“ซิหลง” คือทหารเอกผู้หนึ่งที่มีบทให้เล่นเป็นเพียงตัวประกอบฉาก แม้ว่าชื่อชั้นของเขาจะอยู่ในทำเนียบ “ห้าทหารเสือของวุยก๊ก” อันประกอบด้วยนายทหารเอกคนอื่น ๆ เช่น เตียวเลี้ยว เตียวคับ งักจิ้น และ อิกิ๋ม
สามก๊กวิทยาจึงจำจะขอรจนา เกียรติประวัติของนายทหารผู้นี้ ให้ท่านผู้อ่านได้ทบทวนกันใหม่สักครั้ง
ในเรื่องสามก๊ก ตัวละครเอกมักจะอยู่ฝ่ายเล่าปี่ ทั้งขุนทั้งโคนอย่าง กวนอู เตียวหุย จูล่ง ขงเบ้ง ฮองตง ม้าเฉียว จึงมีบทบาทอันโดดเด่น ประทับจิตตราตรึงใจ แต่เมื่อมองมายังศัตรูคู่แค้นอีกฟากฝั่งอย่างโจโฉ ขุนทหารของโจโฉกลับไม่มีอะไรโดดเด่น หรือสะดุดตาให้เห็นเป็นพิเศษ แม้นจะมีกล่าวถึงอยู่หลายฉาก หลายตอนแต่ก็เป็นเพียงบทบาทอันฉาบฉวย ไม่มีเนื้อหาอะไรให้ประทับใจ“นับแต่ครั้งบุราณมา ชายชาติทหารกล้าน้อยคนนักที่จะได้รับใช้แม่ทัพผู้ชำนาญการสงคราม
มาบัดนี้เรามีโอกาสอันประเสริฐแล้ว แทนที่จะตั้งหน้าหาแต่เกียรติยศส่วนตัว
เรามาทำการเพื่อท่านแม่ทัพอย่างดีที่สุด จะมิสู้ดีกว่าหรือ!”
“ซิหลง” คือทหารเอกผู้หนึ่งที่มีบทให้เล่นเป็นเพียงตัวประกอบฉาก แม้ว่าชื่อชั้นของเขาจะอยู่ในทำเนียบ “ห้าทหารเสือของวุยก๊ก” อันประกอบด้วยนายทหารเอกคนอื่น ๆ เช่น เตียวเลี้ยว เตียวคับ งักจิ้น และ อิกิ๋ม
สามก๊กวิทยาจึงจำจะขอรจนา เกียรติประวัติของนายทหารผู้นี้ ให้ท่านผู้อ่านได้ทบทวนและพิจารณากันใหม่สักครั้ง
เปิดตัวซิหลง
ซิหลง (Xu Huang, 徐晃) |
“ซิหลงอยู่ไหน ?”
คือคำเปิดตัวของซิหลง เมื่อเอียวฮอง นายของเขาเรียกหาความช่วยเหลือ เมื่อครั้งที่ถวายการอารักขาพระเจ้าเหี้ยนเต้ เสด็จหนีจากการไล่ติดตามจากกองทหารของฝ่ายกุยกี
ควบม้าทะนง ฟาดขวานใหญ่ ฉับเดียว! ซุยยงแม่ทัพของกุยกีที่ตามมาก็ขาดใจตายทันที จากนั้นยังแสดงฝีมือสังหารลิงัก นายโจรที่ทรยศคิดชิงตัวพระเจ้าเหี้ยนเต้ ได้ในครั้งแรกของการประมือกัน (ฉบับภาษาไทยว่า 3 เพลง) สามารถพาขบวนเสด็จตีฝ่าออกไปยังเมืองลกเอี๋ยงได้สำเร็จ
เกียรติของซิหลง กระจ่างขึ้นแล้ว แม้จะยังเป็นเพียงทหารรองในสังกัดของแม่ทัพเล็ก ๆ อย่างเอียวฮอง
พบโจโฉ
ซิหลง จาก Dynasty Warriors7 |
“พระเจ้าเหี้ยนเต้นั้นธาตุเพลิง ตัวท่านเป็นธาตุดิน ถ้าท่านคิดอ่านยกไปอยู่เมืองฮูโต๋ได้ ท่านจะคิดการสิ่งใดก็จะค่อยกว้างขวางขึ้นไป”
เอียวฮองระแวงโจโฉ จึงชิงหนีออกไปดักอยู่นอกเมือง และที่นั้น ซิหลง ได้ออกหน้าขวางทางไว้
“อ้ายโจรโจโฉ มึงจะพาพระเจ้าแผ่นดินไปไหนหรือ?”
ซิหลงตะโกนร้องอย่างทระนง โดยหารู้ไม่ว่า ชายที่อยู่ตรงหน้าจะเป็นนายคนใหม่ของเขา
โจโฉมิได้ตอบ แต่ส่งเคาทูออกไปรบกับซิหลง ยอดฝีมือทั้งสองรบกันได้ 50 เพลงไม่รู้แพ้ชนะ โจโฉจึงตีม้าล่อเรียกเคาทูกลับ แล้วเปรยว่า “ซิหลง องอาจนัก เราอยากได้ตัวมาใช้ในราชการ” แล้วจึงส่งหมันทองปลอมเป็นทหารเลวเข้าไปเกลี้ยกล่อม
นักอ่านสามก๊ก อาจชินตากับภาพ “กวนอูจุดเทียนดูหนังสือ” แต่สิ่งที่หมันทองเห็นในคืนนั้นคือ “ซิหลงใส่เกราะจุดเทียนนั่งดูหนังสือ” ดูเอาเถิดว่าในขณะที่ผู้อื่นพักผ่อนนอนหลับสบาย ซิหลงยังพร้อมรบและขะมักเขม้นกับการศึกษาหาความรู้ สายตาของโจโฉมองคนไม่ผิดเลย
โจโฉส่งหมันทองปลอมเป็นทหารเลวเข้าไปเกลี้ยกล่อมซิหลง |
ซิหลงใส่เกราะจุดเทียนนั่งดูหนังสือยามราตรี เป็นที่ประทับใจแก่หมันทองนัก |
หมันทองกล่าวคำคม มธุรสวาจาออกมา ทำให้ซิหลงเห็นคล้อย เพราะสติปัญญาของซิหลงรู้ดีว่า เอียวฮองนายของเขา โฉดเขลาอย่างไร
หมันทองได้ทีจึงกล่าวต่อว่า “ท่านจะไปทำราชการอยู่ด้วยโจโฉแล้ว จงตัดเอาศีรษะเอียวฮอง ไปถวายเถิด”
ว่าเพียงเท่านี้ มธุรสเกือบเป็นเพียงเถ้าธุลี เพราะซิหลงถมึงตึง ตวาดเอาว่า
“ธรรมดาเป็นบ่าวได้กินข้าแดงของท่านแล้ว ถ้ามิพอใจอยู่ด้วย แลซ้ำทำร้ายนายก็เป็นคนหากตัญญูมิได้ ซึ่งท่านจะให้เราทำดังนี้เราไม่ยอมด้วย”
หมันทองได้ฟังดังนั้น ก็สรรเสริญในน้ำใจซิหลงนัก จึงได้ชวนกันไปหาโจโฉแต่ตัว และซิหลงก็ได้รับราชการกับโจโฉตั้งแต่นั้น
ซิหลง จากการ์ตูนสามก๊ก หงสาจอมราชันย์ |
โจวย่าฟู
ซิหลงอยู่กับโจโฉทำความดีความชอบหลายครั้ง เคยประมือกับยอดขุนทหารแห่งยุคเช่น งันเหลียง บุนทิว แม้จะไม่สามารถเอาชนะ แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งกล้าหาญได้เป็นอย่างดี รวมทั้งเมื่อครั้งที่กวนอูเคยรับราชการกับโจโฉ เพื่อนที่กวนอูสนิทสนมและยอมรับในฝีมือมีอยู่เพียง 2 คนก็คือ เตียวเลี้ยวกับซิหลง เท่านั้นหลังศึกผาแดง เล่าปี่ตั้งตัวเป็นใหญ่ในเสฉวน กวนอูได้เป็นเจ้าเมืองเกงจิ๋ว บุกตีเมืองอ้วนเซีย ทดน้ำท่วม สังหารบังเต๊กและจับตัวอิกิ๋มได้ โจโฉหวาดกลัวถึงขนาดเตรียมตัวย้ายเมืองหลวงหนี แต่ก็มีนายทหารกล้า อาสาออกรบขับไล่กวนอู และเป็นแน่แท้ว่านายทหารกล้าผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่คือ “ซิหลง” เพื่อนสนิทของกวนอู ในอดีตนั่นเอง
“แต่ข้าพเจ้าจากมาก็ช้านานหลายปี ท่านนี้หนวดเคราเผ้าผมก็หงอกไปสิ้น สิ่งใดซึ่งท่านได้สั่งสอนให้แต่ก่อน ก็คิดถึงคุณท่านไม่วายวัน อันตัวท่านเป็นคนดีมีเกียรติยศในแผ่นดิน ข้าพเจ้าได้เห็นหน้าท่านในวันนี้ความดีใจหาที่สุดมิได้”
ซิหลงทักกวนอูที่กำลังลำพองใจ แต่เพียงชั่วประเดี๋ยว ความลำพองก็กลายเป็นความตื่นตระหนก เมื่อซิหลงกู่ก้องร้องประกาศต่อหน้าทหารหาญว่า
“ผู้ใดอาจสามารถฆ่ากวนอูได้ กูจะให้ทองพันพันตำลึง” ว่าจบก็ควงขวาน ควบม้า ปรี่เข้าหากวนอู
กว่า 80 เพลงที่เพื่อนสนิท เทพแห่งสงครามทั้งสอง รุกรบเข้าฟาดฟันกันอย่างไม่รู้แพ้ชนะ ก่อนแยกกันไปคุมเชิงตั้งหลักกันใหม่ สุดท้ายซิหลงสามารถต้านทานการรุกของกวนอูไว้ได้ ประกอบกับมีข่าวว่าลิบองได้ลอบยึดเมืองเกงจิ๋วไปแล้ว ทำให้กวนอูต้องยกทัพถอยออกจากเมืองอ้วนเซียไป
ในการรบกับกวนอูครั้งนี้ โจโฉชื่นชมในสติปัญญาและความกล้าหาญของซิหลงเป็นอย่างมาก แต่งตั้งให้เขาเป็น “ทหารเอกสำหรับปราบข้าศึกทิศใต้” พร้อมกับคำชมที่ว่า
“ข้าอยู่ในสนามรบมา 30 ปี มิเคยเห็นผู้ใดกระทำการได้เยี่ยงซิหลงเลย”
ในหนังสือสามก๊กต้นฉบับ โจโฉได้กล่าวชื่นชมซิหลง นอกเหนือจากนี้อีกว่า “ซิหลง มีจิตใจดุจดัง โจวย่าฟู”
โจวย่าฟู (Zhou Yafu, 周亚夫) ภาพจากละครโทรทัศน์เรื่องกลสาวงาม (Chemes of a Beauty, Meiren Xinji, 美人心計) |
ภาพวาดซิหลง ที่ดูน่ากลัวที่สุด |
ในจุดนี้มีข้อแตกต่างระหว่างประวัติศาสตร์กับวรรณกรรม คือ
ในบันทึกประวัติศาสตร์ซิหลงป่วยตาย ในปี ค.ศ.227 ขณะที่ป้องกันเมืองซงหยงจากการรุกรานของง่อก๊ก ที่นำมาโดยจูกัดกิ๋น และเขาได้สั่งเสียกับบุตรหลานว่าให้จัดการพิธีศพอย่างเรียบง่าย ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรให้วุ่นวาย
นอกจากนี้ในจดหมายเหตุสามก๊ก ยังได้ยกย่องซิหลงไว้ว่า
ซิหลง เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน เรียบง่ายแต่เคร่งครัดในระเบียบวินัย เมื่อเข้าสู่สนามรบ เขาไม่เคยย่อท้อ หากยังไม่ได้รับชนะกองทหารของเขาจะไม่หยุดพักหรือทานอาหาร ซิหลงมักจะแสดงทัศนคติของเขาอยู่เสมอว่า
“นับแต่ครั้งบุราณมา ชายชาติทหารกล้าน้อยคนนักที่จะได้รับใช้แม่ทัพผู้ชำนาญการสงคราม มาบัดนี้เรามีโอกาสอันประเสริฐแล้ว แทนที่จะตั้งหน้าหาแต่เกียรติยศส่วนตัว เรามาทำการเพื่อท่านแม่ทัพอย่างดีที่สุด จะมิสู้ดีกว่าหรือ!”
ตลอดชีวิตราชการของซิหลงจึงมิเคยปรากฏว่ามีการหาความเจริญก้าวหน้าส่วนตัว สร้างเครือข่าย หรือเล่นพรรคเล่นพวกแต่อย่างใด
ซิหลง กระทำการอย่างสุจริตและรับใช้นายของเขาอย่างเต็มความสามารถ เกียรติยศและการกระทำของเขา แสดงให้เห็นประจักษ์ชัดว่า "ซิหลง คนตรงแห่งโฮตั๋ง" มิได้น้อยหน้าขุนพลเอกคนใดในยุคนั้นเลย
ซิหลง กงหมิง |
รูปซิหลงก่อนอันสุดท้ายนี่ ยังกะทหารมองโกล 555
ตอบลบขยันอ่านตำรา แต่ทำไมแพ้บ่อยจัง กลยุทธไม่ค่อยจะมี ถึงมี ก็ลอกมาหมดดุ้น ไม่รู้จักปรับใช้จนแพ้ อย่างตอนที่ตั้งค่ายหันเข้าหาน้ำเลียนแบบฮั่นสิน เพื่อให้ทหารสู้ตาย แต่คราวนี้ต่างจากฮั่นสิน ตรงที่มีกองหนุนของโจโฉคอยช่วย ทหารเลยไม่สู้ตาย ผลคือแพ้ยับ
ตอบลบแพ้ชนะเป็นเรื่องปกติธรรมดาของสงครามครับ ที่น่าสนใจก็คือแพ้อย่างไร ทำไมผู้คนจึงยังยกย่อง แพ้แบบน่านับถือครับ
ลบ