"วิถีแห่งอำนาจโจโฉ" เป็นคอลัมน์หนึ่งในนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ ผลงานของอาจารย์ เสถียร จันทิมาธร ผู้ที่เขียนเรื่อง "วิถีแห่งอำนาจ" มาแล้วหลายเรื่อง อาทิเช่น วิถีแห่งอำนาจสุมาอี้ , วิถีแห่งอำนาจลกซุน ฯลฯ
"วิถีแห่งอำนาจโจโฉ" เป็นคอลัมน์หนึ่งในนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ ผลงานของอาจารย์ เสถียร จันทิมาธร ผู้ที่เขียนเรื่อง "วิถีแห่งอำนาจ" มาแล้วหลายเรื่อง อาทิเช่น วิถีแห่งอำนาจสุมาอี้ , วิถีแห่งอำนาจลกซุน ฯลฯ"สำหรับโจโฉ การเมืองคือสุดยอด การทหารล้วนรับใช้การเมือง"
ผมติดตามคอลัมน์ วิถีแห่งอำนาจโจโฉ มาสักระยะหนึ่งและเฝ้ารอฉบับรวมเล่มอย่างใจจดใจจ่อ เพราะด้วยความที่ อ.เสถียร ฯ ลงบทความนี้เพียงสัปดาห์ละ 1 ตอนในนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ ทำให้ขาดความต่อเนื่องในการอ่านอย่างยิ่ง รวมทั้งไม่มีให้อ่านฟรีในเว็บไซต์มติชน ต้องเป็นสมาชิกเท่านั้น จึงจะสามารถอ่านย้อนหลังในรูปแบบ E-Book ได้
ล่าสุดบทความคอลัมน์นี้ได้ดำเนินมาถึงตอนที่ 100 "นักการเมือง นักการทหาร" ซึ่งก็คาดว่าใกล้จะจบเต็มที เพราะทั้งวิถีแห่งอำนาจสุมาอี้ ลกซุน ก็มีจำนวนตอนโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 100 เช่นกัน
และในวิถีแห่งอำนาจโจโฉ ตอนที่ 100 นี่เอง เว็บไซต์มติชนออนไลน์ ก็ได้นำบทความชิ้นนี้มาลงไว้ในเว็บไซต์ ให้นักอ่านได้ทดลองชิมลางกัน
อ่านแล้วสนุกและเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อการศึกษารูปเรื่องสามก๊ก จึงขอบันทึกไว้และนำมาให้อ่านกัน ก่อนที่จะได้อ่านในแบบรวมเล่มต่อไป
ลองอ่าน "วิถีแห่งอำนาจโจโฉ" ตอนที่ 100 นี้ดูครับ ! แล้วคุณอาจจะหลงรักโจโฉเข้า..... โดยไม่รู้ตัว
นักการเมือง นักการทหาร (100)
คอลัมน์ วิถีแห่งอำนาจ โจโฉ โดย เสถียร จันทิมาธรจากปี ค.ศ.155 กระทั่งได้รับตำแหน่งเป็นเว่ยกงหรืออัครมหาเสนาบดีในราชสำนักแห่งพระเจ้าเหี้ยนเต้ เมื่อปี ค.ศ.213
ชีวิตของโจโฉมิได้เป็นชีวิตแห่งการเสวยสุข
ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการเมือง ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการทหาร และไม่ว่าจะเป็นทางด้านการปกครอง
เริ่มต้นของโจโฉคือการเป็นขุนนาง เป็นฐานกำลังสำคัญทางการทหารในเมืองลั่วหยาง ประสบความสำเร็จมาพร้อม ๆ กับอ้วนเสี้ยว จากนั้นก็ค่อย ๆ เบียดแทรกเข้าไปอยู่ในศูนย์กลางแห่งอำนาจ
ไม่ว่าในยุคของโฮจิ๋น ไม่เว้นแม้กระทั่งในตอนต้นของยุคตั๋งโต๊ะ
เส้นแบ่งอย่างสำคัญของโจโฉเริ่มบาทก้าวแรก เมื่อเขาตัดสินใจจะลอบสังหารตั๋งโต๊ะ แล้วล้มเหลว ต้องหนีจากเมืองลั่วหยาง จากนั้นจึงไปสะสมกำลัง ณ บ้านเกิด แล้วเสนอแผนพันธมิตรโค่นตั๋งโต๊ะ โดยชูอ้วนเสี้ยวขึ้นเป็นหัวหน้า แผนนี้อาจล้มเหลวในเบื้องต้น แต่ต่อมาเมื่อในนครลั่วหยางใช้แผนนางงามกำจัดตั๋งโต๊ะสำเร็จ โจโฉก็เริ่มเข้าสู่ศูนย์กลางแห่งอำนาจอีกครั้งหนึ่ง
สร้างรากฐานจากการปราบโจรโพกผ้าเหลืองกระทั่งกลายเป็นขุนศึกสำคัญ
อาจกล่าว ได้ว่าโจโฉรู้จักประสานกลยุทธ์ทางการทหารเข้ากับการไต่ทะยานในทางการเมือง ขณะเดียวกัน อาศัยปัจจัยทางการเมืองขยายกำลังทางการทหาร
2 ปัจจัยนี้ทำให้กำลังของโจโฉมีความแข็งแกร่งและทรงความหมาย
ปัจจัย ชี้ขาดอันเป็นจุดหักเลี้ยวอย่างสำคัญเริ่มจากยุทธศาสตร์ทางการเมืองอิงพระ เจ้าเหี้ยนเต้ แล้วใช้อำนาจบงการขุนนางที่ยังภักดีต่อราชวงศ์ฮั่น สร้างความชอบธรรมทางการเมืองในการปราบปรามขุนศึกรายอื่น
ไม่ว่าจะเป็นลิโป้ ไม่ว่าจะเป็นเล่าปี่ ไม่ว่าจะเป็นอ้วนเสี้ยว
จุด สำคัญ 1 คือความรอบรู้ด้านบุ๋น จุดสำคัญ 1 คือความรอบรู้ด้านบู๊ และเมื่อโจโฉประสาน 2 ส่วนนี้เข้าด้วยกันอย่างคนศึกษาเป็น ใช้เป็น ทำให้สะสมชัยชนะ ขณะเดียวกัน จากการสะสมชัยชนะทำให้ปราการของโจโฉกลายเป็นแม่เหล็กแท่งมหึมา
ดูดดึงคนดีมีความสามารถให้เข้ามาห้อมล้อม ไม่ว่าจะเป็นทางด้าน "ที่ปรึกษา" ไม่ว่าจะเป็นทางด้าน "ขุนพล" นักรบมากด้วยฝีมือ
ตรงจุดนี้ต้องยอมรับว่า "เสน่ห์" ในตัวของโจโฉมากด้วยมนต์ขลัง
โจโฉเลือกใช้คนมีความสามารถ โดยเอาความสามารถเป็นหลัก จุดอ่อนข้อบกพร่องในด้านส่วนตัวเป็นรอง แม้กระทั่งปรปักษ์เก่าอย่างตันหลิม อย่างกาเซี่ยง ก็เปิดใจกว้างเข้ามาอยู่ในร่มเงา
การสะสมกำลังของโจโฉในห้วงต้นจึงมากด้วยความคึกคัก ยิ่งคึกคักยิ่งสะสมชัยชนะ ยิ่งสะสมชัยชนะยิ่งดูดดึงให้คนมีความสามารถเข้ามาร่วม
กระทั่งในที่สุดสามารถยึดครองภาคเหนือได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
หากมองแต่ผลบั้นปลายคือชัยชนะ คือความสำเร็จ ที่สามารถทะยานจากขุนพลเล็กๆ จนกลายเป็นอัครมหาเสนาบดี เป็นรากฐานให้กับราชวงศ์โจต่อเนื่องราชวงศ์ฮั่น
อาจประเมินว่า เส้นทางแห่งอำนาจของโจโฉดำเนินไปอย่างง่ายดาย หยิบชิ้นปลามันในท่ามกลางความขัดแย้งมาครอบครอง
ความเป็นจริงไม่มีอำนาจใดอยู่บนฐานอันง่ายดายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก
แม้กระทั่งซุนกวนซึ่งสืบทอดอำนาจโดยตรงจากบิดาคือซุนเซ็ก ก็ยังดำเนินไปด้วยความยากลำบากว่าจะสามารถรักษาอำนาจอันได้มาอย่างไร
ยิ่งโจโฉยิ่งมากด้วยอุปสรรค ยิ่งมากด้วยขวากหนามตลอด 2 รายทาง
แต่ก็ต้องยอมรับว่าโจโฉมั่นแน่วในปณิธาน แต่ก็ต้องยอมรับว่าโจโฉทุ่มเทความสามารถอย่างมีพลังวิริยภาพเต็มเปี่ยม ประสานการเคลื่อนไหวทางการทหารเข้ากับการเคลื่อนไหวอย่างมีจังหวะก้าวทางการ เมือง
ในที่สุดก็ประสบความสำเร็จตามความปรารถนา
กังฉินหน้าขาว โจโฉ |
ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริง ฝีมือและความสามารถของโจโฉมีความโดดเด่นเหนือกว่าประมุขทั้ง 3 แคว้น หรือแม้กระทั่งขงเบ้งที่ได้รับการยกย่องในภายหลัง
เพราะสามารถดำรงอยู่จนได้ครองอำนาจและอำนาจนั้นก็ต่อเนื่องมายังคนรุ่นหลัง
คล้ายกับความสามารถทางการทหารจะเป็นปัจจัยชี้ขาด แต่ความเป็นจริงก็ค่อยแผ่แบแสดงให้เห็นว่าความสามารถทางการเมืองของโจโฉต่าง หากที่ยอดเยี่ยม
สำหรับโจโฉ การเมืองคือสุดยอด การทหารล้วนรับใช้การเมือง
เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง
กรุณาแสดงความคิดเห็น