ประวัติย่อ คารมและคำคมของ เตียวเสี้ยน
ประวัติย่อของ เตียวเสี้ยน
เตียวเสี้ยน (อังกฤษ: Diao chan; จีนตัวย่อ: 貂蝉; จีนตัวเต็ม: 貂蟬) เป็นตัวละครในวรรณกรรมจีนอิงประวัติศาสตร์เรื่องสามก๊ก บุตรบุญธรรมของอ้องอุ้น มีฉายานามว่า "จันทร์หลบโฉมสุดา" (จีน: 闭月 พินอิน: bì yuè) ซึ่งหมายถึง "ความงามที่ทำให้แม้แต่ดวงจันทร์ยังต้องหลบเลี่ยงให้"เตียวเสี้ยนเป็นหญิงรับใช้ที่พ่อแม่ตายแต่ยังเล็ก ได้อ้องอุ้นรับมาชุบเลี้ยง ปรากฏตัวครั้งแรกเมื่ออายุ 16 ปี ในตอนที่อ้องอุ้นทอดถอนหายใจด้วยห่วงใยในสถานการณ์บ้านเมืองยามดึก แล้วออกมาพบเตียวเสี้ยนนั่งร้องไห้กับเดือนอยู่ อ้องอุ้นถามว่า นังหนู ร้องไห้ด้วยเหตุใด อกหักเพราะความรักล่ะสิ เตียวเสี้ยนตอบว่า มิได้ นางร้องไห้เพราะสงสารอ้องอุ้นที่เหมือนบิดาตนกลุ้มใจ เมื่ออ้องอุ้นได้เห็นโฉมหน้าของเตียวเสี้ยนอย่างชัดเจนแล้วจึงอุทานว่า แผ่นดินมีคนมาช่วยแล้ว
อ้องอุ้นวางแผนให้เตียวเสี้ยนใช้มารยาหญิงทำให้ตั๋งโต๊ะและลิโป้แตกคอกันจนฆ่ากันเองในที่สุด โดยจะยกให้แก่ลิโป้ก่อน แล้วจึงยกให้ตั๋งโต๊ะ ซึ่งสุดท้ายทุกอย่างก็เป็นไปตามแผนที่อ้องอุ้นวางไว้ทุกประการ และหลังจากตอนนี้แล้ว เตียวเสี้ยนก็ไปเป็นภรรยาคนที่สองของลิโป้
ในปัจจุบันมีการวิเคราะห์ว่า เตียวเสี้ยนแตกต่างจากหญิงงามอีกสามคนในจำนวนหญิงงามสี่แผ่นดินของจีน เนื่องจากไม่ได้รับการยืนยันว่ามีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ อาจเป็นเพียงหญิงรับใช้ของตั๋งโต๊ะที่มีความสัมพันธ์กับลิโป้เท่านั้น
คำคม เตียวเสี้ยน
- “ข้าพเจ้าจะได้มีชู้มาคอยกันหามิได้ ตัวข้าพเจ้าเป็นทาสี ซึ่งท่านเลี้ยงข้าพเจ้าเป็นบุตรมาแต่น้อยนั้น พระคุณหาที่สุดมิได้ ทุกวันนี้ข้าพเจ้าก็คิดอยู่ว่า ถ้าท่านมีทุกข์สิ่งใดข้าพเจ้าจะสนองพระคุณท่าน ถึงมาตรว่าชีวิตจะตายแลกระดูกจะแหลกเป็นผงก็ดี ข้าพเจ้ามิได้เสียดายแก่ชีวิต”
- “หญิงรูปงามขับเสียงเพราะ ลิ้นจี่แต้มริมฝีปากชูสีขึ้น แลหยกสองอันถึงมาตรว่าไม่แกะเป็นรูปสิ่งใด ก็แอบเนื้อเย็นใจ พริกไทยนั้นเมล็ดเล็กก็จริง ถ้าลิ้มเข้าไปถึงลิ้นแล้วก็จะมีพิษเผ็ดร้อน”
- “ข้าพเจ้าเป็นผู้หญิง อุตส่าห์รักษาตัวมาจนได้เป็นภรรยาลิโป้ผู้บุตรท่าน ข้าพเจ้าก็เหมือนมารดาลิโป้ แลท่านจะยกข้าพเจ้าให้เป็นภรรยาลิโป้ผู้บุตรท่าน ข้าพเจ้าไม่ยอม อุปมาเหมือนท่านเขียนรูปนกยูง แล้วเอาหมึกมาทาให้ดำเสียสีไปฉะนี้ ข้าพเจ้าได้ความอัปยศนัก ซึ่งจะครองชีวิตอยู่ดูหน้าคนสืบไปนั้นไม่ได้”
- “ข้าพเจ้าได้ออกปากไว้ว่า จะสนองคุณท่าน อย่าว่าแต่จะเสียตัวเพียงนี้เลย ถึงจะตายก็ไม่เสียดายชีวิต ซึ่งท่านจะคิดประการใดนั้นก็ให้เร่งคิดเถิด ถ้าข้าพเจ้าได้ไปอยู่ด้วยตั๋งโต๊ะแล้ว ข้าพเจ้าจะคิดกลมารยาให้ลิโป้ฆ่าตั๋งโต๊ะเสียจงได้”
- “ข้าพเจ้าได้ยินลือชาปรากฏ แต่ชื่อท่านดังเสียงฟ้า ข้าพเจ้าเอามือปิดหูไว้ ด้วยกลัวอำนาจว่าเข้มแข็งกล้าหาญ ในการสงครามหาผู้ใดเสมอมิได้ บัดนี้ข้าพเจ้าได้เห็น แลฟังวาจาของท่านนั้นไม่สมกับคำลือ เมื่อพิเคราะห์ดูเห็นว่า ท่านกลัวอำนาจตั๋งโต๊ะเป็นอันมากอยู่ฉะนี้ เห็นจะคิดการไปมิตลอดเสียแล้ว”
- “ซึ่งจะทรมานในชาตินี้ ก็ยิ่งได้ความลำบากนัก เพราะเจ้ากรรมมาตามทัน ชาตินี้บุญน้อยแล้วมิได้อยู่ปรนนิบัติท่านผู้เป็นสามี ข้าพเจ้าจะขอตายไปให้พ้นความเวทนา เกิดมาชาติหน้าข้าพเจ้าจะขอเป็นภรรยาท่าน จะปรนนิบัติรักษาท่านตามความปรารถนาข้าพเจ้า”
กรุณาแสดงความคิดเห็น