ในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ มีผู้นำที่ถูกลอบสังหารมาแล้วมากมายหลายท่าน รอดบ้าง ไม่รอดบ้าง ก็ล้วนแล้วแต่บุญแต่กรรม ที่กระทำมาแต่ปางก่อน ซึ่งการที่จะมีใครคิดก่อการลอบสังหารผู้นำนั้น มีเพียงสองกรณีคือ ผู้นำคนนั้นดีเด่นจนล้ำหน้า เข้าทำนองดีเด่นจนเป็นภัย กับผู้นำที่สุดแสนชั่วช้า เลวทรามจนผู้คนเกลียดชังกันครึ่งบ้านค่อนเมือง
ในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ มีผู้นำที่ถูกลอบสังหารมาแล้วมากมายหลายท่าน รอดบ้าง ไม่รอดบ้าง ก็ล้วนแล้วแต่บุญแต่กรรม ที่กระทำมาแต่ปางก่อน ซึ่งการที่จะมีใครคิดก่อการลอบสังหารผู้นำนั้น มีเพียงสองกรณีคือ ผู้นำคนนั้นดีเด่นจนล้ำหน้า เข้าทำนองดีเด่นจนเป็นภัย กับผู้นำที่สุดแสนชั่วช้า เลวทรามจนผู้คนเกลียดชังกันครึ่งบ้านค่อนเมือง
เตียวหุย น้องคนสุดท้องของ “สามพี่น้องร่วมสาบาน” เป็นหนึ่งในผู้นำที่ถูกลอบสังหาร ส่วนผู้ที่ก่อการก็ไม่ต้องไปตามสืบ ตามจับ หรือโยนความผิดไปให้คนอื่นคนไกล เพราะผู้ที่สังหารเตียวหุย ก็คือ ฮอมเกียง และเตียวตัด ลูกน้องในสังกัด ที่อกหัก สิ้นศรัทธาและผิดหวังในความยุติธรรมของท่านผู้นำ นั่นเอง
เตียวหุย |
โชคดีที่มีผู้ถือตรามาจากเมืองหลวง เป็นตราตั้งให้เตียวหุยเป็นเจ้าเมืองลองจิ๋วชื่อน่ารัก ๆ ว่า “กีกี้จงกุ๋น” อาการบ้าคลั่งจึงทุเลาลง และทำให้เตียวหุยตัดสินใจจะยกทัพไปเมืองเสฉวน เพื่อขอชักชวนให้เล่าปี่ยกทัพไปแก้แค้นให้กวนอู เล่าปี่ก็เห็นชอบแล้วสั่งสอนให้โอวาท ที่กลายเป็นดั่งคำสอนสุดท้ายและคำพยากรณ์ว่า
“ ท่านเมาสุราแล้วมีโมโหดุดันนัก วัดแวงโลดเต้นถูกคนป่วยเจ็บตายก็มี ทำดังนี้อันตรายจะเกิดมีแก่ท่าน แต่นี้สืบไปในเบื้องหน้าจะทำการสิ่งใด ให้พิเคราะห์ดูผิดแลชอบ โอบอ้อมเอาใจทหารจึงจะควร อย่าทำหยาบเหมือนแต่หลัง ”
เตียวหุยได้พรจากเล่าปี่แล้ว ก็กลับมาที่เมืองลองจิ๋ว แล้วละเมิดพรนั้นทันที โดยการสั่งให้ทหารเตรียมเครื่องศัสตราวุธ ม้าขาว ธงขาว เครื่องนุ่งห่มขาวให้พร้อมในสามวันเพื่อให้เป็นกองทัพไว้ทุกข์อันสง่างาม พอรุ่งเช้ามีนายทหารสองคนชื่อ ฮอมเกียง เตียวตัด เข้าไปขอผ่อนผันกับเตียวหุยว่า ขอเวลาเตรียมการอีกสักหน่อย สามวันไม่ทันแน่
ฮอมเกียง ถือธงขาว เครื่องนุ่งห่มขาวเข้าพบเตียวหุย ที่กำลังเสียสติ จึงต้องถูกโบย |
เตียวหุยโมโห สั่งจับนายทหารทั้งสองมัดกับต้นไม้ แล้วโบยตีคนละห้าสิบที จนเลือดออกปาก เท่านั้นไม่พอ เตียวหุยยังออกคำสั่งใหม่ ว่าพรุ่งนี้งานที่สั่งต้องเสร็จ ถ้าไม่เสร็จ... ตาย !
สามวันก็ไม่ทันแน่อยู่แล้ว นี่สั่งจะเอาพรุ่งนี้ เท่ากับมีเวลาจริง ๆ แค่วันเดียว แล้วสติปัญญาระดับของฮอมเกียง เตียวตัด จะหาของเหล่านั้นมาจากไหนได้ทัน นอกเสียจากทรยศหักหลัง และชิงฆ่าเจ้านายของมันเสียก่อน ว่าแล้วนายทหารทั้งสองนายก็ตกลงกันว่า จะลอบสังหารเตียวหุยในขณะที่กำลังเมาหลับอยู่ในที่ว่าราชการคืนนั้นนั่นเอง
เตียวตัด กำลังจ้วงแทงเตียวหุยอย่างเมามันส์ ไม่รู้ว่าเป็นที่คอหรือพุง |
เรื่องของเตียวหุยในวันนี้จึงเป็นอุทาหรณ์สอนใจสำหรับ “ท่านผู้นำ” ที่กำลังตกเป็นเป้าหมายของการลอบสังหาร ว่าเพราะเหตุใด ท่านจึงต้องประสบพบเจอเหตุการณ์เช่นนี้ นั่นอาจจะเป็นเพราะท่านไม่รู้ผิด รู้ชอบ ไม่โอบอ้อมเอาใจผู้ใต้บังคับบัญชา ตามกาลอันสมควร
เรื่องลอบสังหาร อย่ามัวแต่โยนให้ฝ่ายตรงข้าม เพราะบางที พวกผู้ก่อการอาจจะอยู่ใกล้ ๆ ก็ได้ ดังคำว่า “สนิมเกิด แต่เนื้อในตน” ... สวัสดี...
เพลง : เตียวหุยหน้าดำ
ขับร้องโดย : สรวง สันติ
“ว๊าก… ใครเห็นหน้ากูดำจงจำว่าดุ สันดานมุทะลุ ชื่อกูเรียกว่าเตียวหุย
นิสัยชอบฉุนเฉียว เฮ้ย! หมู่หรือเดี่ยวชอบลุย รบกันไม่ต้องมัวคุย ถ่มถุยอยู่ให้รกหู
นอกเสียจากพี่กู กวนอู เล่าปี่ ใครไหนอยากลองดี มาซีถ้าไม่ใช่พ่อกู
กูฤทธิ์มากแค่ไหน เฮ้ย! ตายแล้วค่อยๆ รู้ ไหว้วานคือทาบเรื่องกู เล่าสู่กันที่เมืองผี
ว๊าก.. เพ้ย!...เพ้ย!...เพ้ย!...เพ้ย!...เพ้ย!
ว๊าก.. เพ้ย!...เพ้ย!...เพ้ย!...เพ้ย!...เพ้ย!
กูเกลียดใคร ต้องให้เห็นดี กูรักใคร พร้อมถวายหัวพลี
ใครขัดตา ฆ่าได้ทันที ใครขัดใจ ตามไปถึงรูซี
นี่แหละ คนที่ชื่อเตียวหุยหน้าดำ… ว๊าก”
ผมว่าที่จ๊กก๊กล่มสลายก็เพราะอีจังไร2ตัวนี่แหละ เพราะพอกวนอูตาย ก็เหมือนเล่าปี่มือขวาขาด คนที่ฝีมือเทียบได้กะกวนอูมีคนเดียว ก็เตียวหุยนี่แหละ(เตียวหุยเก่งที่สุดด้วยซ้ำไป รบลิโป้ที่ขี่ม้าเซ็กเธา ตัวเองขี่ม้าธรรมดา รบกะม้าเฉียวตอนอายุ30 ตัวเอง50 ยังไม่แพ้เลย)
ตอบลบแต่อีจังไร2ตัวดันไปฆ่าเตียวหุย....จ๊กก๊กก็หมดท่าสิครับ
ปัจจัยที่ทำไห้จ๊กก๊กล่มสลายคือ
1ฮอมเกียง/เตียวตัด 20%
เล่าเสี้ยน30%
ม้าเจ๊ก20%
อุยเอี๋ยน30%(ตอนที่ขงเบ้งกำลังทำพิธีต่ออายุ อุยเอี๋ยนบัลเอิญเตะตะเกียงต่ออายุขงเบ้งดับ ขงเบ้งเลยสิ้นบุญ แต่จริงๆแล้ว อุยเอี๋ยนจงใจจะทำไห้ขงเบ้งตาย พอสิ้นบุญขงเบ้ง จ๊กก๊กก็แทบไม่มีชิ้นดีเลย)
ถ้าไม่มีไอ้พวกนี้ จ๊กก๊กคงเจริญกว่านี้แหละครับ