"เล่าปี่ ผู้พนมมือสิบทิศ" บทความเตือนใจ "นายทหารผู้ใหญ่" ให้วางตัว วางใจ ใช้ศาสตร์จากเรื่องสามก๊กเป็นอุทาหรณ์สอนใจ ในวังวนการเมือง
เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ และหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ประจำวันที่ 25 มกราคม 2559 ในคอลัมน์ชักธงรบ ของคุณ "กิเลน ประลองเชิง" ได้ลงบทความน่าสนใจเกี่ยวกับสามก๊กและการเมือง ชื่อว่า "เล่าปี่ ผู้พนมมือสิบทิศ" ซึ่งเป็นบทความที่เตือนใจ "นายทหารผู้ใหญ่" ให้วางตัว วางใจ ใช้ศาสตร์จากเรื่องสามก๊กเป็นอุทาหรณ์สอนใจ ในวังวนการเมือง"หนึ่งในวิชากระบี่ไร้เทียมทาน ของจอมยุทธ์ในนิยายกำลังภายใน... ก็มีวิชา เล่าปี่
วิชาพนมมือให้คนทั้งสิบทิศ..."
สามก๊กวิทยา เห็นว่าเป็นบทความดี แม้ไม่อ่านเอาเชิงชั้นการเมือง แต่ก็มีประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตประจำวัน จึงขอบันทึกไว้และแบ่งปันให้ทราบโดยทั่วกัน
เล่าปี่ ผู้พนมมือสิบทิศ
โดย กิเลน ประลองเชิง 25 ม.ค. 2559ว่ากันถึงสามก๊กตอนเล่าปี่แวะเวียนไปหาขงเบ้ง...ที่กระท่อมหญ้า บนเขามังกรหลับ...ถึงสามครั้ง...ไม่ว่าใคร คนเป็นผู้นำไปถึงคนรากหญ้า หรือคนระดับไหน ก็คงเคยอ่านกันทั้งนั้น
แต่สามก๊กตอนนี้ อาจเป็นเรื่องแบบหญ้าปากคอก...ขุนทหารหลายท่านนอกจากไม่เข้าใจ ยังทำท่าจะหลงลืม
ในหนังสือชื่อกลยุทธ์สามก๊ก คัมภีร์บริหารในภาวะสงคราม (ทองแถม นาถจำนง แปล สำนักพิมพ์ดอกหญ้า พ.ศ.2531) ตอน การควบคุมตนเอง...ข้อดีเด่นของขงเบ้ง ศาสตราจารย์เซี่ยซูจังเขียนไว้ว่า
ก่อนที่ซีซี หนึ่งในปราชญ์คนสำคัญ ถูกโจโฉใช้อุบายดึงเอาตัวไปใช้ จะเอ่ยคำอำลาเล่าปี่...ได้บอกเล่าปี่ว่า
“คนผู้หนึ่งอยู่นอกเมืองซงหยง มีปัญญาความคิดหลักแหลม ขอให้ท่านไปเชิญตัวมา จะได้ช่วยคิดอ่านทำการสืบไป”
คนผู้นั้นคือขงเบ้ง...เล่าปี่ขอร้องให้ซีซีช่วยพามาพบ แต่ซีซีแนะนำ สามก๊กฉบับเจ้าพระยาพระคลังเขียนว่า
ซึ่งท่านจะให้ไปพานั้นก็จะได้อยู่ แต่ทว่าที่จะไปเร้ารุมนั้นมิได้ ตัวท่านไปคำนับโดยสุจริตจึงจะควร
เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นการทดสอบเล่าปี่ จะแสวงหาปราชญ์ด้วยน้ำใสใจจริงหรือเปล่า และเล่าปี่จะสามารถควบคุมตนเอง ละความเจ้ายศเจ้าอย่าง ตามวิสัยชนชั้นเจ้านายได้สักแค่ไหน
เล่าปี่เดินทางไปหาขงเบ้งครั้งที่หนึ่ง ยังไม่พบ
พอเตรียมตัวจะไปหาครั้งที่สอง เตียวหุยน้องร่วมสาบานก็บ่น “จะนับถืออะไรนักหนากับคนบ้านนอก” แล้วอาสา “ข้าพเจ้าจะให้แต่ทหารไปเอาตัวมา ก็จะได้”
เล่าปี่โกรธกล่าวว่า “เม่งจื๊อกล่าวไว้ว่า หากปรารถนาจะพบผู้ปรีชา แต่ไม่ไปตามมรรคาของปราชญ์ จะปิดประตูรอให้ปราชญ์มาถึงบ้าน นั้นอย่าพึง...เตียวหุยท่านไม่รู้หรือ ขงเบ้งเป็นผู้ปรีชายอดเยี่ยมแห่งยุคจะให้ทหารไปตามมาได้อย่างไร”
เตียวหุยไม่ฟัง...พูดจาก่อกวนอย่างไร เล่าปี่ก็ยังปักใจออกไปหาขงเบ้งเป็นครั้งที่สอง แต่ก็ยังไม่ได้พบอีก
ก่อนไปครั้งที่สาม เล่าปี่ลงทุนถึงขนาดกินเจสามวัน แล้วจึงอาบน้ำผลัดผ้าใหม่ คราวนี้ไม่เพียงเตียวหุยจะไม่พอใจมาก กวนอู น้องร่วมสาบานอีกคน ก็ไม่พอใจด้วย
“ท่านน้อมตัวไปขอพบถึงสองครั้ง ก็ให้เกียรติมากเกินไปแล้ว” กวนอูว่า “แลขงเบ้งนั้น ถ้ามีปัญญาจริงเหมือนเขาเล่าลือ ก็จะหลบเสียไย ดีร้ายจะให้พบสักครั้งหนึ่ง”
นี่ชะรอยเขาเล่าลือเปล่าๆ จะเชื่อถือว่าจริงจังดังนั้น ก็ดูมิสมควร
เมื่อเห็นกวนอูยังทนไม่ได้ เตียวหุยก็เสนอตัวอีกครั้ง “ถ้าขงเบ้งไม่ยอมมา ข้าพเจ้าจะเอาเชือกผูกจูงมาให้ได้”
ผลก็คือเล่าปี่ยังมั่นคงเหมือนเดิม ด่าทั้งกวนอู เตียวหุย แล้วก็ไปเป็นครั้งที่สาม ครั้งนี้ขงเบ้งแกล้งทำหลับยาว เล่าปี่ก็ยังอดทนนั่งเฝ้ารอ
เตียวหุยเป็นเดือดเป็นแค้น “ดูดู๋ ขงเบ้งผู้นี้หยิ่งทะนงนัก เดี๋ยวเราจะจุดไฟขึ้นหลังบ้าน ดูทีรึว่า จะตื่นฤาไม่”
กวนอูใจเย็น ห้ามไว้ได้
ในที่สุด ความอดทนของเล่าปี่ ผู้ได้ฉายาในเวลาต่อมา ผู้พนมมือทั้งสิบทิศ ก็ได้ผล ขงเบ้งยอมตัวเป็นขุนพลให้ วางแผนการเมืองแยบยล
ว่ากันด้วยฝีมือ บารมีเล่าปี่มีน้อยกว่าสองก๊กคู่แข่ง...แต่ยกระดับตัวเองขึ้นเป็นอ๋องหนึ่ง ในสามอ๋อง สมัยสามก๊ก ไม่ค่อยเผลอ-พลาด เอาคนไม่ดี เป็นพวกแล้ว ยังอ่านคนดี...ขาด...มีกวนอู เตียวหุย เป็นมือขวามือซ้าย
ยังได้ขงเบ้งเป็นมันสมองชั้นเลิศ
หนึ่งในวิชากระบี่ไร้เทียมทานของจอมยุทธ์ในนิยายกำลังภายใน...ก็มีวิชา เล่าปี่ วิชาพนมมือให้คนทั้งสิบทิศ...รู้จักเวลาพนมมือคารวะ...หรือจะพนมมือเพื่องอน ง้อ ขอโทษ เปลี่ยนศัตรูเป็นมิตรได้ ผลที่ได้มักเป็นชัยชนะ
ตอนท้ายในสามก๊ก เล่าปี่แม้รบแพ้แต่ก็ตายดี...ครับ กวนอูหยิ่งในศักดิ์ศรี ใจร้อน...ไม่ยอมรับไมตรีซุนกวน รบแพ้ก็ถูกฆ่า เตียวหุยนั้น อาการหนักกว่า ตายด้วยน้ำมือลูกน้อง
แบบอย่างขุนทหารในสามก๊กมีหลายแบบ ก็เลือกเอาเถิด จะเลือกแบบไหน กองเชียร์อย่างผม เห็นทหารมีฝีมือดีใจซื่อ ก็อยากลุ้นให้ตายดีทุกคน.
กิเลน ประลองเชิง
เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง
กรุณาแสดงความคิดเห็น