เมืองเสฉวนแต่เดิมนั้นปกครองโดยเล่าเจี้ยง เจ้าเมืองผู้ไร้ความสามารถ กฎระเบียบต่าง ๆ หย่อนยาน ไม่เข้มงวด คนทำผิดก็มิได้รับโทษอันสมควรตามความผิด คนทำความดีก็มิได้รับการปูนบำเหน็จตามความชอบ ระบบราชการล้มเหลว การปกครองไร้สมรรถภาพ ในที่สุดเล่าเจี้ยงก็ไม่อาจปกครองเมืองได้อีก เพราะขุนนางหลายคนแปรพักต์ คิดจะยกเมืองให้เล่าปี่ปกครองแทน
เมืองเสฉวนแต่เดิมนั้นปกครองโดยเล่าเจี้ยง เจ้าเมืองผู้ไร้ความสามารถ กฎระเบียบต่าง ๆ หย่อนยาน ไม่เข้มงวด คนทำผิดก็มิได้รับโทษอันสมควรตามความผิด คนทำความดีก็มิได้รับการปูนบำเหน็จตามความชอบ ระบบราชการล้มเหลว การปกครองไร้สมรรถภาพ ในที่สุดเล่าเจี้ยงก็ไม่อาจปกครองเมืองได้อีก เพราะขุนนางหลายคนแปรพักต์ คิดจะยกเมืองให้เล่าปี่ปกครองแทนเมื่อกฎหมายกลายเป็นเรื่องตลก
ครั้นเล่าปี่ได้เมืองเสฉวนมาจากเล่าเจี้ยงแล้ว เล่าปี่ได้กล่าวแก่ขงเบ้งว่า "กฎหมายสำหรับเมืองเสฉวนนั้น เราจะให้เลิกเสีย ท่านจงเร่งแต่งกฏหมายใหม่สำหรับเมือง แต่ให้คาดโทษนั้นให้หนักขึ้นกว่าเก่า คนทั้งปวงจึงจะกลัวเกรงจะได้ทำตามกฏหมาย บ้านเมืองจึงจะราบคาบสืบไป"
ตั้งแต่นั้นมาเมืองเสฉวนก็สงบร่มเย็น เป็นสุขกว่าแต่ก่อน กฏหมายเข้มงวด แต่ก็ช่วยให้ "คนดีอยู่ง่าย คนชั่วอยู่ยาก" ประชาชนพลเมืองล้วนให้ความยอบรับนับถือในตัวเจ้าเมืองคนใหม่มาก
ในนิทานขำขันของจีน ก็มีเรื่องเล่าสนุกปาก เกี่ยวกับกฎหมายอันเข้มงวดของเล่าปี่นี้ด้วย
หม้อต้มเหล้า ชำเรากฎ
เล่าปี่ |
กฏหมายต้มเหล้าเข้มงวดและจริงจังขึ้นเรื่อย ๆ หนักจนถึงขนาดที่ว่า หากเจ้าหน้าที่ตรวจพบว่าในบ้านหลังใดมีหม้อต้มเหล้าอยู่ในบ้าน เจ้าของบ้านหลังนั้นจะต้องถูกจับโดยทันที แม้จะไม่มีหลักฐานว่าใช้ต้มเหล้าหรือไม่ก็ตาม ความเข้มงวดนี้ทำให้มีผู้บริสุทธ์ถูกจับขังคุกเป็นจำนวนมาก
"เกียงอุย" นายทหารเอกของเล่าปี่ เห็นความบกพร่องในตัวบทกฏหมายอันนี้ เขาจึงคิดหาทางแก้ไข
อยู่มาวันหนึ่งเกียงอุยจับตัว ชายวัยรุ่นหลายคน แล้วควบคุมตัวผ่านหน้าจวนของเล่าปี่ เสียงร้องไห้ โหยหวน เอะอะโวยวายของวัยรุ่นเหล่านั้น ทำให้เล่าปี่ต้องเดินออกมาดู
เด็กหนุ่มวัยรุ่นทั้งหลายจึงรีบกระทำคำนับ แล้วฟ้องร้องกับเล่าปี่ว่า พวกตนมิได้กระทำความผิดใด ๆ แต่กลับถูกเกียงอุยยัดเยียดความผิดและจับตัวมา อีกทั้งข้อหาที่ถูกจับยังร้ายแรงถึงขั้นประหารชีวิต เพราะเป็นข้อหา "กระทำชำเราสตรี"
เล่าปี่จึงถามเกียงอุยว่า เหตุใดจึงต้องยัดเยียดข้อหาฉกรรจ์ ให้กับวัยรุ่นเหล่านี้
เกียงอุยจึงว่า "วัยรุ่นพวกนี้ถูกจับกุมตัวขณะที่นั่งพูดคุยอยู่กับสตรีสองต่อสอง ข้าพเจ้าจึงจับกุมตัวมาในข้อหากระทำชำเราสตรี โดยใช้หลักเกณฑ์เฉกเช่นเดียวกับกฏหมายห้ามต้มเหล้า แล้วเราจับตัวผู้ที่มีหม้อต้มเหล้าอยู่ในบ้าน"
เล่าปี่ทำหน้าสงสัย เกียงอุยจึงชี้แจงต่อไปว่า
"เด็กหนุ่มเหล่านี้ ล้วนมีอุปกรณ์กระทำชำเราสตรีติดอยู่กับตัวทุกคน คนมีหม้อยังถูกจับ เด็กพวกนี้มี "เจ้านั่น" ข้าพเจ้าจึงต้องจับตัวพวกมันมา ขอท่านโปรดจงพิจารณาโทษด้วยเถิด"
เล่าปี่ ได้ฟังดังนั้นก็หัวเราะร่าเข้าใจในความหมายของเกียงอุย แล้วจึงสั่งให้ปล่อยตัวเด็กหนุ่ม พร้อมกับยกเลิกกฏหมายห้ามต้มเหล้า ตั้งแต่บัดนั้น ....
หมายเหตุ : เรื่องนี้เป็นเรื่องตลกซ้อน อย่าถือเป็นจริงเป็นจัง เพราะในเรื่องสามก๊ก เล่าปี่ไม่เคยเจอเกียงอุย ... !!!
ผู้ที่แย้งเรื่องนี้กับเล่าปี่ไม่น่าจะใช่เกียงอุย(jiang Wei)แต่น่าจะเปนกันหยง(Jiang yong)นะครับ
ตอบลบอ้างอิงจากหนังสือ"จดหมายเหตุสามก๊กตอนยอดกุนซือจ๊กก๊ก" ผู้ที่แย้งเรื่องกฎหมายต้มเหล้าน่ะคือกันหยงครับ
เพราะตามท้องเรื่องน่ะ กว่าเกียงอุยจะปรากฏตัวและเจ้าร่วมกับจ๊กก๊ก ก็เป็นช่วงหลังจากที่เล่าปี่เสียชีวิต และขงเบ้งก็ได้เป็นใหญ่แล้วนี่ครับ?
ขอบพระคุณมากครับ สำหรับข้อเท็จจริงที่มีประโยชน์ ซึ่งเรื่องเกียงอุยไม่เคยเจอเล่าปี่ ได้เขียนไว้ที่หมายเหตุท้ายบทความอยู่แล้วครับ
ลบ