วันจันทร์ ที่ 13 มกราคม พ.ศ.2557 คือวันที่ “กปปส.” หรือ “คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” ประกาศรวมพลครั้งใหญ่เพื่อปฏิบัติการ “ชัตดาวน์กรุงเทพฯ” ต่อต้านรัฐบาลรักษาการ และการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 2 ก.พ.57
การรวมพลของ กปปส. ในครั้งนี้ ว่ากันว่าจะเป็นการรวมพลครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ชาติไทย เพราะการรวมพลของ กปปส. ในหลาย ๆ ครั้งที่ผ่านมา ก็ประจักษ์ชัดแล้วว่ามีประชาชนเข้าร่วมด้วยเป็นจำนวนมาก และมากพอที่จะเรียกได้ว่าเป็น “มวลมหาประชาชน”
“มวลมหาประชาชน” ของไทยในวันนี้ ดูแล้วช่างคล้ายคลึงกับ “มวลมหาประชาชนในยุคสามก๊ก” สามก๊กวิทยาจึงขอหยิบยก เอาบทเรียนในอดีตนั้น มาเป็นอุทาหรณ์แก่พี่น้องชาวไทยในวันพรุ่ง
วันจันทร์ ที่ 13 มกราคม พ.ศ.2557 คือวันที่ “กปปส.” หรือ “คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” ประกาศรวมพลครั้งใหญ่เพื่อปฏิบัติการ “ชัตดาวน์กรุงเทพฯ” ต่อต้านรัฐบาลรักษาการ และการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 2 ก.พ.57ข้อผิดพลาดจากยุคสามก๊ก
การรวมพลของ กปปส. ในครั้งนี้ ว่ากันว่าจะเป็นการรวมพลครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ชาติไทย เพราะการรวมพลของ กปปส. ในหลาย ๆ ครั้งที่ผ่านมา ก็ประจักษ์ชัดแล้วว่ามีประชาชนเข้าร่วมด้วยเป็นจำนวนมาก และมากพอที่จะเรียกได้ว่าเป็น “มวลมหาประชาชน”
“มวลมหาประชาชน” ของไทยในวันนี้ ดูแล้วช่างคล้ายคลึงกับ “มวลมหาประชาชนในยุคสามก๊ก” สามก๊กวิทยาจึงขอหยิบยก เอาบทเรียนในอดีตนั้น มาเป็นอุทาหรณ์แก่พี่น้องชาวไทยในวันพรุ่ง
"มวลมหาประชาชน" กลุ่มมวลชนที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย |
มวลมหาประชาชนในยุคสามก๊ก
แผ่นดินเมืองจีน ปี พ.ศ.727 แสงตะวันที่เคยส่องสว่างให้กับบัลลังก์ราชวงศ์ฮั่นเริ่มลับเลือน เพราะความละโมบโลภมาก ความทะเยอทะยานของกลุ่มข้าราชบริพาร, ภัยธรรมชาติ และการขูดรีดภาษีอันเกินสมควร สร้างความเดือดร้อนอันโกลาหลให้กับประชาชน บังเกิดให้มีผู้วิเศษนามว่า “เตียวก๊ก” ก่อตั้งลัทธิเพื่อแสวงหาความสงบสุข และซ่องสุมกองกำลัง หวังโค่นล้มราชวงศ์ฮั่นความล้มเหลวของรัฐบาล นานับประการ ได้กระตุ้นให้ประชาชนจำนวนมากลุกขึ้นต่อต้านและรวมตัวกัน กลายเป็นกลุ่ม “โพกผ้าเหลือง” มวลมหาประชาชนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่อย่างไรก็ตาม ความวุ่นวายในครั้งนี้ก็ได้ก่อให้เกิดวีรบุรุษขึ้นทั่วแผ่นดินเช่นกัน
โจโฉ นายทหารหนุ่มผู้มองการณ์ไกล , ซุนเกี๋ยน พยัคฆ์ร้ายแดนใต้ รวมทั้งสามพี่น้องร่วมสาบาน เล่าปี่ กวนอู เตียวหุย ที่หาญกล้ารวบรวมอาสาสมัครเข้าปราบปราม คือกลุ่มวีรบุรุษที่เกิดขึ้นมาใหม่ เพื่อยับยั้งเหตุการณ์จลาจลให้สิ้นไป
มวลมหาประชาชน ในครั้งนั้นพ่ายแพ้ได้อย่างไร และให้บทเรียนอะไรแก่อนุชนคนรุ่นหลัง !?
ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชา
เตียวก๊ก ผู้นำของกลุ่มกบฏโพกผ้าเหลือง ขึ้นเป็นผู้นำได้เพราะมีของวิเศษ โดยเขาได้รับตำราสามฉบับอันมีชื่อว่า “ไทแผงเยาสุด” จากเทพดาผู้วิเศษ โดยเมื่อครั้งที่เตียวก๊กได้ตำรานั้น เทพดาผู้วิเศษได้กล่าวเตือนเขาว่า “ตำรานี้ท่านเอาไปช่วยทำนุบำรุงคนทั้งปวงให้อยู่เย็นเป็นสุข ถ้าตัวคิดร้ายมิซื่อตรงต่อแผ่นดิน ภัยอันตรายจะถึงตัว”เตียวก๊กก็รับคำและเมื่อได้ตำรามา เขาก็ศึกษาจนแตกฉาน สามารถเรียกลมเรียกฝน รักษาโรคได้ทุกประการ ชาวบ้านชาวเมืองพากันนับถือขอฝากตัวเป็นศิษย์ แต่เมื่อมีผู้เลื่อมใสศรัทธามากขึ้น เตียวก๊กก็อาศัยช่วงที่บ้านเมืองชุลมุน เหิมเกริมคิดตั้งตัวเป็นเจ้า โดยปล่อยข่าวลือไปว่า “แผ่นดินจะผันแปรปรวนไปแล้ว จะมีผู้มีบุญมาครองแผ่นดินใหม่ บ้านเมืองจะเป็นสุข” แล้วโปรโมทตัวเองด้วยการให้ชาวเมืองที่นับถือเขา เขียนชื่อ “เตียวก๊ก” บูชาไว้ทุกบ้านเรือน พร้อมกับติดสินบน ฮองสีขันที คนในราชสำนักให้ช่วยเป็นไส้ศึกอีกแรง
จาก “คนดี” ที่เคยรักษาไข้ บำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้แก่ชาวเมือง กลายเป็น “คนเลว” ที่คิดล้มล้างการปกครอง อยากมีอำนาจ กระทำการให้ผิดคำสัญญาต่อเทพดา ภัยร้ายจึงกำลังจะมาเยือน
“มวลมหาประชาชน” เกิดขึ้นได้เพราะความรัก ความศรัทธาต่อความดีและความเป็นธรรม ผู้นำของมวลมหาประชาชนจึงต้องเสมอต้นเสมอปลาย อย่าเปลี่ยนอุดมการณ์เป็นอันขาด
เมื่อไม่ดี ก็ย่อมมีการหักหลัง
เมื่อเตียวก๊กจะเริ่มก่อการ เขาได้ใช้ให้ลูกศิษย์คนหนึ่งชื่อ “ตองจิ๋ว” ถือหนังสือลับไปบอก ฮองสีขันที แต่ตองจิ๋วกลับนำหนังสือนั้นไปให้ขุนนางนำความขึ้นกราบทูลพระเจ้าเลนเต้ พระเจ้าเลนเต้จึงให้โฮจิ๋นขุนนางผู้ใหญ่ จับกุมตัวฮองสีขันทีไว้ แต่กระนั้นเตียวก๊กก็มิได้ละความพยายาม กลับกระด้างกระเดื่องมากขึ้น โดยตั้งตนเป็น “เทียนก๋งจงกุ๋น” หรือเจ้าพระยาสวรรค์ ตั้งเตียวโป้ผู้น้องเป็น “แตก๋งจงกุ๋น” (เจ้าพระยาแผ่นดิน) และตั้งเตียวเหลียงน้องคนเล็กเป็น “ยินก๋งจงกุ๋น” (เจ้าพระยามนุษย์) แล้วประกาศให้ไพร่พลร่วมสนับสนุน ช่วยกันสร้างชาติใหม่ โดยใช้ผ้าเหลืองโพกศีรษะ พากันเป็นโจร สร้างความวุ่นวายให้แผ่นดิน
การซ่องสุมกำลังของเตียวก๊ก ยังไม่พร้อมบริบูรณ์ ความลับก็รั่วไหล เพราะมีลูกน้องรักดีอย่าง “ตองจิ๋ว” ที่เห็นความนัย หักหลังเขาเสียก่อน แผนการที่เขาวางไว้จึงต้องเริ่มขึ้นก่อนเวลาที่ควรจะเป็น
หาก “มวลมหาประชาชน” มิต้องการถูกหักหลัง โปรดจงรักษาความดีและอุดมการณ์ของท่านไว้ให้มั่นเถิด
ความรุนแรง ไม่ใช่ทางออก
เตียวก๊ก เลือกกระทำการเยี่ยง “โจร” ซ้ำเติมบ้านเมืองที่ระส่ำระสายให้อาการหนักมากขึ้น ประชาชนพลเมืองผู้ใดที่ไม่ยอมเข้าด้วยพวกตน ก็จะถูกปล้น ถูกฆ่า กระทำทารุณ ความเดือดร้อนโกลาหลจึงเกิดขึ้นทั่วทุกหย่อมหญ้า ความชอบธรรมของกลุ่มโพกผ้าเหลืองถูกรินรอนลงเรื่อย ๆ เพราะการกระทำของพวกเขาเองไม่มีอีกแล้วกับคำว่า “คณะกู้ชาติ” “คณะปฏิวัติ” หรือ “คณะเปลี่ยนแปลง” เพราะความรุนแรงที่เขาสร้างขึ้นทำให้กลายเป็น “กบฏ” หรือ “โจร” อย่างเต็มตัว ใครต่อใครจึงพากันเรียก “โจรโพกผ้าเหลือง” พร้อมกับเรียกให้ “ทหาร” หรือ “ผู้กล้า” จำนวนมาก จับอาวุธลุกขึ้นมาปราบปราม
ความรุนแรง ได้สร้างความเกลียดชัง และทำลายความชอบธรรมของมวลมหาประชาชนกลุ่มนี้เสียแล้ว ... ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังอย่างเคร่งครัด อย่าให้มีความรุนแรงเกิดขึ้นเป็นอันขาด
แผ่นดินไม่สิ้นคนดี
โจโฉ เล่าปี่ และซุนเกี๋ยน ไม่เห็นด้วยกับแนวทางของมวลมหาประชาชน |
นายทหารใหญ่อย่าง โลติด ฮองฮูสง จูฮี โจโฉ และซุนเกี๋ยน คือกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางของกลุ่มโจรโพกผ้าเหลือง และอาสาออกปราบปรามอย่างแข็งขัน นอกจากนี้ประชาชนพลเมืองที่รักและหวงแหนแผ่นดินอย่าง เล่าปี่ กวนอู เตียวหุย ยังลุกขึ้นมาฝึกเพลงอาวุธ รวบรวมกำลังพล และออกอาสาปราบโจรด้วยตนเอง
หากมวลมหาประชาชนรักษาจุดยืนคือ “ความดี” คนดีย่อมยินดีที่และพร้อมที่จะเข้าร่วมด้วย แต่หากเมื่อใดที่มวลมหาประชาชนไม่สงวนความดีของตนแล้ว ... คนดีอาจจะลุกขึ้นมาต่อต้านท่านเสียเอง
แล้วใครจะกู้ชาติ ?
เล่าปี่ และซุนเกี๋ยน ช่วยกับปราบเตียวก๊ก |
วันนี้บ้านเมืองวุ่นวาย แบ่งแยกผู้รักชาติออกเป็นฝักเป็นฝ่าย กลายเป็นมวลมหาประชาชนหลายกลุ่มหลายสี มวลมหาประชาชนที่ดี จะต้องมีแนวทางที่เป็นธรรม ท่านต้องเสียสละ อดทนอดกลั้น และรักษาความดีให้มั่น เพราะ “ความชั่วมักแพ้ภัยตัวเองเสมอ” หาไม่แล้วสิ่งที่พากเพียรมาอาจ “สูญเปล่า” และท่านอาจจะกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้เหล่าทหารกล้าอย่าง โจโฉ ซุนเกี๋ยน เล่าปี่ กวนอู เตียวหุย ออกมา “กู้ชาติ”
กู้ชาติ... เพียงเพื่อรอความวุ่นวายรอบใหม่ที่สาหัสกว่า... เท่านั้นเอง .....
เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง
กรุณาแสดงความคิดเห็น