“โจรจำนำข้าว” คือสมญานามของชายผู้หนึ่งในยุคสมัยสามก๊ก การกระทำของชายผู้นี้ เป็นการแปรเอาความเชื่อ ความรักและความศรัทธาของชาวบ้าน ให้กลายเป็น “ข้าว” เข้าสู่กระเป๋าตน เพื่อสั่งสมบารมีทางการเมือง สืบทอดต่อกันไปยังรุ่นลูก รุ่นหลาน
“โจรจำนำข้าว” คือสมญานามของชายผู้หนึ่งในยุคสมัยสามก๊ก การกระทำของชายผู้นี้ เป็นการแปรเอาความเชื่อ ความรักและความศรัทธาของชาวบ้าน ให้กลายเป็น “ข้าว” เข้าสู่กระเป๋าตน เพื่อสั่งสมบารมีทางการเมือง สืบทอดต่อกันไปยังรุ่นลูก รุ่นหลาน
โจรจำนำข้าว (Rice Thief, 米贼) - ชื่อ ๆ นี้ ไม่มีอยู่ในหนังสือสามก๊กภาษาไทย ของเจ้าพระยาพระคลัง (หน) แต่มีปรากฏอยู่ในหนังสือสามก๊กต้นฉบับ รวมทั้งหนังสือสามก๊กภาษาอังกฤษของนายบริวิท เทเลอร์ เห็นว่าเข้ากับสถานการณ์บ้านเมืองเรื่อง "โครงการรับจำนำข้าว" ณ ขณะนี้ จึงนำมาเล่าให้ฟัง
เรื่องนี้แท้จริงแล้วเกิดขึ้นจากลัทธิ ๆ หนึ่งของศาสนาเต๋าโบราณ ชื่อว่าลัทธิ “ห้าทะนานข้าวสาร” ซึ่งมีเจ้าลัทธิคือ “เตียวเหลง” ปู่ของเตียวฬ่อเจ้าเมืองฮันต๋ง นั่นเอง
เตียวเหลง เกษียณราชการมาอาศัยอยู่บนเขาโฉะเบงสัน ทางดินแดนฝั่งขวาของแม่น้ำในเขตฮันต๋ง เขาได้เขียนตำราในลัทธิเต๋าขึ้นมาเล่มหนึ่ง ในเบื้องต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อล่อลวงผู้คน
แต่ตำราเล่มนี้เขียนไว้ดีมาก ชาวบ้านชาวช่องจึงพากันมาเคารพบูชาเตียวเหลง ครั้นพอเตียวเหลงตาย “เตียวเหง” ผู้เป็นบุตรได้สืบทอดวิชาต่อมา ในหลักการของวิชานี้เหล่าลูกศิษย์สาวกจะต้องนำข้าวสารจำนวน 5 โตว่ (ประมาณ 50 ลิตร) มาบูชาครูก่อน คนยุคนั้นจึงเรียกเตียวเหง ว่า “โจรจำนำข้าว” (ในหนังสือสามก๊กฉบับสมบูรณ์ของคุณวรรณไว พัธโนทัยเรียก โจรข้าวสาร)
ต่อมาเมื่อเตียวเหงตาย "เตียวฬ่อ" บุตรชายจึงได้สืบทอดตำแหน่งผู้นำลัทธิ เขาตั้งตนเป็น “มหาวิสุทธาจารย์” แล้วเรียกเหล่าสาวกธรรมดาทั่วไปว่า “ไพร่พลปีศาจ” ใครเป็นหัวหน้ากลุ่มก็เรียก “หัวหมู่เซ่นเหล้า” ใครเกณฑ์คนเข้าลัทธิได้มากก็จะได้เป็น “จ่าเซ่นเหล้า” กำกับดูแลกันเป็นลำดับชั้น ด้วยความซื่อตรง จริงใจ ไม่มีการล่อลวงแต่อย่างใด
เตียวฬ่อ ผู้รับจำนำข้าว |
ลัทธินี้ได้จัดตั้งสถานแห่งหนึ่งทำเป็นการกุศล จัดข้าวปลาอาหารให้กับผู้ยากไร้ ได้นำไปหุงหากินตามความเหมาะสม ใครผู้ใดละโมบโลภมากนำไปเกินความจำเป็นจะมีความผิด ใครทำผิดเกินสามครั้งจะต้องถูกลงโทษ พวกเขาปกครองกันเองภายใต้การดูแลของหัวหมู่เซ่นเหล้า โดยไม่มีหน่วยงานราชการใดมากำกับ
ขนบธรรมเนียม ลัทธินี้แพร่หลายอยู่ในเมืองฮันต๋งอยู่นาน 30 ปี และด้วยความห่างไกลจากเมืองหลวง ยากแก่การปกครองดูแล ทางราชการจึงแต่งตั้งให้เตียวฬ่อเป็น “พระยาปกปักษ์ทักษิณ” และเจ้าเมืองฮันเหลง เพื่อรวบรวมส่วยส่งให้เมืองหลวง
“โจรจำนำข้าว” เกิดขึ้นมาจากการล่อลวง แต่ต่อมาภายหลังกลายมาเป็นลัทธิความเชื่อที่เป็นเหตุเป็นผล เกื้อกูลสังคม ดูแลผู้ยากไร้ให้มีกินมีใช้ ผู้คนรักใคร่บูชา เตียวฬ่อเจ้าลัทธิภูมิใจในวิชาประชานิยมของตน จึงคิดตั้งตนเป็น “พระเจ้าฮานเหลงอ๋อง” ลัทธินี้จึงกลายสภาพเป็น “กบฏ”
ร้อนให้โจโฉยกทัพมาปราบ เมื่อโจโฉปราบราบคาบแล้วไม่เอาความ เนื่องจากเห็นว่าเตียวฬ่อและลัทธินี้เป็นสิ่งดี เขาจึงตั้งเตียวฬ่อให้เป็นเจ้าพระยาไปดูแลเมืองปาต๋ง เตียวฬ่อจึงสามารถเผยแพร่ลัทธินี้ได้เรื่อยมา
“โจรจำนำข้าว” ในสามก๊กคือปรากฏการณ์ทางความเชื่อ และความศรัทธาครั้งใหญ่ ซึ่งจากความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนนั้น การที่เรียกหัวหน้าลัทธิว่า "โจร" อาจจะเป็นเพราะลัทธินี้เริ่มต้นจากการล่อลวง การไม่ยอมรับของรัฐและประชาชนบางส่วน รวมทั้งต่อมามีสถานะเป็นกบฏด้วย คล้ายกับเมื่อครั้งกบฏ "โจรโพกผ้าเหลือง" แต่ที่เหนือกว่าคือ ลัทธินี้สามารถสืบทอดอำนาจกันได้ในครอบครัวมาอย่างยาวนาน จากรุ่นปู่ มารุ่นพ่อ รุ่นลูก ไม่ใช่แค่จาก "พี่สู่น้อง" และยังคงเหลือมาจนถึงปัจจุบัน (ปัจจุบันมีผู้นำลัทธิเป็นรุ่นที่ 65 แล้ว)
"จำนำข้าว" ในสมัยสามก๊กคือของจริง มีคุณวิเศษ แลไม่เคยขาดทุน !?
เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง
"จำนำข้าว" ประโยชน์ถึงมือชาวนาจริงอยู่ แต่ที่แน่ ๆ คือประเทศ "ขาดทุน" อย่างน้อย 200,000,000,000 บาท ใครเห็นงามย่อมผิดวิสัย |
ก็รัฐมนตรีของเราคือ แชมป์โต้คารมมัธยมศึกษาเลยนะท่าน แถมตำแหน่งสภาโจ๊ก
ตอบลบณัฐวุฒิเป็นคนมีความรู้ความสามารถ แต่งานสำคัญบางอย่างก็ต้องยอมรับสภาพ ว่าตนเองมือไม่ถึงและไม่เหมาะสมกับงานนั้น
ลบรัฐบาลควรใช้คนให้ถูกกับงาน ส่วนตัวเขาเองควรจะเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง ระหว่าง รมต. หรือ แกนนำ
เรื่องชาติเป็นเรื่องสำคัญ อย่าทำทีเล่นทีจริง ผิดแบบนี้ไม่ใช่เรื่องน่าอภัย
ใช่ครับดังคำขวัญที่ว่า right man to the right job ไม่ใช้ประโยคต่างตอบแทน เหมือนที่กำลังเป็นอยู่ตอนนี้
ลบจะว่าไปแล้วก็มีอยู่เยอะที่ขัดตาหลายคนแม้กระทั้งผู้นำเองก็ไม่เว้น
คุณบัญชาจะพาผมออกทะเลไปเรื่อย ๆ .... ผมต้องขออนุญาตพายเรือกลับเข้าฝั่งก่อน
ลบโครงการรับจำนำข้าวเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะช่วยเหลือเกษตรกร ให้ได้มีรายได้ที่มั่นคง ลดช่องว่างระหว่างคนรวย-คนจน
เรื่องการขาดทุนนั้น มันเป็นเรื่องปรกติ เพราะเป็นการนำเงินภาษีของรัฐไปช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งก็ขาดทุนกันมาทุกรัฐบาล
ปัญหาก็คือ "ความโปร่งใส" ของโครงการ เพราะรัฐบาลนี้ได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบและวิธีการซื้อ ทำให้เกิดช่องโหว่ที่เอื้อต่อการทุจริต คอรัปชั่น
อีกทั้งเมื่อมีการตรวจสอบ วิธีการดำเนินการ และรายละเอียดการซื้อขาย ผู้ที่เกี่ยวข้องก็ไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนได้สักราย...
ซ้ำร้ายยังตอบว่าเป็น "ความลับ"
นี่เป็นเรื่องของการบริหารเงินภาษีของประชาชน ไม่ใช่เรื่องความมั่นคงระหว่างประเทศ ไม่ใช่ว่าเราจะไปรบราฆ่าฟันใคร
เรื่องมันควรจะโปร่งใส แต่กลับกลายเป็นเรื่องปกปิด กลายเป็นความลับ .... ปัญหาจึงเกิด
การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง ... ผมขอหยุดการวิจารณ์ไว้เท่านี้ และขอกลับเข้าสู่โหมด "สามก๊ก" เหมือนเดิมนะครับ...
ดีสำหรับชาวนาที่ถูกกดขี่มานาน กู้เงินหลวงมาซื้อปุ๋ยห่วยๆมาทำนาก็ได้ผลผลิตห่วยๆขายไม่ได้ราคาขาดทุน เป็นวัฎจักรทาสอยู่ร่ำไป ให้ชาวนาได้ลืมตาอ้าปากบ้าง ถ้าชาวนารวยขึ้นมีเงินซื้อเครื่องมืออุปกรณ์ทำนาและปุ๋ยดีๆ ข้าวจะได้ดีขึ้นมีคุณภาพและผลผลิตที่เพิ่มขึ้นเดี๋ยวมันก็ยกระดับขึ้นกันหมด เงิน2แสนล้านหรือมากกว่านี้พวกโกงกินกันมากี่รุ่นกี่สมัยแล้วไม่เห็นจะดิ้นออกมาต่อสู้เพื่อประชาชนเลย ...ขาดทุนเพื่อชาวนาประชาชนมันจะเป็นไร
ตอบลบการขาดทุนเป็นเรื่องปกติในการช่วยเหลือเกษตรกรครับ ซึ่ง ณ ตอนนี้อาจจะยังสรุปอะไรไม่ได้ เราต้องติดตามผลและช่วยกันตรวจสอบ ไม่ให้มีการใช้เงินภาษีของประชาชน (เรา) ไปในทางมิชอบ กันต่อไปครับ
ลบส่วนวัฎจักรทาส ต้องแก้ด้วยการให้ความรู้ และเทคโนโลยี ถ้าให้แต่เงินแบบเปล่า ๆ ปลี้ ๆ ปีหน้าหรืออีกกี่สิบปี ก็คงขาดทุนเป็นวัฎจักร.....
ปล. ผมอุตส่าห์จะออกจากมุมการเมือง คุณ Joinmart Thai ก็เข้ามาแหย่อีกแล้ว ... เรื่องเตียวฬ่อโจรจำนำข้าวเลยไม่มีใครถามเลย
jointmart thai ขาดทุนเพื่อชาวนาประชาชนมันจะเป็นไร เห็นด้วยครับ ปรกติชาวนาจะขาดทุน Samkok Wittaya เรื่องเตียวฬ่อโจรจำนำข้าวเลยไม่มีใครถามเลย ต้องเอาใจช่วยเรื่องจำนาข้าวก่อน ค่อยถามทีหลังครับ
ตอบลบก็รัฐมนตรีของเราคือ แชมป์โต้คารมมัธยมศึกษาเลยนะท่าน แถมตำแหน่งสภาโจ๊ก เอาเหตุผลมาพูดกันดีกว่า คุณบัญชา เงาเดช อย่าไร้สาระพูดเพ้อจ้อ
ตอบลบสงสัยมานานเเล้วว่า เตียวฬ่อ เป็นผู้มีอิทธิพลในแถบนั้น และได้รับการสนับสนุนจากประชาชน เผลอๆจะดีกว่าโจรโพกผ้าเหลืองด้วยซ้ำ แต่อะไรที่ทำให้เขาไม่สามารถขยายดินแดนได้ และในแง่การทหารเราแทบจะไม่มีความโดดเด่นเลย ทั้งๆที่ถามว่าแกมีความทะเยอทะยานมั้ย มีแน่นอน ไม่งั้นแกไม่ตั้งลัทธิหรอกฮะ การทหารแข็งแกร่งมั้ย ก็ควรอยู่ ไม่งั้นเสร็จ ก๊กแบบม้าเท้ง ลิฉุย โจโฉไปนานแล้ว
ตอบลบสรุปได้มั้ยฮะว่าแกเป็นก๊กที่ใช้โอกาสได้สิ้นเปลืองและสูญเปล่าที่สุดก๊กนึง
สรุปได้ถูกต้องแล้วครับ และที่สำคัญคือ"ช้า" เพราะกว่าจะคิดตั้งตัวเป็นใหญ่ โจโฉ เล่าปี่ ซุนกวน ก็ไปกันไกลแล้ว
ลบเรารู้สึกนะ แค่รู้สึกเฉยๆ ว่าคนไทยอะไรก็หวังพึ่ง คนอื่นพึ่งรัฐมากเกินไป ข้าวราคาตกกลับยิ่งพยายามผลิตให้มากขึ้นเพื่อชดเชย มันก็ยิ่งแย่ไปใหญ่ เราดูรายการทีวีนะแค่ทีวี มีชาวไร่จนๆที่เค้าปลูกแต่ข้าวโพด ปลูกเท่าไหร่ก็ไม่มีเงินเหลือซักทีเพราะราคามันตกต่ำ แต่ลูกชายของชาวไร่ซึ่งพิการซีกหนึ่งกลับคิดว่าเมื่อข้าวโพดมันแย่ทำไมไม่ปลูกอย่างอื่น สุดท้ายเค้าเปลี่ยนไปปลูกสตอเบอรี่ 3คนพ่อแม่ลูกมีรายได้เดือนละ40000 แค่เปลี่ยนวิธีคิดชีวิตเปลี่ยนก็ไปมากมาย
ตอบลบ