ประเทศไทย ปี พ.ศ.2557 เป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลง เมื่อ คสช. (คณะรักษาความสงบ, National Council for Peace and Order (NCPO)) นำโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ประกาศยึดอำนาจจากรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
หลังจากการยึดอำนาจ คสช. ได้ออกประกาศ, คำสั่งเพื่อควบคุมความสงบภายในประเทศ โดยมุ่งแก้ไขปัญหานานับประการที่รัฐบาลก่อนหน้าได้ก่อไว้ ทั้งปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาการเมือง ปัญหาทุจริต ปัญหาการแตกความสามัคคี ฯลฯ โดยทั้งหมดทั้งมวล คสช. มีเป้าหมายที่สำคัญที่สุดคือ “คืนความสุขให้ประชาชน”
ประเทศไทย ปี พ.ศ.2557 เป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลง เมื่อ คสช. (คณะรักษาความสงบ, National Council for Peace and Order (NCPO)) นำโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ประกาศยึดอำนาจจากรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557"วิธีสร้างความสุขให้คนในชาติ จากวรรณกรรมจีนเรื่องสามก๊ก"
หลังจากการยึดอำนาจ คสช. ได้ออกประกาศ, คำสั่งเพื่อควบคุมความสงบภายในประเทศ โดยมุ่งแก้ไขปัญหานานับประการที่รัฐบาลก่อนหน้าได้ก่อไว้ ทั้งปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาการเมือง ปัญหาทุจริต ปัญหาการแตกความสามัคคี ฯลฯ โดยทั้งหมดทั้งมวล คสช. มีเป้าหมายที่สำคัญที่สุดคือ “คืนความสุขให้ประชาชน”
การแก้ปัญหาโครงการจำนำข้าว การแก้ไขรัฐธรรมนูญ การปรับย้ายข้าราชการที่มีความผิด การควบคุมสื่อที่ยุยงปลุกปั่นให้คนไทยแตกแยก ฯลฯ คือการคืนความสุขบางส่วนที่ คสช. ได้ดำเนินการไปแล้ว มีถูกใจบ้าง ขัดใจบ้าง แต่ในภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจมาก
มองย้อนมาที่วรรณกรรมจีนเรื่อง “สามก๊ก” วรรณกรรมที่เกิดขึ้นจากความขัดแย้งของคนในชาติ เรื่องสามก๊กนี้ก็มีการพูดถึง “การคืนความสุขให้ประชาชน” เช่นกัน .... จะขอยกตัวอย่างสัก 3 เหตุการณ์ดังนี้
เล่าปี่คืนความสุขให้ประชาชนเมืองเสฉวน
เล่าปี่คืนความสุขให้ประชาชนเมืองเสฉวน |
- แจกข้าวปลาอาหาร : ปากท้องเป็นเรื่องสำคัญ ประชาชนต้องมีกินมีใช้ เล่าปี่ให้ทหารไขยุ้งฉาง เอาข้าวปลาอาหารแจกไพร่บ้านพลเมือง เมื่ออาณาประชาราษฎรมีกิน ก็มีความสุข
- ให้ที่อยู่อาศัย : แรกเริ่มเดิมทีเล่าปี่คิดจะยกเรือกสวนไร่นาที่ไม่มีผู้ใดจับจองให้แก่ขุนนางผู้ใหญ่ผู้น้อย แต่จูล่งเสนอแนะว่าควรยกให้กับประชาชน เพราะราษฎรทั้งปวงพลัดพรากไร้ที่ทำกินเนื่องจากศึกสงคราม เล่าปี่เห็นชอบด้วยจึงประกาศยกเรือกสวนไร่นาให้ประชาชนได้มีอยู่มีกินสืบไป
- แก้ไขกฎหมาย : กฎหมายเก่าของเมืองเสฉวนเอื้อประโยชน์ให้กับข้าราชการ ทำให้ประชาชนถูกรังแก เอารัดเอาเปรียบ เล่าปี่จึงให้ตรากฎหมายขึ้นใหม่ให้เข้มงวดกว่าเดิม คาดโทษหนักให้คนทั้งปวงเกรงกฎหมาย แลตั้งใจทำความชอบ ตั้งแต่นั้นหัวเมืองเสฉวนทั้งปวงก็ทำตามกฎหมายใหม่ ทำให้ประชาชนมีความสุขยิ่งกว่าแต่ก่อน
ลิบองคืนความสุขให้ราษฎรเกงจิ๋ว
ลิบองรบกับกวนอู |
- เด็ดขาดฝ่ายตน : ทันทีที่ลิบองยึดเมืองเกงจิ๋วได้ เขาออกประกาศให้กับทหารทั้งปวงว่า ห้ามผู้ใดทำอันตรายหรือยึดสิ่งของชาวเมืองให้ได้รับความเดือดร้อนผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษถึงตาย ซึ่งต่อมามีทหารผู้หนึ่งฝ่าฝืนด้วยการ แย่งชิงร่มหมวกของชาวบ้านเอามากันฝน ลิบองจึงสั่งโทษประหารชีวิต เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป ชาวเมืองเกงจิ๋วจึงเป็นอยู่อย่างปลอดภัย
- ผ่อนปรนต่อฝ่ายตรงข้าม : ลิบองยึดเกงจิ๋วแล้ว แต่ยังคงให้ขุนนางแลข้าราชการคงอยู่ตามตำแหน่งดังเก่า รวมทั้งจัดทหารมาดูแลบุตร ภรรยาของกวนอูที่ยังอยู่ในเมืองเป็นอย่างดี ไม่ให้มีผู้ใดมาทำอันตราย อุบายนี้ทำให้ต่อมาภายหลัง เมื่อกวนอูยกทัพกลับมา ทหารของกวนอูล้วนไม่คิดต่อสู้ เพราะรู้ว่าครอบครัวและลูกเมียที่อยู่ภายในเมืองล้วนอยู่รอดปลอดภัย แล้วพากันหนีทัพกลับเข้าเมือง จนกวนอูต้องถอดใจ ยกทัพไปอยู่เมืองอื่น
ขงเบ้ง คืนความสุขให้ชาวม่าน
เบ้งเฮ็กกับนางจกหยง |
- การปกครองท้องถิ่น : ขงเบ้งตั้งใจจะยกทหารกลับทั้งหมด แล้วปล่อยให้ชาวม่านปกครองตนเองดังเดิม โดยให้เหตุผลของการ “ผิดเพศ” สามประการ คือ หนึ่ง ชาวม่านกินเนื้อสัตว์ดิบ, สอง ชาวม่านยังเจ็บแค้นอยู่ และสามคือกฎหมายประหารชีวิตของชาวม่าน ทั้งสามอย่างนี้เป็นสิ่งที่ทหารเมืองจ๊กไม่อาจจะรับมือได้ หากต้องการการปกครองชาวเมืองม่าน ก็ต้องใช้คนม่านเป็นผู้นำเท่านั้น
- สร้างค่านิยมใหม่ : แดนเมืองม่านมีแม่น้ำสายหนึ่งชื่อว่าลกซุย เมื่อขงเบ้งยกทัพกลับผ่านแม่น้ำสายนี้ก็พลันเกิดลมพายุพัดพร้อมกับหมอกลงจัด ไม่สามารถเดินทัพฝ่าไปได้ เบ้งเฮ็กจึงบอกว่าแม่น้ำสายนี้มีปีศาจสถิตอยู่ ต้องตัดศีรษะคน 49 หัวกับม้าเผือกกระบือดำมาบวงสรวง ขงเบ้งไม่ต้องการใช้ชีวิตคนเป็นเครื่องเซ่นสังเวย คิดเอาแป้งมาปั้นเป็นรูปศีรษะคน เรียกว่า “ม่านโถว” (หัวของชาวม่าน) จำนวน 49 ลูก นำไปเซ่นสังเวยแทน แล้วเติมแต่งพิธีกรรมให้ศักดิ์สิทธิ์ โดยมีการอ่านคำบูชา มีการจุดธูปเทียนแลประทีป และการจุดประทัดตีม้าล่อ ทำให้คลื่นลมพายุนั้นสงบลง ตั้งแต่นั้นชาวม่านก็ไม่เคยต้องเซ่นสังเสยปีศาจด้วยชีวิตคนอีกเลย ชาวม่านจึงรักและศรัทธาในตัวขงเบ้งมาก และสร้างรูปเหมือนขงเบ้งไว้จารึกชื่อว่า จูฮู (บิดาของชาวเมืองทั้งปวง)
คืนความสุขให้ประเทศไทย
วิธีการคืนความสุขให้ประชาชนจากเรื่องสามก๊กนี้ หลายข้อ หลายเหตุการณ์ก็พอดูคล้ายกับแนวทางที่ คสช. กำหนด แต่ที่ผมชอบมากก็คือการกำหนดค่านิยมให้กับคนไทย ซึ่งค่านิยมทั้ง 12 ประการนั้นมีดังนี้
- รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
- ซื่อสัตย์ เสียสละ อดทน มีอุดมการณ์ในสิ่งที่ดีงาม-เพื่อส่วนรวม
- กตัญญูต่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์
- ใฝ่หาความรู้ หมั่นศึกษาเล่าเรียน
- รักษาวัฒนธรรมประเพณีไทยอันงดงาม
- มีศีลธรรม รักษาความสัตย์ หวังดีต่อผู้อื่น เผื่อแผ่และแบ่งปัน
- เข้าใจเรียนรู้การเป็นประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่ถูกต้อง
- มีระเบียบวินัย เคารพกฎหมาย ผู้น้อยรู้จักเคารพผู้ใหญ่
- มีสติ รู้ตัว รู้คิด รู้ทำ รู้ปฏิบัติ ตามพระราชดำรัสพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
- รู้จักดำรงตนอยู่ โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
- มีความเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจ ไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจฝ่ายต่ำหรือกิเลส มีความละอายเกรงกลัวต่อบาปตามหลักของศาสนา
- คำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวมและต่อชาติมากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง
เราจึงควรมาช่วยกัน "คสช. - คืนความสุขให้คนในชาติ" และร่วมสร้างสรรค์สังคมไทยไปพร้อม ๆ กันครับ ..... สวัสดี
คืนความสุขให้ประเทศไทย (อัสนี-วสันต์ โชติกุล) Full Version
เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง
ผมไม่ยอมทำตามกฏอัยการศึกครับ
ตอบลบเพราะผมเป็นรัฐถาธิปัตย์ อยู่เหนือกฏหมาย...
มีปัญหา เคลียร์ได้
ปล.ล้อเล่นครับ
ล้อกันเล่นแรงเชียวนะครับ
ลบ