"มอดของแผ่นดิน" เป็นบทความทางการเมืองของ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ จากคอลัมน์ "น.ต.ประสงค์ พูด" ของเว็บไซต์แนวหน้า ประจำวันศุกร์ ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 อันเป็นบทความที่ผูกโยงเรื่องโครงการรับจำนำข้าว มอดที่กัดกินข้าว มอดที่กัดกินกองทัพ และมอดที่กัดกินประเทศ
แต่บทความนี้ก็มีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ "สามก๊ก" เพราะ น.ต.ประสงค์ยกเอาบทหนึ่งจากตำราพิชัยสงครามขงเบ้ง ที่ว่าด้วยเรื่อง "มอดแห่งกองทัพ" พฤติกรรม 9 ประการที่เป็นทางแห่งความเสื่อม
"มอดของแผ่นดิน" เป็นบทความทางการเมืองของ "ซีไอเอเมืองไทย" น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ จากคอลัมน์ "น.ต.ประสงค์ พูด" ของเว็บไซต์แนวหน้า ประจำวันศุกร์ ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 อันเป็นบทความที่ผูกโยงเรื่องโครงการรับจำนำข้าว มอดที่กัดกินข้าว มอดที่กัดกินกองทัพ และมอดที่กัดกินประเทศ"มอดกินข้าว อย่าให้เข้ากินเมือง"
แต่บทความนี้ก็มีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ "สามก๊ก" เพราะ น.ต.ประสงค์ยกเอาบทหนึ่งจากตำราพิชัยสงครามขงเบ้ง ที่ว่าด้วยเรื่อง "มอดแห่งกองทัพ" พฤติกรรม 9 ประการที่เป็นทางแห่งความเสื่อม
อ่านแล้วประทับใจ เพราะเป็นบทความที่เขียนขึ้นจากความปรารถดีต่อประเทศชาติ จึงขออนุญาตบันทึกไว้ และปันกันอ่านครับ
มอดของแผ่นดิน
"ประสงค์ พูด" แนวหน้า, ศุกร์ ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2557นาวาอากาศตรี ประสงค์ สุ่นศิริ |
มอดเป็นสัตว์ที่แทะกินทุกอย่างที่หาได้
ที่ไหนมีมอดที่นั้นมีแต่ความเสียหาย
ฤทธิ์เดชของมอดลือเลื่องเป็นที่รู้จักกันมานานในเรื่องการสร้างความเสียหาย ให้เกิดขึ้นกับผู้คนทั้งหลายในโลกนี้ แม้กระทั่งในสมัยพันกว่าปีที่ผ่านมาก็มีการหยิบยกฤทธิ์เดชของมอด มาเป็นเครื่องเตือนใจผู้บริหารงานให้ระวังพฤติกรรมเยี่ยงมอดที่อาจมีปะปน อยู่ในวงการของตน เพราะจะทำให้การงานเสียหายหมด หรือไม่อาจบรรลุเป้าหมายที่ต้องการได้
ตัวมอด |
ขงเบ้งไม่เคยเป็นทหารมาก่อน ไม่เคยเข้าโรงเรียนนายสิบหรือโรงเรียนนายร้อย ไม่เคยเรียนโรงเรียนเสนาธิการ ไม่เคยเรียน วปอ. และไม่เคยมีรุ่นอะไรกับใคร แต่เขาก็เขียนหลักการเกี่ยวกับการปกครองทหารไว้ ให้กองทัพของเล่าปี่ยึดถือเป็นแบบฉบับได้เป็นอย่างดี ซึ่งหลักการที่ขงเบ้งเขียนขึ้นนี้มีชื่อว่า “มอดแห่งกองทัพ”
ขงเบ้งเขียนไว้อย่างนี้
“หากในกองทัพเกิดพฤติกรรมดังต่อไปนี้คือ
- สืบข่าวสอดแนมไม่ละเอียดลึกซึ้ง ไม่ตรงกับความเป็นจริง และจุดไฟสัญญาณเตือนภัยหรือสื่อสารไม่เป็นไปตามกฎเกณฑ์ หนึ่ง
- ปฏิบัติการเชื่องช้าผิดหมายกำหนดการ ละเมิดคำสั่ง และจุดไฟสัญญาณเตือนภัยหรือสื่อสารไม่เป็นไปตามกฎเกณฑ์ หนึ่ง
- ประมาท ไม่ปฏิบัติตามกองบัญชาการ หนึ่ง
- ตัวนายไม่รักถนอมไพร่พล แย่งยึดขูดรีดเอาตามอำเภอใจ หนึ่ง
- แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว ละเมิดกฎหมายบ้านเมืองเพื่อเรื่องของตน ไม่ใส่ใจว่าราษฎรจะอดอยากเหน็บหนาวอย่างไร หนึ่ง
- เสกสรรปั้นเรื่องภูตผีปีศาจ กระพือโหมข่าวดีหรือข่าวร้าย หนึ่ง
- ทำโวยวายตื่นตูมโดยไร้เหตุผลที่สมควรสร้างความตระหนกเสียขวัญแก่บรรดาทหาร หนึ่ง
- ผู้กล้ามิได้เลื่อนตำแหน่ง แต่พวกสอพลอบ้าอำนาจและพวกปลิ้นปล้อนกลับได้รับแต่งตั้งให้เป็นนายหนึ่ง
- เขมือบกินทรัพย์สินของหลวงเสียสิ้นคลัง จัดการใช้จ่ายทรัพย์สินของหลวงตามอำเภอใจตนเอง หนึ่ง
นี่คือหลักการทำงานที่ขงเบ้งกำหนดขึ้นเพื่อใช้เป็นข้อห้ามสำคัญ สำหรับผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการบริหารจัดการ ซึ่งมิได้จะใช้ได้เฉพาะวงการของทหารเท่านั้น แต่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้กับทุกวงการ ไม่ว่าวงการใหญ่หรือเล็ก
แม้กระทั่งวงการเมือง
เพราะถ้ากองทัพมีมอด กองทัพก็เสียหายและถ้าการเมืองมีมอด บ้านเมืองก็หายนะ โดยเฉพาะการเมืองบ้านเราที่ผ่านมาภายใต้ระบอบทักษิณ ที่มีทั้งมอดตัวใหญ่และมอดตัวเล็กเต็มไปหมดทุกวงการ กัดกินแทะทึ้งทรัพย์สมบัติของแผ่นดินทุกอย่างที่ขวางหน้าอย่างไม่เกรงหน้า อินทร์หน้าพรหม จนเรียกได้ว่าเป็นยุคแห่ง “มอดของแผ่นดิน” ทีเดียวที่นำมาซึ่งความล่มสลายของชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนส่วนใหญ่ใน ประเทศขณะนี้
นำหลักการของขงเบ้งที่เขียนไว้ดังกล่าวมาเล่าสู่กันฟังในวันนี้ นอกจากจะเป็นเครื่องเตือนใจกองทัพที่กำลังจัดการกับ “มอดของแผ่นดิน” ในวงการต่างๆของบ้านเมืองในขณะนี้แล้ว ยังสามารถนำมาใช้เตือนใจตัวเองคือกองทัพด้วยว่า อย่าให้เกิดมีมอดขึ้นในกองทัพเป็นอันขาด เพราะถ้ากองทัพมีมอด กองทัพก็เสียหายเช่นเดียวกัน
ต้องดูแลกวดขันพวกของตนด้วย
เพราะที่ผ่านๆ มาแล้วภายใต้ระบอบทักษิณนั้น กองทัพถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง เพื่อค้ำจุนอำนาจทางการเมืองแก่ระบอบทักษิณมาแล้วทั้งมอดใหญ่และมอดเล็ก แพร่พันธุ์ขยายตัวฝังอยู่ในกองทัพมาโดยตลอด
โดยเฉพาะคนที่นำมาใช้งานในขณะนี้ ที่แม้จะไม่ได้เป็นทหารอยู่ในกองทัพก็ตาม ต้องรู้จักคนเหล่านี้ให้ดีว่าเป็นคนอย่างไร เพราะความรู้หรือความสามารถไม่สำคัญเท่าความซื่อสัตย์สุจริตต่อแผ่นดิน หรืองานการที่เคยทำมาในอดีตว่าเป็นอย่างไร และสังคมมีความรู้สึกอย่างไรกับคนเหล่านี้
ภาพจาก สามก๊ก 2010 ตอนที 93 ขงเบ้งเผาทัพสุมาอี้ |
กรุณาแสดงความคิดเห็น