มาตรวัดความฉลาด : กิเลน ประลองเชิง

เรื่องของ "ไหมเหลือง เยาวนารี หลานนอกสกุล ครกศิลา" "ซี่โครงไก่" และ "ความฉลาดล้ำหน้านาย" อันเป็นปริศนา

สามก๊กฉบับวณิพก ของยาขอบเคยเล่าเรื่องสามก๊กตอนหนึ่ง ซึ่งไม่มีในสามก๊กฉบับเจ้าพระยาพระคลัง(หน) นั่นคือตอน "ไหมเหลือง-เมียสาว" อันพรรณาถึงความฉลาดหลักแหลมของกุนซือเจ้าปัญญาของโจโฉ นามว่า "เอียวสิ้ว"

ชื่อตอน ๆ นี้นำมาจากปริศนาบนแผ่นศิลาจารึก ที่ซัวหยงนำมาบูชาไว้เพราะเป็นเครื่องหมายแห่งความกตัญญู แล้วให้ช่างสลักคำว่า "ไหมเหลือง เมียสาว เยาวธิดา สาก และครกตำยา" คำปริศนาที่ท้าทายให้ผู้มีปัญญามาขานไข

เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.57 ที่ผ่านมา ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และในเว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ คอลัมน์ "ชักธงรบ" ของคุณ "กิเลน ประลองเชิง" ก็ได้นำเรื่องนี้มาเล่าให้ฟังกันอีกครั้ง แต่ยกเอาผลงานของ อาจารย์ "ถาวร สิกขโกศล" ที่เล่าไว้ในหนังสือ "ยั่วยิ้มปัญญาจีน" มาเทียบเคียง ว่า "ไหมเหลือง เยาวนารี หลานนอกสกุล ครกศิลา"

ปริศนานี้เป็นปริศนาเดียวกัน เพียงแต่แปลด้วยสำนวนต่างกัน แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้น คือความหมายที่ซุกซ่อนอยู่ในคอลัมน์บทความนี้

กิเลน ประลองเชิง ต้องการจะสื่อความหมายในเชิงการเมือง ตามบริบทอันเป็นเอกลักษณ์ของคอลัมน์ชักธงรบ แต่จะหมายถึงใครและเหตุการณ์ใด ในระบอบการเมืองไทย

ขอเชิญท่านผู้อ่านคิดวิเคราะห์ แลคาดเดากันตามควร

มาตรวัดความฉลาด : ชักธงรบ

โดย กิเลน ประลองเชิง 17 ธ.ค. 2557 05:01

     สมัยสามก๊ก ขงเบ้งถูกเรียกผู้หยั่งรู้ดินฟ้า แต่ก็รบชนะโจโฉไม่ได้...โจโฉได้ชื่อว่าเป็นยอดคนฉลาด แต่ลุ่มลึกขนาดไหนไม่มีใครเคยหยั่งได้ แต่ครั้งหนึ่ง โจโฉเคยหลุดปากยอมรับ ฉลาดน้อยกว่าลูกน้อง

     อาจารย์ถาวร สิกขโกศล เล่าไว้ในหนังสือยั่วยิ้มปัญญาจีนว่า...

     ครั้งหนึ่ง โจโฉเจอภาพศิลาจารึกโจหงอ ครั้งแผ่นดินพระเจ้าโฮเต้มี ถ้อยคำปริศนา 8 คำ ไหมเหลือง เยาวนารี หลานนอกสกุล ครกศิลา...

     พยายามตีความ แต่ยังไม่เข้าใจ

     คำจารึกนี้...มีเรื่องเล่ามาจากเมืองเซียงหงอ มีคนทรงเจ้าชื่อโจก่าน วันห้าค่ำเดือน 5 เมาฟ้อนฟรีอยู่ในเรือ แล้วตกน้ำตายโจหงอบุตรสาววัย 14 ปี เลียบตลิ่งร้องไห้คร่ำครวญเจ็ดวันเจ็ดคืน ไม่พบศพพ่อ ก็กระโดดน้ำตาย

     อีกห้าวันต่อมา ศพโจหงอแบกศพบิดาลอยขึ้นมา ชาวเมืองช่วยกันเอาไปฝังริมแม่น้ำ

     ความทราบถึงพระเจ้าโฮเต้ โปรดให้ประกาศยกย่องโจหงอเป็นธิดากตัญญู เจ้าเมืองเซียงหงอตามหานตานฉุน ผู้เยาว์อายุเพียง13ปี (ต่อมาเป็นราชบัณฑิต) จารึกเรื่องราวไว้บนแผ่นศิลา

     ซัวหยง เพื่อนเก่าโจโฉทราบเรื่อง ไปดูจารึกตอนพลบค่ำ ใช้วิธีคลำอ่าน แล้วเขียนอักษร 8 ตัว ไว้หลังแผ่นศิลา...อักษร 8 ตัวนี้โจโฉอ่านแล้วถามเอี้ยวสิ้ว ลูกน้องว่า เข้าใจหรือไม่

     เอี้ยวสิ้วตอบว่า เข้าใจ แต่โจโฉขอร้องไม่ให้บอก ออกเดินทางต่อไปอีก 3 ลี้ ก็คิดได้ แล้วจึงให้เอี้ยวสิ้วอธิบาย

     “นี่เป็นรหัสวาทะ” เอี้ยวสิ้วว่า “ไหมเหลือง คือไหมที่มีสีเติม อักษรไหม ข้างอักษรสี ก็จะได้อักษร...ที่สุด”

      เยาวนารี คือหญิงอายุน้อย ข้างอักษรหญิง มีอักษรน้อยก็จะเป็นอักษร “วิเศษ”

     หลานนอกสกุล คือลูกของลูกสาว ข้างอักษรลูกสาว มีอักษรลูกชาย ก็จะเป็นอักษร “ดี”

     ครกศิลา ต้องรับผักที่มีรสเผ็ด 5 ชนิด ฉะนั้นข้างอักษร...ได้รับ เติมอักษรเผ็ดร้อน ก็จะได้ตัวอักษร “ถ้อยคำ”

     รวมแล้วได้ความว่า “ถ้อยคำสำนวนที่ดีวิเศษสุด”

     โจโฉฟังเอี้ยวสิ้วแล้วตะลึง กล่าวว่า “เจ้าคิดได้ตรงกับเราแต่เราคิดได้ช้ากว่าเจ้า 3 ลี้”

เอียวสิ้ว

     ขณะผู้คนทั้งปวงชื่นชมปฏิภาณปัญญาเอี้ยวสิ้ว โจสิดโอรสองค์รอง นับถือถึงขั้นวางตัวเป็นอาจารย์ วางแผนชิงรัชทายาทจากโจผีพี่ชาย ...ความรู้สึกไม่ชอบหน้าเอี้ยวสิ้ว ในใจโจโฉก็สั่งสมบ่มเพาะเพิ่มขึ้น

      แล้วก็ถึงวันนั้น วันที่ฟางเส้นสุดท้ายบนหลังฟางหล่นแปะบนหลังอูฐ

     โจโฉตั้งทัพอยู่กับที่หลายวัน จะรุกคืบหน้าก็ถูกม้าเฉียว ทหารฝ่ายขงเบ้งสกัด จะถอยหลังก็กลัวทหารจกก๊กหัวเราะเยาะ จึงลังเลไม่รู้จะตัดสินใจอย่างไร

     คนครัวนำต้มยำไก่มาให้ โจโฉเห็นในชามมีซี่โครงไก่ ในจังหวะที่แฮหัวตุ้นเข้ามาขอรหัสขานยามในคืนนั้น โจโฉหลุดปากคำ “ซี่โครงไก่” ออกไป

     ฝ่ายเอี้ยวสิ้ว ตอนนั้นตำแหน่งสมุหบัญชีทัพ ได้ทราบรหัสซี่โครงไก่ ก็สั่งทหารให้เตรียมตัวเก็บข้าวของ แฮหัวตุ้นถาม ก็บอกว่าซี่โครงไก่จะกินก็ไม่มีเนื้อ จะทิ้งก็เสียดายรส โจโฉผู้นายรู้ดี มิสู้ถอยเสียดีกว่า

     แฮหัวตุ้นฟังแล้วก็เก็บข้าวของบ้าง ทหารทั้งกองทัพก็ทำตาม

     คืนนั้นโจโฉนอนไม่หลับ ถือขวานเดินตรวจรอบค่าย เห็นทหารเก็บสัมภาระก็ตกใจ ถามได้ความว่า รหัสทัพซี่โครงไก่ ทำให้เอี้ยวสิ้วรู้ล่วงหน้า...

      โจโฉฉุนขาด ตวาดเอี้ยวสิ้ว “เจ้าบังอาจปล่อยข่าวให้ทหารเสียขวัญ” สั่งให้เอาตัวไปตัดหัวเสียบประจานหน้าค่าย

     ชีวิตนายทหารใหญ่ ที่ฉลาดที่สุดในกองทัพ รับใช้ใกล้ชิดมานานแสนนาน แทนที่จะได้ใช้ความรู้ช่วยกองทัพต่อไป แต่เพราะแสดงความฉลาดเกินหน้านาย...จึงต้องจบสิ้นลงตอนนั้น

     น่าสงสารทหารใหญ่อย่างเอี้ยวสิ้ว เสียจริงๆ

กิเลน ประลองเชิง

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง