู่แล้ว ฮันฮกก็ใส่เกราะถือเกาทัณฑ์ขับม้าพบเบงทันกับทหารพันหนึ่ง ยกออกไปถึงประตูเมือง พอแลเห็นกวนอูฮันฮกจึงคุมทหารห้าร้อยแอบซุ่มประตูอยู่ เบงทันก็ขับม้าพาทหารห้าร้อยออกไปทำเปนไม่รู้จัก จึงถามกวนอูว่า ท่านนี้ชื่อใดมานี่จะไปไหน กวนอูจึงบอกว่าเรานี้ชื่อกวนอู เปนขุนนางที่หั้นสือแต่งเฮา ซึ่งมานี้จะขอผ่านเมืองลกเอี๋ยงไปทางทิศเหนือ เบงทันจึงว่า ท่านเปนขุนนางมาแต่เมืองหลวง ซึ่งมีธุระจะไปทิศเหนือนั้น มีหนังสือมหาอุปราชมาหรือไม่ กวนอูจึงว่า เรามานี้เปนการด่วนหาได้หนังสือมาไม่ เบงทันจึงว่าอันเมืองลกเอี๋ยงเปนทางฝ่ายเหนือ มหาอุปราชใช้ฮันฮกมาอยู่รักษาเมือง แลตัวท่านเปนขุนนางมาทั้งนี้ไม่มีหนังสือเบิกด่านนั้น เราเห็นว่าท่านหนีมาเปนมั่นคง
กวนอูได้ฟังดังนั้นก็โกรธ จึงว่าขงสิ้วนายด่านตังเหลงก๋วนขัดไว้ดังนี้เราก็ฆ่าเสียแล้ว แลตัวมาขัดไว้บ้างตัวไม่รักชีวิตหรือ เบงทันได้ฟังดังนั้นก็โกรธ ชักม้ารำง้าวเข้ารบด้วยกวนอู ๆ จึงให้ทหารชักรถถอยหลีกออกไป แล้วขับม้าเข้ารบกับเบงทันได้สามเพลง เบงทันทำถอยหนี กวนอูขับม้าไล่ไปด้วยฝีเท้าอันเร็วใกล้จะถึงประตูเมือง กวนอูเอาง้าวฟันเบงทันตัวขาดออกเปนสองท่อน แล้วชักม้าจะกลับออกมาหาพี่สะใภ้ ฮันฮกแอบอยู่ในซุ้มประตู จึงขึ้นเกาทัณฑ์ยิงด้วยกำลังไปถูกไหล่ซ้ายกวนอู ๆ ตกใจเอามือชักลูกเกาทัณฑ์ทิ้งเสีย โลหิตไหลอาบตัว เจ็บปวดเปนสาหัส แล้วแลไปเห็นฮันฮกยืนม้าแอบประตูอยู่ กวนอูโกรธมิได้คิดแก่ความเจ็บ ก็ควบม้าตรงเข้าไปเอาง้าวฟันผ่าตัวฮันฮกออกเปนสองซีก แล้วก็ไล่ฆ่าทหารฮันฮกล้มตายเปนอันมาก กวนอูก็ควบม้ากลับมาหาพี่สะใภ้ ครั้นจะพักอยู่ที่เมืองลกเอี๋ยงนั้นก็ไม่ไว้ใจ จึงเอาแพรพันแผลเจ็บไว้ แล้วก็ขับม้าพาพี่สะใภ้ทั้งสองรีบไปทางด่านกิสุยก๋วน
ฝ่ายม้าใช้จึงเอาเนื้อความทั้งปวง ซึ่งกวนอูฆ่าเจ้าเมืองแลนายด่านเสียนั้น รีบไปบอกแก่เปี๋ยนฮีนายด่านกิสุยก๋วน เปี๋ยนฮีนั้นชำนาญทิ้งลูกขลุบ ครั้นรู้เนื้อความแล้วก็ตรึกตรองอยู่ว่า ทำไฉนเราจะจับกวนอูได้ จึงคิดขึ้นมาได้ว่า วัดตีนก๊กชือซึ่งอยู่หน้าด่านนั้นเปนที่ชอบกล เราจะแต่งทหารไปซุ่มไว้ประมาณสองร้อยเศษ จึงจะชวนกวนอูกินโต๊ะ แล้วจะทิ้งจอกสุราเปนสำคัญ ให้ทหารทั้งปวงรุมกันเข้าจับกวนอูเห็นจะได้โดยง่าย ครั้นเวลารุ่งเช้าเปี๋ยนฮีก็เอาทหารไปซุ่มไว้ในวัด จึงสั่งตามซึ่งคิดไว้นั้น แล้วเปี๋ยนฮีก็ออกไปรับกวนอู ๆ เห็นเปี๋ยนฮีนายด่านกับทหารทั้งปวงมิได้ถืออาวุธออกมารับโดยดีก็สิ้นความ สงสัย จึงลงจากม้าคำนับเปี๋ยนฮี ๆ จึงว่าข้าพเจ้าเปนนายด่านอยู่ที่นี่ บันดาคนทั้งปวงก็เลื่องลืออยู่ว่าท่านมีฝีมือกล้าหาญ ทั้งมีความสัตย์อยู่ด้วย บัดนี้ข้าพเจ้าแจ้งว่าท่านจะไปหาเล่าปี่ผู้พี่ ข้าพเจ้ามีความยินดีด้วย จึงพาไพร่ชาวด่านมารับท่าน
กวนอูได้ฟังดังนั้นจึงเอาเนื้อความซึ่งขงสิ้วเบงทันฮันฮกขัดขวางไว้เล่า ให้เปี๋ยนฮีฟังทุกประการ เปี๋ยนฮีจึงแกล้งว่า ซึ่งท่านฆ่าทั้งสามคนเสียนั้นก็ควรอยู่โดยโทษแล้ว ถ้าข้าพเจ้าไปถึงมหาอุปราชก็จะช่วยว่ากล่าวเบี่ยงบ่าย แล้วว่าเชิญท่านขึ้นม้าไปสู่ที่สำนักด่านข้าพเจ้าเถิด กวนอูมีความยินดีก็ขี่ม้าพาทหารชักรถตามเปี๋ยนฮีไปถึงหน้าวัด เปี๋ยนฮีจึงชวนกวนอูเข้าไปในวัดตีนก๊กชือ แลวัดนั้นเปนของพระเจ้าเบงเต้สร้างไว้แต่ก่อน เคยเสด็จมานมัสการพระเนืองๆ อยู่ หลวงจีนทั้งปวงเห็นกวนอูมาก็ตีกลองแลระฆังรับ แลหลวงจีนเภาเจ๋งเจ้าวัดเปนชาวบ้านเดียวกันกับกวนอูรู้จักกันมาแต่ก่อน รู้กิตติศัพท์ว่าเปี๋ยนฮีจะคิดร้ายกวนอู หลวงจีนเภาเจ๋งก็ออกมารับ หวังจะบอกเนื้อความให้กวนอูแจ้ง แล้วถามกวนอูว่าท่านจำเราได้หรือไม่ กวนอูก็บอกว่าเราจำไม่ได้ หลวงจีนเภาเจ๋งจึงถามว่าท่านมาจากบ้านได้สักกี่ปี กวนอูจึงบอกว่าข้าพเจ้ามาจากบ้านได้ยี่สิบปีแล้ว หลวงจีนเภาเจ๋งจึงว่าบ้านท่านกับบ้านเราอยู่ตรงฟากแม่น้ำกัน
เปี๋ยนฮีเห็นหลวงจีนเภาเจ๋งทักทายว่า เปนเพื่อนบ้านกับกวนอูมาแต่ก่อน เปี๋ยนฮีกลัวเนื้อความซึ่งคิดไว้นั้นจะฟุ้งเฟื่องไป จึงร้องตวาดหลวงจีนเภาเจ๋งว่า เราเชิญกวนอูมาอาศรัยกินโต๊ะในวัดนี้ เหตุใดจึงมาพูดจาเซ้าซี้อยู่ให้ช้า กวนอูจึงว่าหลวงจีนเภาเจ๋งนี้เปนเพื่อนบ้านกันมากับเราพลัดกันมาช้านานแล้ว ครั้นมาพบกันบัดนี้ก็จำทักทายกัน หลวงจีนเภาเจ๋งจึงจัดแจงที่ให้กวนอูนั่ง แล้วเอาเครื่องน้ำชามาจะให้กวนอูกิน กวนอูจึงว่าพี่สะใภ้ข้าพเจ้าทั้งสองอยู่บนรถหน้าวัดยังมิได้กิน ข้าพเจ้าจะกินก่อนกะไรได้ หลวงจีนเภาเจ๋งก็พากวนอูเอาน้ำชาออกไปให้พี่สะใภ้ทั้งสองกิน แลทางใกล้กัน ถ้าจะพูดจาประการใดกลัวเปี๋ยนฮีจะได้ยิน แล้วบ่าวไพร่เปี๋ยนฮีเดิรไปมาอยู่ หลวงจีนเภาเจ๋งจึงเอามือชี้เข้าที่กระบี่กวนอูเหน็บแล้วก็ถลึงตาให้ กวนอูก็รู้ว่าเปี๋ยนฮีจะทำร้าย จึงสั่งทหารให้ถืออาวุธตามเข้าไป หลวงจีนเภาเจ๋งกวนอูกลับเข้ามา เปี๋ยนฮีจึงว่าแก่กวนอูว่าข้าพเจ้าได้แต่งโต๊ะไว้เสร็จแล้ว เชิญท่านเข้าไปที่ข้างในเถิด
กวนอูได้ฟังดังนั้นมิได้คิดครั่นคร้าม ก็เข้าไปนั่งกับเปี๋ยนฮี แล้วเห็นพวกเพื่อนเปี๋ยนฮีซึ่งยืนอยู่นั้น เหน็บกระบี่ซ่อนไว้ในเสื้อ แต่ด้ามนั้นยื่นออกมา กวนอูจึงถามเปี๋ยนฮีว่า ซึ่งชวนเรามากินโต๊ะนี้ดีหรือร้าย เปี๋ยนฮีตกใจกลัวตัวสั่นมิได้ตอบประการใด กวนอูเห็นเปี๋ยนฮีพิรุธดังนั้นก็ร้องตวาดแล้วว่า กูคิดว่ามึงเปนคนดีกูจึงถือซื่อเข้ามาด้วย ควรหรือมึงคิดร้ายต่อกู เปี๋ยนอีเห็นกวนอูรู้เนื้อความแล้วก็เรียกทหารทั้งปวงว่า ชาวเราเร่งลงมือเถิด ทหารซึ่งยืนอยู่นั้นยังมิทันทำประการใด กวนอูก็ชักกระบี่ออกฟันตายหลายคน เปี๋ยนฮีเห็นดังนั้นก็ตกใจจึงวิ่งหนีเข้าไปในเก๋ง กวนอูก็ทิ้งกระบี่เสียแล้วฉวยเอาง้าวไล่ตามเข้าไป
เปี๋ยนฮีเห็นกวนอูไล่เข้ามาก็เอาลูกขลุบทิ้งเอา กวนอูก็เอาง้าวปัดลูกขลุบเสีย แล้วฟันถูกเปี๋ยนฮีตัวขาดออกเปนสองท่อน แล้วกลับมาดูพี่สะใภ้เห็นทหารเปี๋ยนฮีล้อมอยู่เปนอันมาก กวนอูก็ไล่ฆ่าฟันทหารทั้งนั้นแตกไปบ้างตายบ้าง แล้วกวนอูเข้าไปว่าแก่หลวงจีนเภาเจ๋งว่า ครั้งนี้ท่านหากบอกเหตุให้ หาไม่ข้าพเจ้าก็จะตาย หลวงจีนเภาเจ๋งจึงว่าตัวเราจะอยู่ในวัดนี้สืบไป พวกเพื่อนเปี๋ยนฮีก็จะทำร้ายแก่เรา ๆ จะไปอยู่วัดอื่นแล้ว ซึ่งท่านจะไปนั้นอุตส่าห์รักษาตัวจงดี ภายหน้าจะได้พบกันอีก กวนอูก็ลาหลวงจีนเภาเจ๋งพาพี่สะใภ้แลทหารไปทางเมืองเอี๋ยงหยง
ฝ่ายอองเซ็กเจ้าเมืองเอี๋ยงหยง ซึ่งเปนเกี่ยวดองกันกับฮันฮกนั้น ครั้นรู้ข่าวว่ากวนอูฆ่าฮันฮกกับนายด่านเสียนั้นจึงคิดแต่ในใจว่า กวนอูมีฝีมือกล้าหาญจะจับเอาตัวซึ่งหน้านั้นไม่ได้ จำจะทำกลอุบายให้กวนอูไว้ใจแล้วจึงจะจับฆ่าเสียได้โดยง่าย แล้วเกณฑ์ทหารให้ไปสกัดด่านแลทางไว้หลายตำบลอย่าให้กวนอูหนีออกไปได้ ครั้นอองเซ็กรู้ว่ากวนอูมาใกล้เมืองก็ขึ้นม้าพาทหารออกไปรับกวนอูโดยปรกติ แล้วถามว่าท่านมานี้จะไปแห่งใดกวนอูจึงบอกว่า เราลามหาอุปราชจะพาพี่สะใภ้ไปหาเล่าปี่ ณ เมืองกิจิ๋ว อองเซ็กจึงว่าท่านมาเปนทางกันดาร เวลาก็จวนค่ำแล้ว เชิญท่านกับพี่สะใภ้เข้าไปสำนักอยู่ในเมืองก่อน ต่อรุ่งเช้าจึงค่อยไป กวนอูได้ฟังคำอองเซ็กก็ไม่มีความสงสัย จึงว่าท่านเอนดูแล้วเราจะขออาศรัยสักคืนหนึ่ง อองเซ็กก็พากวนอูกับพี่สะใภ้เข้าไปในเมือง แล้วจัดแจงที่ให้อยู่ อองเซ็กก็กลับมาให้แต่งโต๊ะ แล้วให้คนใช้ไปเชิญกวนอูมากินโต๊ะ คนใช้ก็ไปบอกกวนอูตามคำอองเซ็กสั่ง กวนอูจึงคิดแต่ในใจว่า เปี๋ยนฮีหาไปกินโต๊ะก็คิดร้ายแก่เรา บัดนี้อองเซ็กให้หามากินโต๊ะ เกลือกจะทำกลอุบายเหมือนเปี๋ยนฮีดอกกระมัง กวนอูขุกได้คิดขึ้นในขณะนั้นก็สงสัยจึงว่าแก่คนใช้ว่า ซึ่งอองเซ็กให้หาไปกินโต๊ะนั้นเราขอบใจแล้ว แต่พี่สะใภ้เราเปนหญิงหาผู้ใดจะอยู่รักษาไม่ คนใช้ก็กลับไปบอกอองเซ็ก ๆ ก็ให้เอาโต๊ะไปให้กวนอูถึงที่อยู่ กวนอูจึงเอาโต๊ะนั้นให้พี่สะใภ้กินเสร็จแล้ว ครั้นเวลาค่ำกวนอูให้ทหารหยุดพักหลับนอน แล้วกวนอูถอดเกราะนั่งดูหนังสือรักษาพี่สะใภ้อยู่ห้องนอก
ฝ่ายอองเซ็กจึงสั่งโฮปั้นว่า บัดนี้กวนอูหนีมหาอุปราชมาฆ่าฮันฮกเจ้าเมืองแลนายด่านทั้งสองเสีย ครั้นเราจะจับตัวส่งขึ้นไป กวนอูก็มีฝีมือกล้าแข็ง ถึงจะจับตัวได้ทหารก็จะตายบ้าง จำเราจะคิดฆ่ากวนอูเสีย เวลาสามยามวันนี้ท่านจงคุมทหารพันหนึ่ง ให้ถือฟืนแลฟางคนละมัดไปล้อมที่อยู่กวนอูเข้า เอาเพลิงระดมจุดเผากวนอูแลพวกเพื่อนเสีย แล้วให้จุดประทัดสัญญาขึ้นเราจึงจะคุมทหารไปช่วย โฮปั้นจึงคุมทหารพันหนึ่งถือฟืนแลฟางไปวางไว้รอบที่อยู่กวนอู แต่ยังมิได้จุดเพลิง
โฮปั้นจึงคิดแต่ในใจว่า คนทั้งปวงลือชาปรากฎว่า กวนอูนี้มีฝีมือรบพุ่งกล้าหาญนัก เรายังไม่รู้จักตัว รูปร่างจะเปนประการใด จำจะไปดูให้รู้จักก่อน คิดแล้วโฮปั้นก็เข้าไปถามนายประตูว่ากวนอูอยู่แห่งใด นายประตูบอกว่ากวนอูนั่งดูหนังสืออยู่ห้องข้างนอก โฮปั้นจึงค่อยเดิรเข้าไปเยี่ยมดูเห็นกวนอูนั่งดูหนังสืออยู่บนเก้าอี้ มือหนึ่งลูบหนวดอยู่ โฮปั้นพิเคราะห์ดูเคลิ้มสติไปจึงร้องชมว่า รูปกวนอูนี้งามเหมือนเทพดา
กวนอูได้ยินดังนั้นก็ตกใจ จึงร้องถามว่าผู้ใดเข้ามา โฮปั้นจึงเข้าไปคุกเข่าลงคำนับแล้วบอกว่า ข้าพเจ้าชื่อโฮปั้นนายทหารของอองเซ็ก กวนอูได้ฟังดังนั้นจึงคิดขึ้นได้แล้วถามว่า ท่านนี้เปนบุตร์โฮหัวหรือ โฮปั้นก็รับคำ กวนอูจึงเอาหนังสือซึ่งโฮหัวฝากมานั้นให้แก่โฮปั้น ๆ รับเอาหนังสือมาอ่านดูเปนใจความว่า โฮหัวผู้เปนบิดาให้มาถึงโฮปั้นว่า กวนอูมีฝีมือกล้าหาญ ทั้งมีน้ำใจสัตย์ซื่อต่อแผ่นดิน ถ้ากวนอูมาถึงแห่งใดตำบลใด ถ้าโฮปั้นพบพานเข้าก็อย่าให้คิดทำร้าย จงทำนุบำรุงกวนอูให้ไปโดยสดวก ภายหน้าจะได้เปนที่พึ่งสืบไป โฮปั้นแจ้งในหนังสือแล้วก็ตกใจ จึงค่อยว่ากับกวนอูว่า ข้าพเจ้าไม่รู้เลยว่าท่านเปนคนดี หาไม่ชีวิตท่านจะตายอยู่ที่นี่ แล้วบอกเนื้อความทั้งปวงซึ่งอองเซ็กให้คุมทหารมาจะจุดเพลิงเผาท่านเสีย บัดนี้ท่านจงเตรียมตัวเถิด ข้าพเจ้าจะไปคิดอ่านห้ามทหารทั้งปวงแล้วจึงจะไปเปิดประตูเมืองไว้ให้ท่าน จะได้ออกไปให้พ้นโดยเร็ว แล้วก็ลาออกไปเปิดประตูเมืองไว้
กวนอูได้ฟังโฮปั้นว่าดังนั้นก็ตกใจทั้งมีความยินดี จึงใส่เกราะถือง้าวแล้วเชิญพี่สะใภ้ขึ้นรถให้ทหารคุมไปหน้า กวนอูขี่ม้าป้องกันไปข้างหลัง ครั้นเห็นประตูเมืองเปิดอยู่ จึงให้ทหารขับรถออกจากประตูเมือง โฮปั้นเห็นกวนอูออกไปแล้ว ก็รีบกลับมาให้ทหารทั้งปวงจุดเพลิงระดมขึ้น กวนอูไปทางประมาณสามสิบเส้น แลเข้าไปในเมืองเห็นเพลิงสว่างขึ้นก็เข้าใจว่าโฮปั้นแสร้งทำกลบความ ฝ่ายอองเซ็กได้ยินเสียงประทัดแลเห็นแสงเพลิง จึงคุมทหารรีบมาถึงที่อยู่กวนอู ทหารทั้งปวงร้องบอกว่ากวนอูหนีเพลิงออกไปได้ อองเซ็กได้ฟังดังนั้นก็ขับม้าพาทหารรีบตามไปถึงนอกเมืองแล้วร้องว่า กวนอูมีฝีมือเหตุใดจึงหนีไปเล่า กวนอูจึงร้องตอบว่ากูมิได้ทำผิดสิ่งใดกับมึง เหตุใดมึงมาคิดร้ายกู อองเซ็กโกรธมิได้ตอบประการใด ก็ขับม้ารำทวนตามรบกับกวนอู ๆ ขับม้าเข้ารบเอาง้าวปัดทวนเสีย แล้วฟันถูกอองเซ็กตัวขาดออกเปนสองท่อน ทหารทั้งปวงก็แตกตื่นหนีไป กวนอูจึงขับม้าตามพี่สะใภ้ไป แล้วคิดถึงคุณโฮปั้นมิได้ขาด
ฝ่ายเล่าเอี๋ยนเจ้าเมืองตองกุ๋น รู้ข่าวว่ากวนอูหนีมหาอุปราชหักด่านมา ฆ่าเจ้าเมืองแลนายด่านเสียเปนหลายตำบล จึงคุมทหารออกมาประมาณสามสิบสกัดปากทางไว้ กวนอูเห็นเล่าเอี๋ยนจึงถามว่า ทุกวันนี้ท่านรักษาเมืองมีความสุขอยู่หรือ เล่าเปี๋ยนบอกว่าเปนสุขอยู่ ซึ่งท่านมานี้จะไปแห่งใด กวนอูบอกว่าเราลามหาอุปราชจะไปหาเล่าปี่ผู้พี่เรา เล่าเอี๋ยนจึงตอบว่า เล่าปี่ไปอาศรัยอยู่กับอ้วนเสี้ยว บัดนี้อ้วนเสี้ยวกับมหาอุปราชก็ทำศึกขับเคี่ยวกันอยู่ เห็นมหาอุปราชจะไม่ยอมให้ท่านไป ถึงท่านหนีมาบัดนี้ก็เห็นจะไม่พ้น ด้วยแฮหัวตุ้นกับจินกี๋ตั้งทัพอยู่ตำบลฝั่งแม่น้ำฮองโห
กวนอูจึงตอบว่า เดิมมหาอุปราชให้สัญญาเราไว้ บัดนี้เรารู้ข่าวพี่เราแล้วเราก็จะไปตามสัญญา ท่านจงเอ็นดูจัดเรือข้ามส่งเราข้างท่าเหนือหรือท่าใต้แต่พอให้พ้นกองทัพแฮ หัวตุ้น เล่าเอี๋ยนจึงว่าเรือเราก็มีอยู่ แต่ซึ่งจะข้ามส่งนั้นโทษจะมีแก่เรา กวนอูจึงตอบว่า เมืองซึ่งท่านรักษาอยู่ก็เปนเมืองหน้าด่าน ตัวเราก็ได้อาสาฆ่างันเหลียงบุนทิวซึ่งเปนทหารอ้วนเสี้ยวเสีย ท่านจึงค่อยมีความสบาย แล้วมิได้คิดถึงคุณเรา แต่จะข้ามส่งเพียงนี้ก็ไม่ได้ แล้วกวนอูมิได้คิดย่อท้อ จึงให้ทหารขับรถผ่านไปถึงเมืองฮองโห
ฝ่ายจินกี๋ซึ่งแฮหัวตุ้นให้คุมทหารมาตั้งค่ายอยู่ตำบลหนึ่ง ครั้นรู้ข่าวว่ากวนอูพาพี่สะใภ้มา ก็ขึ้นม้าคุมทหารออกไปจากค่ายแล้วแกล้งร้องถามว่า ผู้ใดผ่านหน้าทัพเรามานั้นจะไปแห่งใด กวนอูร้องบอกว่าเราชื่อกวนอู จะขอข้ามฟากไปหาเล่าปี่ผู้พี่เรา ณ เมืองฝ่ายเหนือ จินกี๋จึงถามว่ามีหนังสือมหาอุปราชเบิกด่านมาหรือไม่ กวนอูบอกว่าเรามิได้เปนข้ากินเบี้ยหวัดของมหาอุปราช เราจะขอหนังสือโจโฉมาใย จินกี๋จึงว่าเราเปนทหารรอง แฮหัวตุ้นแม่ทัพให้เรามาอยู่รักษามิให้ผู้ใดลอบไปมาได้ ซึ่งไม่มีหนังสือเบิกด่านมานั้นอย่าว่าแต่มนุษย์เดิรดินเหมือนท่านเลย ถึงมาทว่าจะเปนนกมีปีกบินในอากาศก็เห็นจะไม่พ้นมือเรา กวนอูได้ฟังดังนั้นก็โกรธจึงว่า ซึ่งเรามานี้ตัวไม่ได้ยินข่าวเลื่องลือบ้างหรือ ถ้าผู้ใดขัดขวางไว้เราก็ฆ่าเสียเปนหลายคน จินกี๋จึงว่าคนที่ตัวฆ่าเสียได้นั้นเปนแต่ทหารหามีฝีมือไม่ อันคนเหมือนตัวเราฉนี้ก็มีฝีมือปรากฎเห็นจะทำเราเช่นนั้นไม่ได้ กวนอูจึงว่าซึ่งตัวอวดว่ากล้าหาญนั้นยังจะเปรียบฝีมืองันเหลียงบุนทิวได้ หรือ จินกี๋ได้ฟังดังนั้นก็โกรธ จึงขับม้ารำง้าวเข้ารบกับกวนอูได้เพลงหนึ่ง กวนอูเอาง้าวฟันถูกจินกี๋ฅอขาดตกม้าตาย ทหารทั้งปวงก็แตกไป กวนอูจึงร้องห้ามทหารซึ่งหนีนั้นว่า ท่านทั้งปวงมิได้ทำผิดอย่าหนีเราเลย เราหาทำอันตรายไม่ จงช่วยหาเรือข้ามส่งเราเถิด ทหารทั้งปวงได้ฟังกวนอูร้องว่าดังนั้น ก็ชวนกันจัดแจงเรือข้ามส่งให้ถึงฟาก
ขณะเมื่อกวนอูพาพี่สะใภ้มาถึงฟากนั้นเปนแดนเมืองอ้วนเสี้ยว กวนอูขี่ม้าตามรถไปมีวิตกทอดใจใหญ่ คิดว่าเรามาครั้งนี้หักด่านเปนหลายตำบล แล้วฆ่านายทหารโจโฉเสียถึงหกคนเพราะความจำเปน ถ้าโจโฉไม่พิจารณาให้ถ่องแท้ ก็จะเห็นว่าเปนคนหยาบช้าหามีกตัญญูไม่ พอเห็นซุนเขียนขี่ม้ามา กวนอูมีความยินดีจึงถามว่า เมื่อท่านพบกับเรา ณ เมืองยีหลำนั้น ท่านว่าจะไปสืบเนื้อความมาให้เรา บัดนี้ท่านรู้ข่าวประการใดบ้าง ซุนเขียนจึงบอกว่า เมื่อท่านยกทัพกลับไปนั้น เล่าเพ็กก๋งเต๋ารื้อยกคืนมาตีเอาเมืองยีหลำได้ จึงให้ข้าพเจ้าถือหนังสือไปถึงอ้วนเสี้ยวว่า จะขอเข้าเกลี้ยกล่อมทำราชการด้วย อ้วนเสี้ยวก็ยอม แล้วคิดปรึกษากับทหารทั้งปวงจะยกมาตีเอาเมืองฮูโต๋ แลที่ปรึกษาทั้งปวงแก่งแย่งมิตกลงกัน ข้าพเจ้าคิดอ่านกับเล่าปี่ให้ลาอ้วนเสี้ยวมาอยู่เมืองยีหลำ จะได้คิดการกำจัดโจโฉเสีย อ้วนเสี้ยวก็ยอมให้เล่าปี่มา บัดนี้เล่าปี่เกรงอยู่ว่าท่านจะตรงไปเมืองอ้วนเสี้ยว จึงให้ข้าพเจ้ามาสกัดอยู่ต้นทางคอยแจ้งเหตุว่าเล่าปี่มาอยู่เมืองยีหลำแล้ว
กวนอูได้ฟังดังนั้นก็มีความยินดี จึงพาซุนเขียนมายังรถพี่สะใภ้ ซุนเขียนจึงเล่าเนื้อความซึ่งเล่าปี่ไปอาศรัยอยู่กับอ้วนเสี้ยว แล้วอ้วนเสี้ยวโกรธว่ากวนอูฆ่างันเหลียงกับบุนทิวทหารเอกตายเสียนั้น แล้วจะให้ฆ่าเล่าปี่เสียถึงสองครั้ง เล่าปี่คิดอ่านว่ากล่าวแก้ไขได้จึงไม่ได้เปนอันตรายจนถึงได้มาอยู่เมืองยี หลำ นางทั้งสองกับกวนอูได้ฟังดังนั้นก็มีความสงสารร้องไห้รักเล่าปี่ แล้วกวนอูให้ซุนเขียนนำทางไปเมืองยีหลำ ขณะเมื่อเดิรทางมานั้น พอได้ยินเสียงทหารข้างหลังนั้นอื้ออึงมา กวนอูเหลียวไปเห็นแฮหัวตุ้นคุมทหารข้ามแม่น้ำตามมาเปนอันมาก ฝ่ายแฮหัวตุ้นขับม้าขึ้นไปหน้าทหาร แล้วร้องว่าอ้ายกวนอูหยุดอยู่ก่อน กวนอูได้ยินดังนั้นจึงว่าแก่ซุนเขียนให้คุมรถไปก่อนเถิด เราจะอยู่ป้องกันภายหลัง แล้วกวนอูก็ชักม้ากลับหน้ามายืนอยู่ ครั้นเห็นแฮหัวตุ้นเข้ามาใกล้ กวนอูจึงร้องถามว่า ซึ่งท่านคุมทหารมานี้เราเห็นจะล่วงคำมหาอุปราช แฮหัวตุ้นจึงตอบว่า ตัวมิได้มีหนังสือมหาอุปราชเบิกด่านมา แลตัวองอาจหักหาญล่วงด่านผ่านเมืองมาเปนหลายตำบล ฆ่าเจ้าเมืองแลนายด่านเสีย แล้วมิหนำซ้ำฆ่าทหารรองของเราซึ่งมาตั้งค่ายขัดทัพอยู่นี้เสียอีกเล่า เราจะจับตัวส่งเข้าไปให้มหาอุปราชทำโทษจงสาหัส แล้วก็ขับม้ารำทวนเข้าไปจะจับตัวกวนอู พอม้าใช้ควบม้าร้องห้ามแฮหัวตุ้นมาว่า อย่าให้ทำอันตรายแก่กวนอูเลย จึงเอาหนังสือนั้นส่งให้แฮหัวตุ้นแล้วว่ามหาอุปราชมีใจเมตตา ว่ากวนอูนี้เปนคนมีความสัตย์ บัดนี้จะไปหาเล่าปี่ กลัวว่าเจ้าเมืองแลนายด่านทั้งปวงจะขัดไว้ จึงให้ข้าพเจ้าถือหนังสือเบิกด่านมาให้ท่านทั้งปวงแจ้ง
แฮหัวตุ้นจึงถามม้าใช้ว่า กวนอูบังอาจหักหาญฆ่าเจ้าเมืองแลนายด่านเสียเปนหลายตำบลนั้นมหาอุปราชแจ้ง หรือไม่ ม้าใช้จึงบอกว่า กวนอูทำทั้งนี้มหาอุปราชยังไม่แจ้ง แฮหัวตุ้นจึงว่ากวนอูทำผิดมากอยู่มหาอุปราชยังไม่แจ้ง เราจะจับตัวส่งเข้าไปให้จงได้ กวนอูได้ฟังดังนั้นก็โกรธจึงว่าแก่แฮหัวตุ้นว่า เหตุใดตัวจึงมาเจรจาฉนี้ คิดว่าเรากลัวอยู่หรือ แล้วกวนอูก็ขับม้าเข้ารบด้วยแฮหัวตุ้นได้สิบเพลง พอเห็นม้าใช้คนหนึ่งถือธงสำหรับทัพโจโฉโบกห้ามมา แล้วร้องว่าท่านทั้งสองอย่าเพ่อรบกันก่อน แฮหัวตุ้นก็หยุดอยู่แล้วถามม้าใช้ว่า มีหนังสือมหาอุปราชมาให้เราจับกวนอูส่งขึ้นไปหรือ ม้าใช้จึงบอกว่าหามิได้ มหาอุปราชเกรงว่าด่านทางจะกักขังกวนอูไว้ จึงให้ข้าพเจ้าเอาธงสำหรับทัพมาห้ามเปนสำคัญ แฮหัวตุ้นจึงถามม้าใช้ว่า มหาอุปราชแจ้งหรือไม่เมื่อกวนอูมากลางทางฆ่าผู้คนเสียเปนอันมาก ม้าใช้จึงบอกว่ามหาอุปราชไม่แจ้ง แฮหัวตุ้นจึงว่ากวนอูทำล่วงอาญา มหาอุปราชก็ยังไม่แจ้งโทษ จะปล่อยให้ไปนั้นยังไม่ได้ แล้วก็สั่งทหารทั้งปวงให้ล้อมกวนอู ๆ เห็นดังนั้นก็โกรธ จึงขับม้ารำง้าวเข้าสู้กันอยู่กับแฮหัวตุ้น พอเห็นเตียวเลี้ยวควบม้าร้องห้ามมาว่า ท่านทั้งสองอย่ารบพุ่งกัน แฮหัวตุ้นกับกวนอูก็หยุดอยู่ เตียวเลี้ยวจึงว่าแก่แฮหัวตุ้นว่า มหาอุปราชแจ้งอยู่ว่ากวนอูหักด่านออกมา แล้วฆ่าเจ้าเมืองแลนายด่านเสียนั้น มหาอุปราชคิดเกรงอยู่ว่าทหารทั้งปวงจะมีใจผูกแค้น จะช่วยกันมารบพุ่งมิให้กวนอูไปโดยสดวก จึงให้เรารีบมาห้าม แฮหัวตุ้นจึงว่าแก่เตียวเลี้ยวว่า จินกี๋นั้นเปนหลานซัวหยง ๆ ให้มาอยู่ทำราชการด้วยเรา บัดนี้กวนอูฆ่าจินกี๋เสีย ซัวหยงรู้ก็จะติโทษเราได้ เตียวเลี้ยวจึงตอบว่า เนื้อความข้อนี้ท่านอย่าวิตกเลย ไว้เราจะไปว่ากล่าวแก่ซัวหยงเอง แต่ซึ่งกวนอูนั้นมหาอุปราชมีความเมตตาเปนอันมาก จงปล่อยกวนอูให้ไปหาเล่าปี่ตามสัญญา ซึ่งท่านจะไม่ให้กวนอูไปนั้นเห็นจะล่วงคำมหาอุปราช แฮหัวตุ้นได้ฟังดังนั้นก็พาทหารซึ่งล้อมไว้นั้นถอยกลับมา
แลเนื้อความทั้งนี้เปนคำกลางว่า เมื่อกวนอูไปนั้นโจโฉก็คิดว่ากวนอูจะไปไม่ตลอด เพราะมีด่านทางอยู่เปนหลายชั้น ครั้นกวนอูฆ่าขงสิ้วนายด่านชั้นในเสียนั้น ม้าใช้ก็เอาเนื้อความมาแจ้งแก่โจโฉว่า กวนอูฆ่าเจ้าเมืองแลนายด่านเปนลำดับกันออกไป โจโฉคิดจะให้ยกกองทัพไปตามจับกวนอู ก็เกรงคนทั้งปวงจะครหานินทาว่าเจรจาเปนคำสอง ประการหนึ่งเจ้าเมืองแลนายด่านก็ตายเสียแล้ว แม้จะยกไปตามจับกวนอูมาได้ ใช่ทหารทั้งปวงจะเปนคืนมาก็หามิได้ บัดนี้กวนอูก็ล่วงออกไปพ้นแดนเมืองฮูโต๋แล้ว จำจะทำคุณไว้ให้ตลอดดีกว่า ภายหน้าไปกวนอูจะคิดถึงคุณ จึงแกล้งให้ม้าใช้ถือหนังสือแลธงกับเตียวเลี้ยวไปห้าม จะให้เห็นว่าน้ำใจโจโฉรักกวนอูอยู่เปนอันมาก ถึงทำผิดสิ่งใดก็มิได้เอาโทษ
เตียวเลี้ยวจึงถามกวนอูว่า ซึ่งท่านมานี้จะไปหาเล่าปี่แห่งใด กวนอูจึงบอกว่า เดิมเรารู้ว่าพี่เราอยู่กับอ้วนเสี้ยวเราจึงจะไปหา บัดนี้มีผู้มาบอกว่าพี่เราออกจากอ้วนเสี้ยวแล้ว เราจะเที่ยวสืบเสาะไปหากว่าจะพบ เตียวเลี้ยวจึงว่า เมื่อยังไม่รู้แน่ว่าเล่าปี่อยู่แห่งใดท่านจงกลับไปอยู่กับมหาอุปราชก่อน ถ้ารู้ข่าวว่าเล่าปี่อยู่แห่งใดมั่นคงจึงค่อยไป กวนอูได้ฟังดังนั้นก็หัวเราะ แล้วว่าท่านว่านี้ไม่ควร ซึ่งตัวท่านจะกลับเข้าไป จงช่วยว่ากล่าวแก่มหาอุปราชว่า อย่าขัดเคืองเราเลย ได้มีคุณแล้วจงทำให้ตลอดไปเถิด ภายหน้าเราจะแทนคุณมหาอุปราช เตียวเลี้ยวก็ลากวนอูกลับไป
กรุณาแสดงความคิดเห็น