สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร กรมพระยาดำรงราชานุภาพ (21 มิถุนายน พ.ศ. 2405 - 1 ธันวาคม พ.ศ. 2486) ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่ 57 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาชุ่ม เมื่อวันเสาร์ แรม 9 ค่ำ เดือน 7 ปีจอ ตรงกับวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2405 พระองค์ยังทรงเป็นต้นราชสกุลดิศกุล
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ทรงเขียนคำนำสำหรับหนังสือสามก๊ก ฉบับพิมพ์ พ.ศ. 2471 โดยในขณะนั้นท่านดำรงตำแหน่งเป็น นายกราชบัณฑิตยสภา ซึ่งคำนำหนังสือสามก๊กดังกล่าวนี้เป็นคำนำที่มีคุณค่ายิ่งทางประวัติศาสตร์ เพราะเป็นคำนำในการพิมพ์หนังสือสามก๊กที่ ราชบัณฑิตยสภา ได้นำมาชำระใหม่เป็นครั้งแรก ... เห็นว่ามีประโยชน์จึงขอบันทึกไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร กรมพระยาดำรงราชานุภาพ (21 มิถุนายน พ.ศ. 2405 - 1 ธันวาคม พ.ศ. 2486) ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่ 57 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาชุ่ม เมื่อวันเสาร์ แรม 9 ค่ำ เดือน 7 ปีจอ ตรงกับวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2405 พระองค์ยังทรงเป็นต้นราชสกุลดิศกุล
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ทรงเขียนคำนำสำหรับหนังสือสามก๊ก ฉบับพิมพ์ พ.ศ. 2471 โดยในขณะนั้นท่านดำรงตำแหน่งเป็น นายกราชบัณฑิตยสภา ซึ่งคำนำหนังสือสามก๊กดังกล่าวนี้เป็นคำนำที่มีคุณค่ายิ่งทางประวัติศาสตร์ เพราะเป็นคำนำในการพิมพ์หนังสือสามก๊กที่ ราชบัณฑิตยสภา ได้นำมาชำระใหม่เป็นครั้งแรก ... เห็นว่ามีประโยชน์จึงขอบันทึกไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
สามก๊ก
เจ้าพระยาพระคลัง (หน)แต่งจากพงศาวดารจีน
สมัย พ.ศ. 736 จน พ.ศ. 823
ฉบับหอพระสมุด
คำนำ
(ฉบับพิมพ์ พ.ศ. ๒๔๗๑)
สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี เสด็จประทับอยู่ด้วยสมเด็จพระโอรส ณ วังบางขุนพรหมมาแต่รัชกาลที่ ๖ ทรงประชวรสิ้นพระชนม์เมื่อวันเสาร์ที่ ๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๐ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดให้เชิญพระศพเข้าไปประดิษฐานไว้บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวัง แล้วดำรัสสั่งให้สร้างพระเมรุที่ท้องสนามหลวง กำหนดจะพระราชทานเพลิงพระศพในต้น พ.ศ. ๒๔๗๑ สมเด็จพระเจ้าพี่ยาเธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ทรงปรารภการพระกุศลอันจะทรงบำเพ็ญสนองพระคุณสมเด็จพระชนนี ดำรัสปรึกษากับข้าพเจ้าถึงเรื่องหนังสือซึ่งจะทรงพิมพ์เป็นมิตรพลีสำหรับประทานในงานพระเมรุ โปรดเรื่องสามก๊ก ด้วยทรงพระราชดำริว่า เป็นหนังสือซึ่งนับถือกันมาว่าแต่งดีทั้งตัวเรื่องแลสำนวนที่แปลเป็นภาษาไทย ถึงได้ใช้เป็นตำราเรียนอยู่อีกเรื่องหนึ่ง แต่ทุกวันนี้ จะหาฉบับดีไม่ได้เสียแล้ว ด้วยเป็นแต่พิมพ์ต่อ ๆ กันมามิได้ชำระต้นฉบับที่พิมพ์ในชั้นหลัง ดำรัสว่า ถ้าหากราชบัณฑิตยสภารับชำระต้นฉบับแลจัดการพิมพ์ใหม่ให้ทันได้ทั้งเรื่องก็จะทรงรับบริจาคทรัพย์พิมพ์เรื่องสามก๊กเป็นหนังสือสำหรับประทานเรื่องหนึ่งในงานพระเมรุสมเด็จพระชนนี ข้าพเจ้าได้ฟังมีความยินดีรู้สึกว่าเป็นหน้าที่ของราชบัณฑิตยสภาจะต้องสนองพระประสงค์ ด้วยหนังสือสามก๊กเป็นหนังสือเรื่องสำคัญแลเป็นหนังสือเรื่องใหญ่ถึงสี่เล่มสมุดพิมพ์ จะหาผู้อื่นรับพิมพ์ทั้งเรื่องยากยิ่งนัก ถ้าพ้นโอกาสนี้แล้วก็ไม่สามารถกำหนดไว้ว่า เมื่อใดจะได้ชำระแลพิมพ์หนังสือเรื่องสามก๊กให้กลับคืนดีดังเก่า ข้าพเจ้าจึงกราบทูลรับจะทำถวายให้ทันตามพระประสงค์
เมื่อกราบทูลรับแล้ว มาพิเคราะห์ดูเห็นว่า การที่จะพิมพ์หนังสือสามก๊กฉบับงานพระเมรุสมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าครั้งนี้มีข้อสำคัญซึ่งควรคำนึงอยู่สองข้อ ข้อหนึ่ง คือ นักเรียนทุกวันนี้ การเรียนแลความรู้กว้างขวางกว่าแต่ก่อน หนังสือสามก๊กฉบับพิมพ์ใหม่จะต้องให้ผู้อ่านได้ความรู้ยิ่งขึ้นกว่าอ่านฉบับที่พิมพ์ไว้แต่เดิม จึงจะนับว่าเป็นฉบับดีสมกับที่พิมพ์ในงานพระเมรุสมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า ความข้อนี้เห็นทางที่จะทำได้มีอยู่ ด้วยอาจตรวจสอบหนังสือต่าง ๆ หาความรู้อันเป็นเครื่องประกอบหนังสือสามก๊กมาแสดงเพิ่มเติม แลการส่วนนี้เผอิญมีผู้สามารถอยู่ในราชบัณฑิตยสภา คือ อำมาตย์โท พระเจนจีนอักษร (สุดใจ ตัณฑากาศ) ซึ่งเชี่ยวชาญทั้งภาษาจีน แลได้เคยอ่านหนังสือจีนเรื่องต่าง ๆ มาก รับเป็นผู้เสาะหาความรู้ทางฝ่ายจีน แลมีศาสตราจารย์ยอร์ช เซเดส์ อีกคนหนึ่งรับช่วยเสาะหาทางประเทศอื่น ตัวข้าพเจ้าเสาะหาทางฝ่ายไทย ช่วยกันค้นคว้าหาความรู้เนื่องด้วยหนังสือเรื่องสามก๊กอันยังมิได้ปรากฏแพร่หลายมาแต่ก่อนได้อีกหลายอย่าง ถ้าว่าตามแบบที่เคยทำมา ความรู้ที่ได้เพิ่มเติมเช่นนี้มักแสดงไว้ใน "คำนำ" หรือ "คำอธิบาย" ข้างหน้าเรื่อง แต่ความอันจะพึงกล่าวด้วยเรื่องสามก๊ก ถ้าเรียบเรียงให้สิ้นกระแสซึ่งจะเป็นประโยชน์ในทางความรู้ เห็นจะเป็นหนังสือมากเกินขนาดที่เคยลงในคำนำหรือคำอธิบาย เมื่อคิดใคร่ครวญว่าจะทำอย่างไรดี ข้าพเจ้าหวนรำลึกถึงครั้งสมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าทรงบำเพ็ญพระกุศลฉลองพระชันษาครบหกสิบปีเมื่อระกา พ.ศ. ๒๔๖๔ โปรดให้พิมพ์หนังสือบทละครเรื่องอิเหนาะพระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยประทานเป็นมิตรพลี ครั้งนั้น ข้าพเจ้าได้แต่งเรื่องตำนานละครอิเหนาพิมพ์เพิ่มเป็นภาคผนวกถวายอีกเล่มหนึ่ง สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าโปรด งานพระเมรุครั้งนี้ข้าพเจ้าก็นึกปรารถนาอยู่ว่า จะรับหน้าที่ทำการอย่างใดอย่างหนึ่งพอสนองพระคุณสมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าซึ่งได้มีมาแก่ตัวข้าพเจ้าตลอดจนเหล่าธิดาหาที่จะเปรียบปานได้โดยยาก ก็นึกขึ้นได้ว่า ถ้าลงแรงแต่งตำนานหนังสือสามก๊กพิมพ์เพิ่มเป็นภาคผนวกถวายบูชาพระศพเหมือนอย่างเคยแต่งเรื่องตำนานละครอิเหนาถวายเมื่อพระองค์ยังเสด็จดำรงพระชนม์อยู่ เห็นจะสมควรยิ่งกว่าอย่างอื่น อันนี้แลเป็นมูลเหตุให้ข้าพเจ้าแต่งตำนานหนังสือสามก๊กซึ่งพิมพ์ในสมุดเล่มนี้
ความสำคัญอีกข้อหนึ่งนั้น คือ การที่จะชำระต้นฉบับแลพิมพ์หนังสือสามก๊กฉบับงานพระเมรุครั้งนี้ ด้วยหนังสือสามก๊กเป็นเรื่องใหญ่ถึงสี่เล่มสมุดพิมพ์ และจะต้องพิมพ์ให้แล้วภายในเวลามีกำหนด ตัวพนักงานการพิมพ์หนังสือซึ่งมีประจำอยู่ในราชบัณฑิตยสภาไม่พอการ ต้องหาบุคคลภายนอกช่วย เผอิญได้มหาเสวกโท พระยาพจนปรีชา (ม.ร.ว.สำเริง อิศรศักดิ์ ณ อยุธยา) ซึ่งเป็นนักเรียนมีเกียรติมาแต่ก่อน มีแก่ใจรับหน้าที่เป็นบรรณาธิการ ด้วยเห็นว่า การพิมพ์หนังสือสามก๊กจะเป็นสาธารณประโยชน์อย่างสมเด็จพระเจ้าพี่ยาเธอทรงพระดำริ ข้าพเจ้าจึงได้มอบการให้พระยาพจนปรีชาทำตั้งแต่ชำระตั้นฉบับตลอดจนตรวจฉบับพิมพ์ แลให้รองอำมาตย์ตรี ขุนวรรรรักษ์วิจิตร (เชย ชุมากร) เปรียญ รองบรรณารักษ์ในหอพระสมุดวชิราวุธ เป็นผู้ช่วยในการนั้น
หนังสือซึ่งใช้เป็นต้นฉบับชำระใช้หนังสือสามก๊กฉบับหมอบรัดเลพิมพ์ครั้งแรก ฉบับหนึ่ง หนังสือนี้ที่ในหอพระสมุดฯ มีไม่บริบูรณ์ ต้องเที่ยวสืบหาตามบรรดาท่านผู้ที่สะสมหนังสือทั้งฝ่ายในพระบรมมหาราชวังแลฝ่ายหน้า ข้าพเจ้าขอถือโอกาสนี้แสดงความขอบคุณด้วย ไม่ว่าท่านผู้ใดเมื่อได้ทราบว่าต้องการฉบับเพื่อจะพิมพ์ในงานพระเมรุสมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าก็ยินดีให้ยืมตามประสงค์ทุกราย ที่ยอมยกหนังสือนั้นให้เป็นสิทธิ์แก่หอพระสมุดฯ ทีเดียวก็มี อาศัยเหตุนี้ จึงได้ฉบับพิมพ์ครั้งแรกของหมอบรัดเลมาครบครัน นอกจากนั้น ให้เอาหนังสือฉบับเขียนของเก่าสอบด้วย อีกฉบับหนึ่ง บรรดาฉบับเขียนที่มีอยู่ในหอพระสมุดฯ ฉบับของกรมหลวงวรเสรฐสุดาซึ่งสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ประทานไว้ในหอพระสมุดฯ เป็นบริบูรณ์ดีกว่าเพื่อน ได้ใช้ฉบับนี้สอบกับฉบับพิมพ์ครั้งแรกของหมอบรัดเลเป็นสองฉบับด้วยกัน แลยังได้อาศัยฉบับพิมพ์ภาษาจีนด้วยอีกฉบับหนึ่ง สำหรับสอบในเมื่อมีความบางแห่งเป็นที่สงสัย หรือต้นฉบับภาษาไทยแย้งกันแต่ชี้ไม่ได้ว่าฉบับไหนถูก
เนื่องในการชำระต้นฉบับนั้น ข้าพเจ้าคิดเห็นว่า สิ่งซึ่งควรจะเพิ่มเติมเจ้าในฉบับพิมพ์ใหม่ให้ดียิ่งขึ้นด้วยไม่ต้องแก้หนังสือฉบับเดิมมีอยู่บางอย่าง เป็นต้นว่า ศักราชซึ่งอ้างถึงในฉบับเดิมบอกเป็นปีรัชกาลของพระเจ้าแผ่นดินตามประเพณีนับศักราชอย่างจีน ไทยเราเข้าใจได้ยาก จึงให้คำนวณเป็นพุทธศักราชพิมพ์แทรกลงไว้ให้เข้าใจง่ายขึ้นอย่างหนึ่ง อีกอย่างหนึ่ง ในฉบับเดิมความบางแห่งกล่าวเข้าใจยาก ได้ให้ลงอธิบายหมายเลขพอให้เข้าใจความง่ายขึ้น อนึ่ง ข้าพเจ้าคิดเห็นว่า หนังสือไทยเรื่องต่าง ๆ ซึ่งพิมพ์กันในปัจจุบันนี้ที่นับว่าดีมักมีรูปภาพ แลรูปภาพเรื่องสามก๊กจีนก็ชอบเขียนไว้พอจะหาแบบอย่างได้ไม่ยาก จึงได้เลือกรูปภาพในหนังสือสามก๊กจีนจำลองมาพิมพ์รูปภาพตัวบุคคลไว้ในสมุดตำนานนี้ แลพิมพ์รูปภาพแสดงเรื่องไว้ในหนังสือสามก๊กฉบับงานพระเมรุให้เป็นฉบับมีรูปภาพผิดกับฉบับอื่นซึ่งเคยพิมพ์มาแต่ก่อนด้วย
การพิมพ์นั้นได้ตกลงให้โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากรพิมพ์ เพราะฝีมือดีแลทำเร็ว ฝ่ายรองเสวกเอก พระโสภณอักษรกิจ (เล็ก สมิตสิริ) ผู้เป็นเจ้าของโรงพิมพ์ เมื่อทราบว่า ข้าพเจ้าแต่งตำนานเป็นภาคผนวกจะพิมพ์อีกเรื่องหนึ่ง มาขอพิมพ์เป็นส่วนของตนถวายในงานพระเมรุสมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าครั้งนี้ ส่วนการทำรูปภาพ นายพลตรี พระยาภักดีภูธร เจ้ากรมแผนที่ทหารบก รับทำแม่พิมพ์ตลอดจนรับพิมพ์แผนที่ประเทศจีนสมัยสามก๊กสำหรับหนังสือตำนานเล่มนี้ด้วย
นอกจากที่ได้พรรณนามา ยังมีท่านผู้อื่นได้ช่วยเมื่อแต่งหนังสือนี้ ขอแสดงความขอบคุณ คือ ท่านกุยชิโร ฮายาชี อัครราชทูตญี่ปุ่น ได้ช่วยสืบเรื่องแปลหนังสือสามก๊กเป็นภาษาญี่ปุ่น พระวิทยประจง (จ่าง โชติจิตรกะ) ได้ช่วยเขียนอักษรไทยเทียมจีน แลรองอำมาตย์ตรี สมบุญ โชติจิตร นายเวรวิเศษราชบัณฑิตยสภา เป็นผู้เขียนแลดีดพิมพ์หนังสือให้ข้าพเจ้าด้วย
ราชบัณฑิตยสภามั่นใจว่า ท่านทั้งหลายบรรดาที่ได้รับประทานหนังสือสามก๊กฉบับงานพระเมรุสมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าตลอดจนผู้ซึ่งจะได้อ่านด้วยประการอย่างอื่นคงจะถวายอนุโมทนาในการที่สมเด็จพระเจ้าพี่ยาเธอ เจ้าฟ้าฯ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ได้โปรดให้พิมพ์หนังสือสามก๊กฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งเนื่องในการกุศลบุญราศีทักษิณานุประทานซึ่งทรงบำเพ็ญสนองพระคุณสมเด็จพระชนนีครั้งนี้ทั่วกัน
นายกราชบัณฑิตยสภา
วันที่ ๓๑ มีนาคม พระพุทธศักราช ๒๔๗๐
กรุณาแสดงความคิดเห็น