ประวัติย่อ และคารมคำคมของ เกียงอุย
ประวัติย่อของเกียงอุย
เกียงอุย (อังกฤษ: Jiang Wei; จีนตัวย่อ: 姜维; จีนตัวเต็ม: 姜維; พินอิน: Jiāng Wéi) เป็นตัวละครในวรรณกรรมจีนอิงประวัติศาสตร์เรื่องสามก๊กที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ยุคสามก๊กเกียงอุย เป็นผู้ที่มีสติปัญญาหลักแหลม รอบรู้กลวิธีรบเป็นอย่างดี เชี่ยวชาญการศึก และเก่งกาจในเพลงอาวุธ แม้แต่จูล่งยังต้องกล่าวชื่นชม มีความกตัญญูรู้คุณต่อบิดามารดา หน้าตาดี ไม่ใฝ่ในทางโลภ เคยวางกลซ้อนทับขงเบ้ง จนขงเบ้งต้องหาทางจัดการ อุปนิสัยส่วนตัวซื่อสัตย์ มีน้ำใจดี กล้าหาญ พร้อมตายได้ ทุกเมื่อ ใช้ทวนเป็นอาวุธคู่กาย
แต่เดิมนั้นเกียงอุยรับราชการอยู่กับม้าจิ้นเจ้าเมืองเทียนซุย ซึ่งอยู่ในแคว้นการปกครองของวุยก๊ก ขงเบ้งยกทัพมาเพื่อที่จะปราบวุยก๊ก ม้าจิ้นส่งเกียงอุยมารับมือกับขงเบ้ง ขงเบ้งเสียท่าเกียงอุย หลายครั้ง แต่ในที่สุดขงเบ้งวางแผน จับเกียงอุย โดยพาแม่ของ เกียงอุยมาเลี้ยงดู และให้แม่เกียงอุยช่วยเกลี้ยกล่อม ด้วยเกียงอุยมีความกตัญญูต่อมารดานั้นเอง เกียงอุยจึงใจอ่อน ยอมอยู่ฝ่ายจ๊กก๊กกับขงเบ้ง
เกียงอุยเป็นทหารคนสนิทใกล้ชิดขงเบ้งมากที่สุด ถ้าขงเบ้งไปที่ศึกไหนเกียงอุยย่อมอยู่ด้วยเสมอๆ ประกอบด้วยเกียงอุยเป็นคนสนิทและไว้ใจได้มากที่สุด ดังนั้นขงเบ้งจึงได้ถ่ายทอดวิชาที่เขารู้มากมาย ให้แก่เกียงอุย เกียงอุยจึงมีความรู้มากขึ้น ครั้นขงเบ้งรู้ตัวว่าชะตาตนเองไปไม่รอดแล้ว ก็มอบหมายให้เกียงอุยทำนุบำรุงแผ่นดินฮั่นแทนตน โดยให้เป็นแม่ทัพใหญ่แห่งเสฉวนแทน ซึ่งมีอำนาจทางการทหารทั้งหมด ต่อมาเกียงอุยก็ดำเนินรอยตามขงเบ้ง โดยที่ยกทัพจากเสฉวนเข้าตีวุยก๊ก ถึงหลายครั้งหลายคราแต่ก็ไม่สำเร็จ
ต่อมาวุยก๊กยกทัพเข้าตีเสฉวน โดยจงโฮยและเตงงายแม่ทัพแห่งวุย แบ่งเป็น 2 ทัพตี เสฉวน เกียงอุยรับมือกับจงโฮยทำให้เตงงายไปตามทางลัดอิมเป๋ง เข้าตีเสฉวน ยังไม่ ทันรบ พระเจ้าเล่าเสี้ยนยอมแพ้แก่เตงงายโดยเร็ว ทำให้เกียงอุยที่ได้รับตำแหน่งเป็นแม่ทัพไม่พอใจยิ่งนัก พยายามหาทางกู้เอกราชกลับมาโดยใช้จงโฮยเป็นสะพาน แต่ก็ไม่สำเร็จ เกียงอุยถูกล้อมด้วยทหารวุยก๊ก เกียงอุยจึงใช้กระบี่เชือดคอตัวเองตายพวกทหารของฝ่ายวุยก๊กจึงเอากระบี่ผ่าอกของเกียงอุยออกมาเห็นตับใหญ่คับหัวอกอยู่ มีดีใหญ่เท่าไข่ห่าน พวกทหารเหล่านั้นต่างคิดว่าเกียงอุยมีดีใหญ่กว่าคนธรรมดาทั่วไป จึงได้กล้าหาญเข้มแข็งสมเป็นทหารเอก ตอนที่เกียงอุยตายนั้นมีอายุ ได้ 63 ปี
คำคม เกียงอุย
- “ท่านว่าทั้งนี้ข้าพเจ้าไม่เห็นด้วย วันคืนปีเดือนล่วงไปไม่หยุดเลย จะคอยท่าให้ได้ทีก็จะแก่เสียเปล่า เมื่อไรจะได้ทีเล่าจึงจะยกไป”
- “เกียงอุยถอยใกล้ริมน้ำ แล้วพาทหารหนีเลียบฝั่งน้ำ ไปข้างตะวันตก จึงร้องประกาศแก่ทหารทั้งปวงว่าข้าศึกไล่มาใกล้อยู่แล้ว ทหารเราก็เป็นเชื้อชาติทหารแต่ล้วนดีๆ ฝีมือกล้าหาญ เคยทำสงครามมาแต่ก่อน เหตุใดครั้งนี้จึงยอมท้อข้าศึกนัก”
- “เรายกทัพไปทำการครั้งนี้ เสียทหารแลม้าศัสตราวุธมากมาย โทษอันนี้ใหญ่หลวงนัก เราจะทำโทษตัวเหมือนอย่างมหาอุปราชเสียเกเต๋งแก่สุมาอี้นั้นจึงจะควร”
- “ท่านเจรจาดังนี้ไม่ชอบ เสียทีเกิดมาให้หนักแผ่นดินเสียเปล่า ตัวเรานี้พระเจ้าเล่าเสี้ยน ชุบเลี้ยงมีพระคุณต่อเราเป็นอันมาก เราจะทำราชการสนองพระคุณกว่าจะสิ้นชีวิต”
- “เราเคยทำศึกมากับขงเบ้ง ชำนาญในกระบวนศึกเป็นอันมาก เวลาวานนี้เราก็แปลงกระบวนศึก ถึงสามร้อยหกสิบห้ากระบวน เตงงายก็เห็นฝีมืออยู่แล้ว ซึ่งให้หนังสือมาว่าจะออกตั้งกระบวนศึกรบกับเรานั้น เหมือนเอาหญ้ามาสู้ดาบอันคม เห็นเป็นกลอุบายลวงเราดอก”
- “ตัวข้าพเจ้านี้ตั้งใจจะทำการ สนองพระคุณให้สิ้นศัตรูจงได้ ควรหรือพระองค์มาเชื่อฟังอ้ายคนเล็กน้อยปากตลาด คิดสงสัยข้าพเจ้า”
- “เมื่อครั้งขงเบ้งเป็นมหาอุปราช ยกทัพไปทำการศึกที่เขากิสานถึงหกครั้งจนตัวตาย ก็เพราะคิดว่าเป็นข้าราชการแผ่นดินท่าน หาได้เห็นแก่ลาภสักการประโยชน์แก่ตัวไม่ บัดนี้เราจะยกไปตีเอาเมืองเตียวเจี๋ยงให้ได้ ถ้าแลผู้ใดขัดขวางเรา เราจะฆ่าผู้นั้นเสีย”
- “อันประเพณีทำการศึกนี้แพ้แลชนะย่อมมีเสมอกัน ครั้งนี้ถ้าแลทหารผู้ใดออกปากว่าย่อท้อแก่ข้าศึก ไม่ตั้งใจทำราชการโดยสุจริต เราจะฆ่าผู้นั้นเสีย”
- “พระองค์มาเชื่อฟังถ้อยคำฮุยโฮ ฮุยโฮคิดการทะนงใจนัก เห็นจะเหมือนครั้งพระเจ้าเลนเต้เมื่อมีขันทีสิบคนนั้น ขอพระองค์จงเร่งกำจัดอ้ายฮุยโฮเสียเถิด เมืองเสฉวนก็จะอยู่เย็นเป็นสุข แลซึ่งเมืองวุยก๊กนั้นก็จะได้โดยง่าย”
- “ท่านกริ่งใจทั้งนี้ก็ชอบอยู่ ข้าพเจ้ามาคิดเห็นว่า อันธรรมดานายมีความสงสัยบ่าวฉะนี้แล้ว ก็ย่อมมีอันตรายมาถึงเป็นมั่นคง”
- “อุบายของเราคิดไว้ตลอดแล้ว เทพดามิได้โปรดให้สำเร็จแกล้งผลาญชีวิตเราในครั้งนี้ เมื่อวาสนาหาไม่จะอยู่ไปไย ว่าดังนั้นแล้วก็เชือดคอตายเสียในทันใด”
- “ซึ่งท่านให้เอาขุนนางทั้งปวงมาขังไว้ในวัง ปรารถนาจะให้ลงใจด้วยกัน ข้าพเจ้าเห็นว่าสุจริตไม่ จะเอาไว้ให้เป็นเสี้ยนหนามอยู่หาต้องการไม่ เท็จจริงประการใดท่านก็มีปัญญาพิเคราะห์เห็นอยู่สิ้นทุกประการแล้ว ถ้าฆ่าเสียสิ้นทีเดียวจะมิพ้นราคีแก่ตัวหรือ”
กรุณาแสดงความคิดเห็น