มีสำนวนจีนอยู่สำนวนหนึ่งว่า “ช่างรองเท้าอัปลักษณ์ 3 คน เหนือกว่าขงเบ้ง” (三个臭皮匠,顶个诸葛亮) [sān gè chòu píjiang ,dǐng gè zhūgěliàng] มีความหมายในเชิงว่า จะทำการสิ่งใด หากใช้ความสามัคคีร่วมแรงร่วมใจกันทำแล้ว ย่อมได้ผลอันดีเลิศ เหนือกว่าการลงมือทำเพียงคนเดียว ซึ่งก็คล้ายคลึงกับสำนวนไทยที่ว่า “หลายหัวดีกว่าหัวเดียว”
มีสำนวนจีนอยู่สำนวนหนึ่งว่า “ช่างรองเท้าอัปลักษณ์ 3 คน เหนือกว่าขงเบ้ง” (三个臭皮匠,顶个诸葛亮) [sān gè chòu píjiang ,dǐng gè zhūgěliàng] มีความหมายในเชิงว่า จะทำการสิ่งใด หากใช้ความสามัคคีร่วมแรงร่วมใจกันทำแล้ว ย่อมได้ผลอันดีเลิศ เหนือกว่าการลงมือทำเพียงคนเดียว ซึ่งก็คล้ายคลึงกับสำนวนไทยที่ว่า “หลายหัวดีกว่าหัวเดียว”จะอาศัยเพียงสติปัญญาโดยลำพังนั้นไม่อาจกระทำการได้สำเร็จ
จำจักต้องอาศัยความร่วมใจของผู้อื่นด้วย จึงจะได้การ
สำนวน “ช่างรองเท้าอัปลักษณ์ 3 คนเหนือกว่าขงเบ้ง” นี้มีใช้กันบ่อยในประเทศจีน แต่ก็ไม่คุ้นหูคนไทย เพราะเราไม่รู้ที่มาที่ไปของสำนวน รวมทั้งสำนวนไทย ๆ อย่าง “หลายหัวดีกว่าหัวเดียว” ก็มีความหมายชัดเจนกว่าอยู่แล้ว
การใช้สำนวนนี้ที่พอพบเห็นได้บ้างนั้น อยู่ในการ์ตูนสามก๊กเรื่อง “หงสาจอมราชันย์” ตอนที่กุยแกพูดเปรยถึงช่างหนังกับขงเบ้ง โดย คุณ ม.ประภา ผู้แปลได้เขียนอธิบายไว้ว่า มาจากสำนวนจีน “ช่างหนังสามคนเหนือกว่าขงเบ้ง” แต่กระนั้นก็มิได้อธิบายว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร แล้วละไว้ให้ผู้อ่านตีความกันเอาเอง
แม้แต่ในประเทศจีนเอง ก็มีเรื่องเล่าถึงที่มาที่ไปของสำนวนนี้ แตกต่างกันอยู่ 2 แนวทาง คือ
ช่างรองเท้าชาวง่อ
ช่างทำรองเท้าอัปลักษณ์ 3 คนเหนือกว่าขงเบ้ง |
ซุนกวนติดประกาศอยู่เดือนแล้วเดือนเล่า ในที่สุดก็มีช่างรองเท้าหน้าตาอัปลักษณ์ 3 คนรับอาสา เพราะต้องการพิสูจน์สติปัญญา รวมทั้งรู้สึกไม่ชอบหน้าขงเบ้ง ที่คิดมาลองปัญญาชาวเมืองง่อด้วยวิธีการเช่นนี้ ช่างรองเท้าทั้งสามจึงรวบรวมสติปัญญา ความรู้ความสามารถ ใช้เวลาเพียงสามวันสามคืน ด้วยการใช้ฝีมือการทำรองเท้า ตัดแผ่นหนังเป็นรูปน้ำเต้าขนาดใหญ่ แล้วนำไปฝังดินจากนั้นจึงค่อยเททองแดงเหลว ลงไปในแผ่นหนังรูปน้ำเต้า เมื่อคลายความร้อนแล้ว ก็ขุดน้ำเต้าทองแดงนั้นขึ้นมา
ช่างรองเท้าทำน้ำเต้าทองแดง |
ชาวเมืองง่อจึงเล่าลือกันสืบมาว่า “ช่างรองเท้าอัปลักษณ์ 3 คนเหนือกว่าขงเบ้ง” หากเราร่วมแรงร่วมใจกัน คนธรรมดาสามัญก็สามารถเอาชนะผู้มีสติปัญญาอย่างขงเบ้งได้
ทหารเลวหลอกโจโฉ
รูปการ์ตูนที่แสดงให้เห็นว่าแท้จริงคือสำนวน "ทหารเลว 3 คนเหนือกว่าขงเบ้ง" |
เรื่องนี้เกิดขึ้นในตอน “ขงเบ้งยืมเกาทัณฑ์แสนดอกจากโจโฉ” ที่นักอ่านสามก๊กทุกท่านรู้จักกันดี เบื้องหน้าคือความฉลาดปราดเปรื่องของขงเบ้ง แต่เบื้องหลังความสำเร็จคือความกล้าหาญของทหารเลว 3 คน
เรื่องก็มีอยู่ว่า ขงเบ้งได้สั่งการให้ทหารเลว 3 นายไปเตรียมเรือ โดยใช้ฟางทำเป็นหุ่นแต่งตัวคล้ายทหาร ตั้งอยู่บนกราบเรือลำละ “20 คน” ทหารเลวทั้งสามก็จัดแจงให้เสร็จสรรพตามที่ขงเบ้งสั่งการ
เมื่อออกเรือไปแล้ว ทหารเลวทั้งสามอยู่ในเรือ ก็นั่งคิดกันเล่น ๆ ว่าจะมีทางใดบ้างหนอ ที่จะทำให้โจโฉหลงกล เพราะคนอย่างโจโฉนั้นมิใช่ว่าจะตบตากันได้ง่าย ๆ
ข้างฝ่ายโจโฉเห็นเรือแล่นมาแต่ไกล ทั้งมืดทั้งหมอก แต่ก็พอประมาณได้ว่ามีทหารอยู่บนเรือ เท่าที่พอนับได้ก็ “23 คน” เห็นบางคนกำลังกุลีกุจอ วิ่งไปวิ่งมาอยู่บนเรือ จึงสั่งให้ระดมยิงเกาทัณฑ์ใส่กองเรือทั้งหมด
เรื่องเบื้องหลังก็คือ ทหารเลว 3 นายนั้น กลัวว่าจะลวงโจโฉไม่สำเร็จ จึงเสี่ยงตายออกไปเคลื่อนไหวอยู่บนเรือ แกล้งให้ทหารโจโฉเห็นว่าเป็นคน ไม่ใช่หุ่นฟาง นี่จึงเป็นที่มาของสำนวน “ทหารเลว 3 คนเหนือกว่าขงเบ้ง”
อันมีความหมายในทำนองว่า
“จะอาศัยเพียงสติปัญญาโดยลำพังนั้นไม่อาจกระทำการได้สำเร็จ จำจักต้องอาศัยความร่วมใจของผู้อื่นด้วย จึงจะได้การ”
แท้จริงแล้วขงเบ้งยืมเกาทัณฑ์แสนดอกได้สำเร็จ เพราะทหารเลวเพียง 3 คน |
สรุป
ไม่ว่าจะ “ทหารเลว 3 คนเหนือกว่าขงเบ้ง” หรือ “ช่างรองเท้าอัปลักษณ์ 3 คนเหนือกว่าขงเบ้ง” แต่หลักใหญ่ใจความก็อยู่ที่ "ความสามัคคี" ที่สำคัญที่สุด เหนือสิ่งใดประเทศไทยของเรา ขาดความสามัคคี ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวมานานแล้ว ช่วงนี้เป็นโอกาสอันดีที่ คสช. "คณะรักษาความสงบแห่งชาติ " เข้ามาสลายสี เข้าควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างในบ้านเมือง เราจึงควรใช้เวลานี้สร้างความสามัคคีปรองดองกัน
รักชาติจริง ไม่ต้องมา "สามนิ้ว" สร้างความแตกแยก แต่ให้มาอ่าน "สามก๊ก" และใช้อุทาหรณ์จากเรื่อง "สามคน" สร้างความสงบ สันติ สามัคคี ดีกว่าครับ
โปรดหยุดการแสดงสัญลักษณ์ทางการเมือง เพราะประเทศไทยต้องการความ สงบ สันติ และสามัคคี |
ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันครับ
ตอบลบโห้ววว นี่คือคนที่ศึกษา 3 ก๊กจริงๆรึนี่
ตอบลบบทความนี้เขียนไว้ตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งบทบริบทและกลุ่มความคิดทางการเมืองแตกต่างกับปัจจุบันเป็นอย่างมาก ต้องขออภัยหากทำให้เข้าใจผิดด้วยนะครับ
ลบ